นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Lithium-Ion ขึ้นอีก 3 เท่า โดยการใช้ทรายเป็นส่วนประกอบ ซึ่งนอกจากจะอึดขึ้นแล้ว ยังราคาถูก สะอาดปลอดสารพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เทคโนโลยีต่างๆ ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งนึงที่ทุกคนบ่นกันมาตลอดคือ เมื่อไหร่เทคโนโลยีของแบตเตอรี่จะพัฒนาบ้าง เพราะตอนนี้ที่ใช้ๆ กันอยู่แบตจะผลิตมาจุมากแค่ไหน สุดท้ายก็ใช้ได้ไม่เกินวันสองวันอยู่ดี 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนเราจะมีหวังกันอีกครั้ง เมื่อนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย California Riverside นั้นได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้ Nano silicon มานานแล้ว แต่พบว่ามันเสื่อมสภาพเร็วเกินไป แถมยังมีปัญหาในการผลิตเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทางเลือกใหม่คือการใช้ทรายมาทำให้บริสุทธิ์เป็น Pure silicon ด้วยการบดเป็นผงกับเกลือและแมกนีเซียม จากนั้นก็อบด้วยความร้อนสูงเพื่อไล่ออกซิเจนออกไป

จากนั้นก็นำเอา Pure silicon ที่ได้จากทรายมาใช้เป็นวัตถุดิบในแบตเตอรี่ Lithium-Ion โดยการนำมาใช้แทนกราไฟต์ในฝั่งของ Anode (ขั้วบวก) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้ราว 3 เท่า

ต้องบอกว่างานวิจัยชิ้นนี้ยังอยู่ในระหว่างการทดลอง หรือยังอยู่ในห้องแล็บเท่านั้น แต่ก็ถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว ลองคิดว่าถ้าต่อไปแบตเตอรี่ของมือถือและแท็บเล็ตจะใช้งานได้นานขึ้น 3 เท่า หรือรถยนตร์ eco car ที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนก็จะใช้งานได้ยาวนานขึ้น และยังใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

source : pocket-lint

ข่าวนี้น่าจะถือเป็นนิมิตรหมายอันดีของวงการแบตเตอรี่ (หรือเปล่า) อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะถ้ายังจำกันได้มันก็งานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่พยายามจะหาทางสร้างแบตเตอรี่ชนิดใหม่ๆ อย่างเช่น Fuel Cell ที่มีการพูดถึงกันมาเป็น 10 ปี แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถผลิตออกมาใช้กันอย่างจริงจังได้่ แต่ยังไงก็คงต้องรอลุ้นให้มีเทคโนโลยนีใหม่ๆ ในการช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากขึ้น และยิ่งถ้าทำให้เล็กๆ เบาๆ ด้วยได้ยิ่งดี