ข่าวนี้อาจจะฟังดูแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะเหล่าผู้ใช้ Android ก็ใช้ microUSB เหมือนๆกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะมีอย่างมากก็ Galaxy Tab รุ่นเก่าๆที่ไปลอกสายของทาง Apple มาซึ่งรุ่นใหม่ๆก็เปลี่ยนเป็น microUSB หมดแล้ว และข่าวนี้มันก็เป็นเรื่องของประเทศแถบยุโรป ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับไทย แต่จริงๆมันมีนัยยะน่าสนใจหลักๆ คือ กฎหมายนี้อาจจะทำให้โทรศัพท์ทั่วโลก สามารถใช้อุปกรณ์ชาร์จร่วมกันได้ทั้งหมด ไปเที่ยวกันก็สามารถแชร์สายชาร์จกันได้โดยไม่ต้องแบ่งว่าเราใช้ Samsung Galaxy, iPhone, หรือ Nokia อีกต่อไป

หัวและสายชาร์จล้นโลก…ปัญหาที่ยุโรปรณรงค์ช่วยกันแก้

ก่อนหน้านี้ที่ยุโรปได้ทำข้อตกลงร่วมกัน และพยายามผลักดันให้โทรศัพท์ทุกเครื่องใช้หัวและสายชาร์จร่วมกันได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเล็งเห็นว่ามันมีส่วนช่วยลดปัญหาขยะอิเลคทรอนิคส์ได้มาก ไม่ต้องมาซื้อใหม่ หรือสำรองเอาไว้หลายอัน และสามารถแบ่งปันกันใช้ได้ง่าย ซึ่งมาวันนี้ก็จัดการออกเป็นกฎหมายซะเลย จากที่แค่ขอความร่วมมือจากผู้ผลิต ก็เปลี่ยนเป็นการบังคับแทน

ใครได้รับผลกระทบ?

ในด้านของผู้ผลิต แน่นอนว่า Apple ผิดข้อกำหนดนี้ไปเต็มๆ เพราะว่าเป็นเจ้าเดียวที่ตอนนี้ใช้สาย lightning ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า

แต่ถ้ามองในด้านของผู้ใช้ คาดว่าคนที่จะซื้อ iPhone รุ่นต่อๆไปน่าจะดีใจ เพราะมันจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เยอะ เวลาที่เราหลงไปอยู่ท่ามกลางวงล้อมของ Android และต้องการยืมที่ชาร์จแบต ^^

Apple จะเปลี่ยนหัว Lightning มาใช้ microUSB??

ข้อนี้ผมยังสงสัยอยู่ และไม่คิดว่า Apple จะทำให้ iPhone 6 ใช้ microUSB แต่อาจจะได้เห็นมีการแถมหัวแปลง Lightning to microUSB แถมมาให้ในกล่องของเครื่องที่ขายใน EU แทน

สาย Lightning มันดียังไง?

อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไม Apple ถึงต้องทำสายชาร์จแปลกแยกจากชาวบ้านเค้า ซึ่งลองไปอ่านจาก WiKi จะพอสรุปได้คร่าวๆว่าสาย lightning จะมีข้อดีหลักๆคือ

  1. จะเสียบสายด้านไหนก็ได้  ไม่มีด้านบน-ล่างที่บังคับ
  2. จ่ายไฟ ให้อุปกรณ์อื่นได้ เช่น USB On-the-Go
  3. สายหัว Lightning ทนทานกว่า ไม่เจ๊งง่าย เพราะเป็นแท่งแข็ง ต่างจาก microUSB ที่เป็นมีรูด้านใน //[updated 3.53pm] ปรับเนื้อหาเพื่อลดความกำกวม
  4. Apple ขายไลเซนส์ได้ เมื่อมีใครต้องการจะทำอุปกรณ์ที่ใช้หัวนี้
ไปลองอ่านเต็มๆดูนะ มีมากกว่าที่เขียนไว้อยู่ http://en.wikipedia.org/wiki/Lightning_(connector)


กฎหมายนี้มันที่ยุโรป แล้วมันจะมีผลกับทั่วโลก?

เนื่องจาก EU เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเจ้านึง และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะตลาดอื่นๆจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกฎนี้ด้วยเช่นกัน

 

ความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดเมื่อไหร่อย่างไรนั้น เราคงจะไม่ได้เห็นเป็นตัวเลข วันที่หรือเวลา หรือรายงานอะไร แต่ว่าจะรับรู้ได้ถึงผลกระทบต่อกฎหมายนี้ได้ชัดจริงๆก็ตอนที่ iPhone รุ่นใหม่ออกมาว่าจะทำตามกฎหมายนี้ยังไงมากกว่า…น่าติดตาม 🙂

 

ลองกลับไปอ่านเรื่อง

หัวเปลี่ยนให้ iPhone สามารถใช้ที่ชาร์จ Android (หรือ Windows Phone) ก็ได้

source: Engadget