มากันเป็นประจำทุกปี สำหรับการทดสอบกล้องของ Smartphone เรือธง ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากล้องดีที่สุด 4 ตัวมาทดสอบวัดให้ได้เห็นกัน ว่าใครคือที่สุดแห่งกล้องประจำปี ประกอบไปด้วย iPhone X, Samsung Galaxy Note 8, Google Pixel 2 XL, และ Huawei Mate 10 Pro ซึ่งทั้ง 4 ตัวนี้ต้องบอกว่านอกเหนือจากกล้องสวยแล้ว แต่ยังมีความแรงในสเปคและราคาอีกด้วยครับ ส่วนว่าจะดีสมเงินที่จ่ายไปมั้ย เดี๋ยวมาดูกันครับ

คำนำแต่ละรุ่น

  1. iPhone X – ตัวนี้ถือเป็นตัวแรงแพงที่สุดประจำปีไปแล้ว แล้วแน่นอนว่ากล้องก็ได้พัฒนาไปกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร
  2. Samsung Galaxy Note 8 – ตัวนี้ถือเป็นเรือธงตัวล่าสุดจากทาง Samsung และก็เป็นเรือธงตัวแรกของทาง Samsung ที่มาพร้อมกล้องคู่
  3. Google Pixel 2 XL – ตัวนี้เป็นที่พูดถึงกันมากเรื่องกล้อง เพราะใครที่ได้ดูภาพตัวอย่างจาก Google ไปแล้วต้องมีอึ้งในความสวยงามกันแน่
  4. Huawei Mate 10 Pro – ตัวนี้เป็นตัวเรือธงล่าสุดจากทาง Huawei ที่ได้ร่วมพัฒนากล้องกับไลก้า บริษัทกล้องชื่อดัง และเลนส์ที่ใช้มีรูรับแสงที่สว่างถึง f/1.6 กันเลย

สเปคโดยละเอียดของกล้อง Smartphone ทั้ง 4 ตัว

iPhone XNote 8Pixel 2 XLMate 10 Pro
(กล้องหลัง)
ความละเอียด12 ล้าน12 ล้าน12.2 ล้าน12 ล้าน
ขนาดจุด Pixel1.22 um1.4um1.4umN/A
รูรับแสงf/1.8f/1.7f/1.8f/1.6
กล้องคู่มีซูม 2 เท่า 12 ล้าน f/2.4มีซูม 2 เท่า 12 ล้าน f/2.4ไม่มีมี ขาวดำ 20 ล้าน f/1.6
โหมดถ่ายภาพมืออาชีพไม่มีมีไม่มีมี
โหมดหน้าชัดหลังเบลอมีมีมี (Software AI)มี
กันสั่นOISOISOISOIS
(วิดีโอ)
4K60fps30fps30fps30fps
Slow MotionFull HD 240fpsHD 240fpsFull HD 120fpsFull HD 60fps
กันสั่นOIS + EISOISOIS + EISOIS + EIS
(@Full HD Only)
(กล้องหน้า)
ความละเอียด7 ล้าน8 ล้าน8 ล้าน8 ล้าน
ขนาดจุด Pixel1.0um1.22um1.4umN/A
รูรับแสงf/2.2f/1.7f/2.4f/2.0

สำหรับใครยังไม่ทราบว่าสเปคเหล่านี้มีความหมายอย่างไร ทางเราได้เขียนรายละเอียดแนะนำเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามารถกดไปอ่านกันได้ที่

Smartphone Camera Specs

จากสเปค จะเห็นได้ว่าทุกตัวความละเอียดจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านเท่ากันทุกตัว แต่ขนาดของจุด ทาง Google Pixel 2 XL และ Note 8 จะใหญ่กว่าคู่แข่ง (ยังไม่มีข้อมูลขนาดจุดของ Huawei Mate 10 Pro แต่ถ้าขนาดใหญ่กว่าหรือเท่ากับคู่แข่งก็น่าจะพูดบนเวทีในงานเปิดตัวไปแล้ว) และจุดเด่นของ iPhone X คือการถ่ายวีดีโอ ที่สามารถถ่ายที่ความละเอียด 4K ได้ถึง 60fps (Note 8 ประกาศว่าจะมี update ให้ถ่าย 4K ได้ที่ 60fps ออกมาภายหลัง) ส่วนจุดเด่นของ Huawei Mate 10 Pro อยู่ที่รูรับแสงที่กว้างที่สุดถึง f/1.6 กันเลย

และอีกจุดนึงเป็นเรื่องของกล้องคู่ ที่ตอนนี้จะเห็นว่า Smartphone รุ่นดังๆทั้งหลายจะใส่กล้องคู่มาแทบทุกตัว เพื่อความสามารถในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (ที่ส่วนใหญ่จะเรียกว่า Portrait Mode) เนื่องจากว่ากล้องคู่อีกตัวจะทำหน้าที่เอาภาพส่งไปให้หน่วยประมวลผลภาพเอาภาพไปเทียบกับกล้องตัวแรก และใช้ Software คำนวณภาพว่าตรงไหนคือฉากหน้าและตรงไหนคือฉากหลัง และประมวลผลภาพออกมาเป็นภาพหน้าชัดหลังเบลอ (ให้นึกถึงการดูหนัง 3 มิติ ที่ต้องใช้ภาพ 2 ภาพที่ต่างกันจากตาซ้ายและตาขวา เพื่อให้เราเห็นภาพเป็น 3 มิติ) แต่ว่าในกลุ่มที่ทดสอบ มีแค่ Google Pixel 2 XL ตัวเดียวที่ไม่มีกล้องคู่ และใช้ Software AI ในการประมวลผลภาพหน้าชัดหลังเบลอร่วมกับ Dual Pixel ที่อยู่บนเซนเซอร์ Google อาศัย AI ในการวิเคราะห์ภาพ เช่นภาพนี้ตรงไหนคือหน้า ผม หมวก เสื้อผ้า ฯลฯ แล้วตรงไหนควรจะเป็นฉากหลัง แล้วก็ใช้ Software ในการประมวลผลภาพอีกครั้ง

วิธีการทดสอบ

จะทดสอบทั้งหมด 4 แบบ คือ กล้องหลัง, กล้องหน้า, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ และโหมดวีดีโอ โดยทุกแบบจะทดสอบในสภาพแสงกลางแจ้ง และสภาพแสงในร่ม ยกเว้นกล้องหลังที่จะมีทดสอบในสภาพแสงน้อย และสภาพแสงน้อยมากเพิ่มมาด้วย โดยทั้งหมดจะมี 11 หัวข้อ หัวข้อละ 10 คะแนน รวมเป็น 110 คะแนน โดยในแต่ละหัวข้อจะให้คะแนนแยกเป็นเรื่องสี 5 คะแนน และเรื่องรายละเอียดของภาพอีก 5 คะแนน โดยจะมีหลักการให้คะแนนตามนี้ครับ

หลักการให้คะแนน

ก่อนที่จะเริ่มดูผลทดสอบ ก็จะมาอธิบายหลักและวิธีการให้คะแนนในการทดสอบครั้งนี้กันก่อน เพื่อให้ลดช่องว่างของความชอบส่วนบุคคลที่จะไปมีผลต่อคะแนน โดยจะใช้หลักการให้คะแนนตามนี้ครับ

  1. การให้คะแนนในเรื่องของสี – เนื่องจากการทดสอบกล้องในแบบนี้ จะเน้นไปในเรื่องคุณภาพของกล้องเป็นหลัก ดังนั้นการให้คะแนนจะให้คะแนนในเรื่องความสมจริง หรือพูดง่ายๆก็คือใครสีออกมาตรงตามที่ตาเห็นมากกว่า ก็จะได้คะแนนมากกว่า หรือกรณีที่ตัวนึงสีจืดไป ตัวนึงสีสดไปหน่อย การให้คะแนนก็จะไปดูว่าตัวไหนใกล้ไปทางสีจริงมากกว่ากันก็จะได้คะแนนมากกว่า แล้วอีกอย่างนึง การให้คะแนนจะให้คะแนนบนจอที่ได้ Calibrated สีให้ตรงแล้ว ซึ่งตรงนี้มีผลพอสมควร เพราะปัจจุบันจอบนโทรศัพท์ของเราหรือจอคอมพิวเตอร์ก็ตาม มีความหลากหลายของสีมาก บางจอเร่งสี บางจอติดเหลือง บางจอติดฟ้า กรณีที่จอที่มีการเร่งสีมาก แล้วดูภาพที่สีสดไปนิด อาจจะกลายเป็นสีสดมากในจอ ทั้งๆที่สีจริงๆไม่ได้สดขนาดนั้น

          และแต่ในหัวข้อ อาจจะมีรูปมากกว่าหนึ่งรูป ก็จะใช้วิธีให้คะแนนทุกรูป แล้วเอาคะแนนมาเฉลี่ยกันเพื่อให้เป็นคะแนนเต็ม 5 ในแต่ละหัวข้อ

  1. การให้คะแนนในเรื่องของรายละเอียดภาพ – คะแนนในส่วนนี้ก็จะดูในเรื่องของรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของภาพ เช่นรายละเอียดตามต้นไม้ใบหญ้า รายละเอียดของสถาปัตยกรรมต่าง รวมไปถึง Dynamic Range ของภาพ เช่นความสามารถในการเก็บรายละเอียดในส่วนมืดหรือส่วนสว่าง ว่ามีส่วนที่รายละเอียดหายไปหรือไม่ แล้วในที่มืด Noise มากน้อยแค่ไหน หรือถ้า Noise น้อย แต่เพราะโดน Noise Reduction แล้วรายละเอียดหายไปหมดหรือไม่ การให้คะแนนจะให้คะแนนภาพที่ให้รายละเอียดมากกว่าได้คะแนนมากกว่า ถึง Noise จะเยอะกว่าบ้างก็ตาม (แต่ถ้า Noise เยอะมากๆก็จะได้คะแนนลดลงไป)

เริ่มทดสอบ