Updated: แก้ไขข้อมูลราคาจาก Huawei ตกลงว่าจองตอนนี้ก็ได้ราคา 5,590 บาทเหมือนเดิมครับ

สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่านครับ หลังจากได้เขียน พรีวิวเจ้า Huawei Honor 3C ไปมีหลายคนสนใจไปจองไปเครื่องมาเรียบร้อย ไม่รู้มีเพื่อนสมาชินคนไหนไปจองทัน 10 คนแรก หรือ 70 คนแรกกันบ้างหรือเปล่าหนอ? สำหรับราคาเต็มของ Huawei Honor 3C นั้นอยู่ที่ 7,990 บาท สำหรับคนที่จองภายในวันที่ 6 พ.ค. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะได้ราคา 5,590 บาทครับ

วกกลับมาเรื่องรีวิวหลังจากได้ทดลองใช้งานมาเต็มอาทิตย์ ก็ได้เวลามาเล่าสู่กันฟังแล้วครับ ว่ามือถือราคา 5,590 บาทนั้นให้อะไรกับเราบ้างในแง่ของความสามารถและประสิทธิภาพของตัวเครื่องเอง เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

แกะกล่องกันก่อน…

กล่องของ Huawei Honor 3C นั้นเป็นสีฟ้าอ่อน มีตัวหนังสือคำว่า HONOR ตัวใหญ่พิมพ์อยู่ ขนาดกล่องไม่ใหญ่มาก พอแกะกล่องออกเราจะพบอุปกรณ์ดังนี้

1. Huawei Honor 3C

2. สาย USB

3. Adaptor สำหรับชาร์จ ขนาด 5V1A

4. หูฟัง Smalltalk

5. คู่มือเริ่มต้นการใช้งาน

ใครที่ได้เครื่องมาแล้วอย่าลืมเช็คอุปกรณ์ว่าครบตามนี้หรือเปล่านะครับ โดยเฉพาะรายการที่ 2-4 ดูดีๆ ส่วนรายการแรกช่างมัน เย้ย!


ว่ากันด้วยเรื่องสเปก…

สเปกของ Huawei Honor 3C นั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยครับ สำหรับมือถือราคา 5,590 บาท ลองมาดูรายละเอียดกัน

  • สัดส่วน: 139.5 x 71.4 x 9.2 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 140 กรัม
  • หน้าจอ: LTPS (Low Temperature Poly Silicon) ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 720p
  • เครือข่าย: รองรับ 2G ทุกเครือข่าย ส่วน 3G นั้นรองรับคลื่น 900/2100 เท่านั้น พร้อมการใช้งาน 2 ซิมการ์ด stand by พร้อมกัน
  • CPU : Mediatek MT6582 Cortex A7 Quad core 1.3 GHz
  • GPU : Mali-400MP
  • RAM : 2 GB
  • หน่วยความจำภายใน : 8 GB เพิ่ม microSD ได้ถึง 32GB
  • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล 
  • กล้องหลัง : 8 ล้านพิกเซล Sony BSI พร้อม AF และ LED flash
  • แบตเตอรี่ : 2,300 มิลลิแอมป์
  • OS : Android 4.2 พร้อม Emotion UI 2.0

 

รอบตัวเจ้า Honor 3C…

ขนาดของ Honor 3C นั้นถือว่าจับถือได้พอดีมือสำหรับมือถือที่มีขนาดหน้า 5 นิ้ว ผมลองเอาไปให้เพื่อนผู้หญิงถือดูเธอก็บอกว่า โอเคพอดีไม่ใหญ่เกินไป ส่วนเรื่องความบางนั้นถือว่า บางพอสมควร แต่ไม่ได้บางแบบเหลี่ยมๆทื่อๆนะครับ เพราะด้านหลังจะมีความโค้งเพื่อให้เข้ากับอุ้งมือของเราด้วย ทำให้การจับการยืดนิ้วแตะหน้าจอในบริเวณที่เกินเอื้อมสักหน่อย สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะหลุดมือ เราลองมาดูรอบตัวเครื่องว่ามีอะไรบ้าง ขออนุญาตเอาข้อมูลตอนพรีวิวมารีรีนอีกสักครั้ง

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านขวาจะมีปุ่ม Volume Control และปุ่ม Power ตามมาตรฐานมือถือแอนดรอยด์ทั่วไป

 

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสาย MicroUSB สำหรับชาร์จและโอนข้อมูล พร้อมช่องไมค์สำหรับสนทนา

 

ด้านหน้าของตัวเครื่องนอกจากหน้าจอแล้ว ด้านบนจะมีลำโพงสำหรับสนทนาและกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างจะเป็นปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive ไล่ตามลำดับเป็นปุ่ม Back, ปุ่ม Home และปุ่มเมนูครับ น่าเสียดายที่ไม่มีไฟสำหรับปุ่มสัมผัส ทำให้มองไม่เห็นปุ่มในที่มืดหรือแสงน้อยนะครับ

 

ด้านหลังประกอบด้วย กล้องหลักขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash บริเวณด้านบนของกล้องเป็นรูสำหรับไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะเป็นลำโพงสำหรับเสียงเรียกเข้าและเสียงเตือนครับ

 

พอแกะฝาหลังออกมาเราจะพบช่องใส่ MicroSIM 2 ช่อง โดยลำดับจะแปลกๆนิดหน่อยคือ SIM 1 อยู่ข้างล่างและ SIM 2 อยู่ข้างบนครับ ส่วนแบตเตอรี่นั้นก็กลับหัว

 

พอพลิกมือถือกลับหัวเราห็จะเห็นแบตเตอรี่ขนาด 2300 มิลลิแอมป์ ซึ่งขอบอกว่าอึดใช้ได้เลยทีเดียวครับ

 

LTPS (Low Temperature Poly Silicon)

อย่างที่เคยบอกไปตอนพรีวิวว่าสิ่งที่สะดุดตาเป็นอย่างแรกคือ “หน้าจอ” ของมือถือเครื่องนี้ โดยหน้าจอของ Honor 3C ไม่เหมือนกับมือถือ Android ทั่วไปในช่วงราคาเดียวกัน คือ เป็นหน้าจอ 5 นิ้วแบบ LTPS (Low Temperature Poly Silicon) ความละเอียดระดับ HD หรือ 720p ด้วยความสัตย์จริงผมไม่รู้จัก LTPS มาก่อน เลยลองไปหาข้อมูลดู อธิบายได้คร่าวๆว่าเป็นประเภทหนึ่งของจอ TFT โดยจอ TFT ทั่วไปนั้นจะเป็นแบบ a-Si (Amorphous Silicon) TFT ในขณะที่ LTPS จะเป็น Poly-Si (Poly-Silicon) ซึ่งมีโครงสร้างแตกต่างไปจากเดิมพอสมควรตามรูป

จุดเด่นของ LTPS คือ สามารถให้ความหนาแน่นของพิกเซลระดับสูงได้และใช้พลังงานในการแสดงผลน้อยลงจากเดิม เหมาะกับตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบันและในอนาคตที่จอมีแต่จะใหญ่ขึ้นในขณะที่ต้องประหยัดพลังงานมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นหน้าจอ LTPS จะมีความบางมากกว่าเดิมเพราะวงจรสำหรับการแสดงภาพถูกรวมเข้าไปกับกระจกจอเลย ส่วนจุดด้อยคือ ต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่า TFT แบบธรรมดา เพราะมีความซับซ้อนในการผลิตมากกว่าจึงทำให้อัตราการผลิต (Yield rate) ต่ำลง แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือน LTPS จะเป็นคำตอบสำหรับสมาร์ทโฟนในอนาคตแน่นอน ( ที่มา )

กลับมาในส่วนคุณภาพของจอ LTPS บน Honor 3C ที่มองเห็นได้ด้วยตานั้นต้องบอกว่า จอแบบนี้ให้ภาพสวย สีสันสดใส และคมชัดพอสมควร ยิ่งถ้าบอกว่านี่เป็นจอ TFT แบบหนึ่งยิ่งน่าประหลาดใจ รวมถึงมุมมองของจอ (Viewing angle) ที่เคยเป็นจุดบอดของ TFT แบบเดิมก็ไม่เป็นปัญหาอีกแล้ว ผมไม่มีข้อมูลว่ามุมมองได้กี่องศาแต่เท่าที่ดูแบบ 180 องศา สีของภาพก็ไม่ได้เพี้ยนแต่อย่างใด

 

ระบบสแตนบายด์ 2 SIM

Huawei Honor 3C นั้นรองรับการใช้ 2 SIM โดยสามารถ stand by รอรับสายได้พร้อมกัน แต่ถ้ามีการใช้งานสายใดสายหนึ่งอยู่ แล้วใคนโทรเข้าอีกสายจะกลายเป็นเป็นสายไม่ว่างนะครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรูปแบบการทำงานทั่วไปของมือถือ 2 SIM สำหรับเครือข่ายที่รองรับโดย Honor 3C นั้น ถ้าเป็น2G สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย แต่ถ้าเป็น 3G นั้นจะรองรับเฉพาะคลื่น 900/2100 เท่านั้น ก็อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่เล็งมือถือรุ่นนี้อยู่ แต่ใช้เครือข่าย 3G ที่ไม่ใช่ 900/2100 นะครับ ส่วนคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดก็เปิดเบอร์ใหม่โลด สำหรับ SIM ที่จะใช้งาน 3G นั้นต้องเสียบในช่อง SIM1 ส่วน SIM2 นั้นจะรองรับการใช้งานแบบ 2G เท่านั้น

การเข้าไปจัดการ SIM นั้นให้เข้าไปที่ Settings แล้วเลือก “Dual Card” ซึ่งเราสามารถเปิด-ปิด SIM และเลือกใช้งาน data จาก SIM ที่ต้องการได้ในหน้านี้ จากรูปด้านบน ทางด้านซ้ายผมลองใส่ SIM ของ AIS เป็น SIM1 จะเห็นว่ามีสัญลักษณ์ H+ ขึ้นมาและมีคำว่า “3G” อยู่ตรงระดับสัญญาณของ SIM แรก ส่วนอีก SIM เป็น DTAC มีคำว่า “G” อยู่ตรงระดับสัญญาณของ SIM ที่สองครับ

ในทางกลับกัน ผมลองสลับเอา SIM ของ DTAC มาใส่ SIM1 และ AIS เป็น SIM2 ปรากฎตามรูปด้านขวาที่เป็นคำว่า “G” อยู่ตรงระดับสัญญาณของทั้งสอง SIM มีสัญลักษณ์ E ที่บอกว่าตอนนี้เป็นการใช้งานข้อมูลแบบ Edge นะ ดังนั้นเวลาใส่ต้องใส่ให้ถูกช่องนะครับ

 

ความสามารถด้าน Software …

ในส่วนของซอฟท์แวร์นั้น Huawei Honor 3C มาพร้อมกับ Android 4.2.2 Jelly Bean โดย Huawei ได้ปรับแต่ง UI ของระบบใหม่เรียกว่า Emotion UI 2.0 ซึ่งต้องบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก MIUI พอสมควรเลย เราลองมาดูจุดเด่นของ Emotion UI กันดีกว่า

Home Screen ของ Emotion UI 2.0 นั้นจะไม่มี App Drawer หรือ “หน้ารวม App เหมือนกับ Home Screen ทั่วๆไปของ Android นะครับ โดย App ทุกตัวในเครื่องจะถูกวางไว้บนหน้า Home Screen ทั้งหมด แล้วให้เราปัดซ้ายปัดขวาเพื่อเลือกเปิด App ที่ต้องการจากหน้า Home Screen เลย ดังนั้นเราสามารถจัดวางตำแหน่งและสร้าง Folder ได้อย่างอิสระบน Emotion UI

แต่หากบางครั้งตำแหน่งของ App มันสะเปะสะปะไปทั่วหน้าจอแล้วเราขี้เกียจมานั่งจัดใหม่ เราสามารถให้ระบบจัดเรียงให้อัตโนมัติได้ โดยการเข้าสู่โหมดการ Edit หน้าจอ แล้วเขย่าเครื่อง 1 ครั้ง ตัว Emotion UI ก็จะจัดเรียง Icon ของ App บนหน้าจอให้อัตโนมัติเลยครับ

 

Themes

Emotion UI 2.0 ยังมาพร้อมกับระบบ Themes ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือก theme ที่ชื่นชอบมาเพื่อปรับหน้าตาของตัว UI ได้ โดยเริ่มต้นจะมี theme ติดมากับเครื่อง 3 theme ด้วยกันคือ Brightness, Youth และ Journey แต่ละ theme ก็จะเน้นสีสันสดใสและรูปแบบ Icon ที่แตกต่างกันตามแต่ละ theme รวมถึงหน้า Lockscreen เองก็จะเปลี่ยนไปตาม theme ที่เลือกได้อีกด้วย เราสามารถเลือกปรับ theme ได้โดยการเลือกที่ “Themes” บนหน้า Home แล้วจะปรากฎรายการของ theme ที่มีการติดตั้งอยู่ในเครื่องมาให้เราเลือกใช้ได้

 

นอกจากนั้นตัว Emotion UI ยังอนุญาตให้เรา download theme จากอินเตอร์เน็ตมาติดตั้งเพิ่มเติมในเครื่องได้อีกด้วย โดยเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวม theme ของ Emotion UI นั้นคือ emui.com โดยเราสามารถเลือกรุ่นมือถือและเวอร์ชันของ Emotion UI ที่เราต้องการจะ download ได้ สำหรับ theme ของ Honor 3C นั้นกด ที่นี่ ได้เลยครับ

วิธีการติดตั้ง theme ลงในเครื่อง หลังจากที่เรา download มาแล้ว จะได้ไฟล์นามสกุล *.hwt ให้เรา copy ไฟล์นั้นไปเก็บไว้ใน folder ชื่อว่า HWThemes ในโทรศัพท์ แล้วกลับมาเปิดแอพ “Themes” อีกครั้ง จะเห็นว่ามีรายการ theme ให้เลือกเพิ่มขึ้นมา ก็เลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยครับ


Simple Home

Emotion UI สามารถเปลี่ยนรูปแบบเป็น Simple Home ได้ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้อะไรมากมาย เน้นใช้งานโทรศัพท์กับ App เพียงไม่กี่อย่าง ยึดความง่ายเป็นหลัก อย่างเช่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ที่อาจจะคุ้นเคยกับการใช้งานลักษณะที่เป็น Featurephone มากกว่า Smartphone ซึ่งจริงๆ แล้ว Simple Home ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะครับ การเปิดใช้ Simple Home ทำได้โดยการกดปุ่ม Menu ที่หน้า Home Screen แล้วเลือก Simple Home จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ (ขออนุญาตเปลี่ยนภาษาเครื่องเป็นภาษาไทยด้วยเพื่อให้เข้ากับการใช้งาน)

Simple Home ก็เหมือนการเอา Shortcut มาเรียงต่อกันให้เต็ม 3 หน้าจอ โดยแต่ละ Shortcut จะเป็นเการอ้างถึงรายชื่อเบอร์โทรศัพท์หรือชื่อ App ก็ได้ครับ ทำได้โดยการกด “เพิ่ม” ในกล่องสี่เหลี่ยมที่ว่างอยู่ ถ้าต้องการลบ Shortcut ที่กล่องไหนก็ให้แตะหน้าจอค้างไว้ แล้วก็เลือก “ลบ” ออกได้เลยครับ ง่ายๆแค่นี้แหละ คราวนี้ต่อให้เป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าตามยายใช้ก็ไม่หวั่น

 

Swype for Huawei

Honor 3C นั้นแถมคีย์บอร์ด Swype มาให้ด้วยครับ โดยความสามารถก็ไม่ต่างจาก Swype ที่ขายอยู่ใน Play Store เลย มีภาษาให้เลือกให้ใช้เยอะ แต่เราสนใจแค่ 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย ซึ่งก็มีอยู่ใน Swype ที่แถมมากับเครื่องอยู่แล้ว รู้สึกเห็นด้วยในจุดนี้ที่ Huawei ตัดสินใจใช้คีย์บอร์ดดีๆที่มีอยู่แล้วในตลาดมาเป็น default keyboard ของเครื่อง โดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาคีย์บอร์ดขึ้นมาใหม่เองด้วย

 

กล้องหลังและกล้องหน้า…

 

กล้องหลัง ของ Huawei Honor 3C นั้นถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซลสัดส่วนแบบ 4:3 และสามารถถ่ายแบบมุมกว้าง (wide) ได้ที่ความละเอียด 6 ล้านพิกเซลสัดส่วนเป็น 16:9 เซ็นเซอร์เป็น Sony BSI ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น การโฟกัสทำได้เร็วและการถ่ายก็ทำได้เร็วเช่นกัน กดปุ๊บแชะปั๊บ ภาพถ่ายที่ได้จากเจ้า Honor 3C นั้นถือว่าดีเลยทีเดียวครับ มี mode ถ่ายรูปให้เล่นหลายแบบไม่ว่าจะเป็น

  • Normal : ถ่ายแบบ Manual ปรับแต่งเอง
  • Smart : ถ่ายแล้วรูปจะถูก enhance ไปตามสภาพแวดล้อมรอบๆ หรือโหมด Auto ที่เรารู้จักนั่นเอง
  • Beauty : ถ่ายด้วยระบบกำจัดสิวแล้วริ้วรอย
  • HDR : ถ่ายหลายๆสภาพแสง แล้วนำภาพมารวมกัน
  • Panorama : ถ่ายแบบพาโนรามา
  • Meter : ถ่ายด้วยระบบโฟกัสก่อนวัดแสงทีหลัง โดยกล้องจะให้เราเลือกจุดโฟกัส จากนั้นก็จะให้เราเลือกจุดวัดแสงแล้วค่อยถ่ายครับ
  • MAV : ถ่ายภาพหลายๆภาพในแนวนอนแล้วก็มาต่อกันเป็นภาพเดียว เวลากดถ่ายระบบจะให้แพนกล้องจากซ้ายไปขวา พอถ่ายเสร็จจะกลายเป็นรูปเดียว แล้วให้เรามาเลื่อนดูได้คล้ายๆ Photosphere แต่เป็นแนวราบด้านหน้าอย่างเดียว
  • Effect : เลือก Filter สีต่างๆก่อนถ่ายรูปจริงได้
  • Audio note : ถ่ายรูปแล้วสามารถบุนทึกเสียงใส่รูปนั้นได้ไม่เกิน 10 วินาที
  • Audio Control : ถ่ายรูปด้วยเสียง โดยระบบจะตรวจสอบความดังของเสียงว่าถึงระดับเดซิเบลที่กำหนดไว้ แล้วก็จะกดชัตเตอร์ให้อัตโนมัติ ผมลองแล้วได้ทั้งคำพูดหรือเสียงแบบอื่น เช่น ผิวปาก ก็ถ่ายได้

ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายของ Huawei Honor 3C กัน ทุกภาพแค่ผ่านการ resize มาอย่างเดียว (ภาพเต็ม click ดูที่นี่)

ภาพกลางแจ้ง


ภาพในอาคาร


ภาพกลางคืน

 

วิดีโอ

สำหรับการถ่ายวิดีโอสามารถได้ที่ความละเอียดสูงสุด 720p และ framerate ที่ 30 fps ภาพวิดีโอที่ได้ถือว่าชัดแต่เสียงที่อัดมาได้นั้นไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ออกแนวดำน้ำนิดๆ เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะตัวไมค์อัดเสียงยังไม่ใช่แบบคุณภาพสูงนัก นี่คือตัวอย่างวิดีโอครับ การถ่ายวิดีโอไม่สามารถ Pause กลางทางแล้วถ่ายต่อได้ ต้อง stop เพื่อบันทึกวิดีโอแล้วเริ่มถ่ายเป็น clip ใหม่

Play video

 

กล้องหน้านั้นเป็นแบบ Fixed focus ความละเอียด 5 พิกเซลใช้เซนเซอร์ของ Samsung คุณภาพของภาพถ่ายก็ถือว่าตามมาตรฐานไม่มีอะไรพิเศษ แต่จะสามารถถ่าย Beauty ได้ด้วย เหมาะสำหรับคนชอบถ่าย Selfie อวดเพื่อนๆนะครับ นอกจากนั้นก็มี Panorama, Effect, Audio Note และ Audio Control ให้ใช้เหมือนกับกล้องหลังเลย

 

สมรรถภาพและความอึด

จากการวัดประสิทธิภาพของตัวเครื่องด้วย App ยอดนิยมอย่าง Antutu และ Quadrant ได้ผลออกมาดังภาพ

จากผลคะแนนที่ได้ออกมาจากทั้ง 2 App ต้องบอกว่าประสิทธิภาพของ Huawei Honor 3C นั้นเหลือๆเลยสำหรับการใช้งานทั่วไป แม้แต่การเล่นเกมส์ก็เล่นได้สบายๆ แต่ต้องไม่ใช่เกมส์ 3D จ๋า Texture หนักๆนะครับ Cookie Run, Line Ranger, Candy Crush นี่สบายๆเลย ส่วนพื้นทีความจุ 8 GB นั้นใช้งานได้จริง 5.47GB ก็ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่ ยังไงควรจะเตรียมซื้อ microSD มาใช้ด้วย

 

มาในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ต้องบอกว่าประทับใจเพราะสามารถใช้งาน 1 วันได้แบบสบายๆ ผมถอดสายชาร์จตอน 8 โมงเช้า มีการใช้งานทั้งวัน โดยเป็นการใช้งานทั่วไปคือ Social, ถ่ายรูป และ ฟังเพลง ปรากฎว่าตอนก่อนจะนอนประมาณตีหนึ่ง แบตก็ยังเหลืออยู่ที่ถึง 41% ถึงแม้ว่าความจุแบตเตอรี่จะไม่เยอะเพียง 2300 mAh แต่กลับทนเหลือเชื่อ นอกจากนั้น สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างคือ ระบบตรวจสอบ App ที่ใช้พลังงานผิดปกติ โดย Honor 3C จะมีการแจ้งเตือนอยู่บ่อยๆ ว่า App ไหนที่กำลังกินแบตอยู่พร้อมทั้งให้เราสามารถสั่งปิด App นั้นได้เลย


สรุปข้อดีและข้อเสีย…

ข้อดี

  • ใช้งานได้ 2 SIM
  • Emotion UI 2.0
  • จอสวย
  • ประสิทธิภาพดี
  • แบตเตอรี่อึด
  • ภาพถ่ายสวย
  • คุ้มค่า ราคาไม่แพง

ข้อเสีย

  • ยังไม่ใช่ Android 4.4.2 KitKat
  • รองรับ 3G บนคลื่น 900/2100 เท่านั้น
  • ความจุน้อยเพียง 8GB (เหลือให้ใช้เพียง 5.47GB)
  • ไม่มีไฟสำหรับปุ่ม capacitive เวลามืดจะมองไม่เห็นปุ่ม


บทส่งท้าย…

Huawei Honor 3C เป็นมือถือที่มีความคุ้มค่ามากในตอนนี้ ถ้าเทียบราคา 5,590 บาทต่อสเปกและประสิทธิภาพโดยรวมจากการใช้งาน หากมีใครกำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 6,000 บาท แต่ได้มือถือรองรับ 2 SIM, ใช้งานได้ลื่นไหล, RAM 2 GB, จอใหญ่แถมภาพชัด และภาพถ่ายสวย นี่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก ติดอย่างเดียวหากท่านไม่คิดจะใช้ 3G บนคลื่น 900/2100 อาจจะมองหารุ่นอื่นๆที่สเปกและราคาใกล้เคียงกัน เช่น ASUS Zenfone 5 ที่สเปกและราคาสูสีกันมาก แต่ Zenfone ได้เปรียบที่ใช้งาน 3G ได้ทุกค่าย (ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาด)

ตอนนี้ Huawei Thailand กำลังเปิดรับจอง Honor 3C รอบใหม่ หลังจากรอบแรกได้ยอดไปกว่า 1,000 เครื่อง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมี Line account ของ Huawei หรือ click Like ที่ Facebook ของ Huawei Device Thailand จะได้ส่วนลด 30% จาก 7,990 บาทเหลือ 5,990 บาท 5,590 บาท ใครสนใจก็ไปสั่งจองได้ที่ Jaymart และ TG ทุกสาขาครับ

สำหรับใครที่เล็ง Huawei Honor 3C และเปรียบเทียบกับ Asus Zenfone 5 อยู่สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ https://droidsans.com/compare-asus-zenfone5-vs-huawei-honor3c ในคอมเม้นท์มีคนที่ใช้ทั้งสองตัวนี้อยู่มาตอบกันมันส์สะพรึมเลย 😀

 

 

การรีวิวขอจบลงเพียงเท่านี้ ใครมีข้อสงสัยหรืออยากรู้อะไร comment บอกได้เลย วันนี้ลาไปก่อนคราวหน้าเจอกันใหม่กับรีวิว Huawei Ascend Y600 ครับผม สวัสดีครับ