หลังจากที่ Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus ออกมาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพ Portrait ปรับภาพให้เป็น Bokeh ละลายฉากหลังให้เบลอฟุ้งดูนิ่มนวลดั่งถ่ายจากกล้องใหญ่ DSLR ราคาแพง ก็มีความพยายามบอกกันเหลือเกินว่าภาพของทั้งคู่นี้ถ่ายออกมาได้แบบไปเที่ยวไม่ต้องแบกกล้องใหญ่อีกต่อไปแล้ว วันนี้เลยขอเอาไปลองทดสอบให้ได้เห็นกันจะๆว่าถ้าจับชนเทียบกันจริงๆจะเป็นอย่างไรกันแน่

*เพิ่มเติมภาพ crop*

ข้อมูลกล้อง Full Frame ที่นำมาใช้

โดยกล้อง Full Frame ที่นำเอามาเปรียบเทียบด้วยจะเป็น Sony Alpha 7II ใส่เลนส์ Kit 28-70 f3.5-5.6 ที่มากับเครื่องมันเอง ซึ่งเลนส์ตัวนี้แม้ว่าจะเป็นเลนส์คิท แต่ถ้าใครเคยไปอ่านรีวิวทดสอบจากหลายๆสำนัก จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น Kit ที่คุณภาพดีมากตัวนึงเลยทีเดียวครับ ส่วนการตั้งค่าจะเลือกเป็นโหมด P หรือ SCN (autoscene) เป็นหลัก จะได้มีเงื่อนไขเดียวกับสมาร์ทโฟนทั้งคู่ที่เราเพียงแค่ยกถ่ายเช่นกัน ให้คล้ายผู้ใช้ทั่วไปใช้ที่สุดครับ

ถ้าไม่อยากดูภาพจากด้านล่าง ช่วยเราประหยัด Bandwidth สามารถไปดูภาพทั้งหมดได้ที่ Google Photos ตามลิงก์นี้นะ https://photos.app.goo.gl/LXunjq249HCgC34u2

สำหรับภาพ Portrait ที่ถ่ายมานั้น จะพยายามทดสอบหลายรูปแบบ หลายสภาพแสงนะ โดยภาพจะมีการเรียงตามลำดับ ซ้ายไปขวาดังนี้

  • ซ้าย : Sony Alpha 7II
  • กลาง : iPhone 8 Plus
  • ขวา : Galaxy Note 8

ทุกภาพพยายามผมพยายามจัดองค์ประกอบและวัดแสงตำแหน่งเดียวกันเพื่อให้ได้ภาพที่ออกมาเหมือนกันมากที่สุดนะ และแบ่งภาพออกเป็นสองส่วนคือ

1. ภาพบุคคล + ภูมิทัศน์

Sony Alpha 7II ปรับเลนส์ไปที่ 28mm ส่วน Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus จะใช้เลนส์ธรรมดา

2. ภาพบุคคล + เปิด Bokeh

Sony Alpha 7II ปรับเลนส์ไปที่ 50mm เพื่อให้ใกล้เคียงกับซูม 2 เท่าของทั้ง Galaxy Note 8 และ iPhone 8 Plus เพื่อลองเช็คคุณภาพเซนเซอร์ เลนส์ และคุณภาพการถ่ายโบเก้ ดูสวยจริงหลอกแค่ไหน

ดูผ่านๆ ภาพเล็กเหมือนจะสวยไม่ต่าง ความห่างชั้นจะชัดเมื่อดูจอใหญ่

จนถึงตอนนี้ถ้าใครดูภาพผ่านจอมือถือหรือไซส์เล็กอาจจะบอกว่าภาพดูไม่ต่าง หรือว่าบนมือถือดูสวยกว่า แต่เดี๋ยวก่อน อยากให้ลองดูภาพใหญ่ขนาดไฟล์เต็มๆกันนิดนึงก่อน และดูรายละเอียดของ Dynamic Range (พื้นที่ส่วนสว่างสุดและมืดสุด) ความอิ่มของสี (ซีดหรือสดกว่า) และรายละเอียดของพื้นผิว (ทั้งคนและสิ่งของ) จะเห็นว่า Full Frame จะเก็บข้อมูลมาได้เยอะกว่า

*เพิ่มเติม* คิดว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่ได้ได้เข้าไปดูภาพขนาดเต็มและซูมรายละเอียด จึงขอไปครอปมาให้ดูไปเลยละกัน แนะนำว่าต้องดูจอใหญ่นิดนึงนะถึงจะเห็นชัด

ดูภาพทั้งหมดผ่าน Google Photos

เห็นภาพข้างต้นแล้วก็เริ่มอยากจะดูแบบซูมรายละเอียดแล้วใช่มั้ยครับ เพื่อความง่าย สะดวก และได้ภาพที่คมชัด ทางผมได้อัพโหลดไฟล์ทั้งหมดนี้ขึ้น Google Photos เรียบร้อย สามารถเข้าไปกดดูกันได้ตามลิงก์นี้นะ https://photos.app.goo.gl/LXunjq249HCgC34u2

การปรับแสงภายหลัง ข้อได้เปรียบใหญ่ของกล้องโปร

ภาพของกล้อง Sony Alpha 7II หลายภาพ ผมต้องทำการปรับแสงเล็กน้อย เพราะมีการถ่าย under ไปในหลายๆชอต จากความไม่ชินของผมเอง ซึ่งก็ยังสามารถดึงได้โดยภาพไม่สูญเสียคุณภาพอะไร ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับภาพจากกล้องมือถือแล้ว คุณภาพดรอปลดลงอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

เปรียบเทียบการดึงแสงปรับสีจากแต่ละกล้อง



สภาพแสงน้อย Full Frame ยังกินขาดสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะเลนส์ซูม 2x

ปัจจุบันสภาพแสงปกติเมื่อถ่ายภาพมา สมาร์ทโฟนระดับท็อปแทบจะมีคุณภาพที่ไม่หนีกันมากนัก แต่ถ้าเป็นสภาพแสงน้อยเมื่อไหร่ จะเริ่มเห็นความต่างของเซนเซอร์และเลนส์อย่างชัดเจน ยิ่งเป็นกล้องตัวที่สอง ซึ่งปกติจะเลือกเลนส์และเซนเซอร์ที่ดีไม่เท่ากล้องหลักแล้วยิ่งพัง และ iPhone 8 Plus กับ Galaxy Note 8 ก็ไม่ได้ต่างกัน แต่สำหรับกล้อง Full Frame ที่สามารถปรับ ISO ได้สูงๆ เซนเซอร์ใหญ่รับแสงได้เยอะแล้วการถ่ายภาพแสงน้อยจะทำได้ดีกว่ากล้องมือถือค่อนข้างมาเลยล่ะครับ

ตัวอย่างภาพจากทั้ง iPhone 8 Plus และ Galaxy Note 8

ภาพทั่วไป เมื่อถ่ายเทียบ iPhone 8 Plus – Galaxy Note 8 กับ Mirrorless Full Frame

เอาตัวอย่างเพิ่มเติมจากทั้งสามกล้องมาเทียบกันกันให้ดูเพิ่มเติมนะครับ

สรุปส่งท้าย Full Frame WIN เรื่องคุณภาพ, Smartphone WIN เรื่องความสะดวกสบาย

Galaxy Note 8 และ iPhone 8 ทั้งคู่ทำกล้องออกมาได้ระดับที่เรียกว่าดีมากๆ แต่สุดท้ายแล้วกล้อง Full Frame ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี จะบอกว่าสมาร์ทโฟนดีกว่าก็เกรงใจขนาดเซนเซอร์รับแสงที่ใหญ่เบ้อเริ่ม และเสนส์ใหญ่เป็นบาซูก้ากันนิดนึง 5555 แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการส่งภาพประกวด อวดโชว์ภาพให้โลกเห็น แค่เป็นช่างภาพสมัครเล่นรักความสบาย ไม่ต้องแบกของหนักตลอดเวลา เปิดดูรูปแค่บนมือถือและจอคอมเล็กๆ สมาร์ทโฟนกล้องดีๆนี่ก็น่าจะเพียงพอมากๆ ในระดับนึงแล้วล่ะ ที่เหลือคือฝึกถ่ายหามุมมอง เลี่ยงข้อจำกัดที่ทำให้ถ่ายภาพได้คุณภาพต่ำ เท่านั้นภาพที่เราถ่ายก็สวยงามพร้อมอวดโชว์ให้โลกรู้ละ 🙂

เดี๋ยวมีเทียบเฉพาะ iPhone 8 Plus vs Galaxy Note 8 ให้อีกทีนะ (ถ้ายังมีแรงทำ หะหะ)

ถ้าใครมีข้อสงสัยอย่างไรเกี่ยวกับการทดสอบ สามารถมาคุยกันได้ใน comment เลยนะครับ หรือถ้าอยากลองเองก็ตอนนี้มีขายกันแล้วนะ ลองเลือกช้อปปิ้งกันดูได้ ว่าจะเอาค่ายไหน เครื่องอะไรไปลองบ้าง นี่เห็นพี่พัดก็เพิ่งสั่ง iPhone 8 Plus มาผ่าน AIS Online Store เห็นว่าโปรแต่ละค่ายมีให้โทรเน็ตมากน้อยต่างกันอยู่ แต่ของทาง AIS เห็นว่ามีดีตรงที่สั่งแล้วได้รับสินค้าหลังสั่งภายในเวลาเพียง 3 ชม. สำหรับคนที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ เมื่อสั่งภายใน 8.00-14.00 น. ของวันนั้นด้วยนะ ยังไงก็เลือกซื้อของเจ้าไหน โปรใครเด็ดสุดก็เอามาบอกกันหน่อยนะ ยังไม่ได้เช็คละเอียดเองเลย 555

พื้นที่โฆษณา

กระจกกันรอยพรีเมี่ยมจากโฟกัส เป็นกระจกกันรอยเต็มจอลงโค้ง แข็งแกร่งพิเศษ Focus Super Glass 3D Full Frame ปกป้องเต็มจอถึงขอบโค้ง ติดเรียบเนียน ทุกมุม เพิ่มความคงทนแข็งแรง รับแรงกระแทกได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า และคงความสดใสของหน้าจอได้เป็นอย่างดี หมดปัญหาเรื่องฝุ่นเข้าขอบจอ ทัชลื่นไม่สะดุด ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ให้การปกป้องมั่นใจมากกว่ากระจกกันรอยในท้องตลาดทั่วไป และรองรับรุ่น iPhone 8, iPhone 8Plus, iPhone X โดยเฉพาะ