หลายๆ คนน่าจะได้ทราบข่าวว่า Kodak กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนในงาน CES สัปดาห์หน้านี้แล้ว แน่นอนว่าแฟนๆ ของ Kodak หรือคนที่ชอบถ่ายบภาพน่าจะตื่นเต้นกันอยู่ไม่น้อย ผมเองเห็นข่าวนี้ทีแรกบอกเลยว่าแอบสนใจและก็รอดูว่ามันจะออกมาหน้าตาคล้านกับเจ้า Instamatic ที่มีคนเคยออกแบบ (concept design) เอาไว้หรือเปล่า

*ภาพทั้งหมดใน blog นี้เป็นภาพ concept desgin ที่มีคนออกแบบไว้นะครับ

แต่พอได้อ่านข่าวและไล่หาข้อมูลรายละเอียดดีๆ ก็พบว่าความฝันที่วาดเอาไว้ว่าจะได้เห็นมือถือกล้องสวยๆ มาพร้อมฟังก์ชั่นกล้องเทพๆ นั้นแทบจะหายวัยไปกับตา เพราะว่างานนี้ Kodak ไม่ได้ผลิตเอง แต่ใช้การ “ขายชื่อ” หรือขายสิทธิ์ในการนำชื่อตัวแบรนด์ Kodak ให้กับ Bullitt Mobile ซึ่งเป็นเครือบริษัทขนาดใหญ่ ทำธุรกิจหลายอย่าง และมีผลงานผลิตมือถือพันธุ์ทรหดให้กับ CAT (ไม่ใช่ CAT บ้านเรานะ) นั่นก็คือ CAT Phones โดยทาง Bullitt Mobile ก็จะผลิตสมาร์ทโฟนและใช้ชื่อของ Kodak มาแปะขายนั่นเอง

ยิ่งได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ Oliver Schulte CEO ของ Bullitt Group ที่เน้นว่า “Kodak Smartphone จะเน้นไปที่ดีไซน์ตัวเครื่อง การออกแบบซอฟต์แวร์ให้ใช้งานง่าย ถ่ายรูปง่าย แชร์ง่าย” ไม่ได้มีการกล่าวถึงฮาร์ดแวร์เลยแม้แต่น้อย ว่ากล้องมีความละเอียดเท่าไหร่ ใช้เซนเซอร์เล็กใหญ่ขนาดไหน ยิ่งชวนให้คิดว่ามันจะเป็นแค่สมาร์ทโฟนสเปคกลางๆ ตัวนึง ที่มาพร้อมกับโลโก้ของ Kodak แปะอยู่เท่านั้น 

เมื่อลองเทียบกับ Panasonic Lumic CM1 ที่ดูจะมีความพยายามในการเอาเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้วมาใช้ + เลนส์ของ Leica แล้ว การเปิดตัวของมือถือยี่ห้อ Kodak นั้นจะยิ่งดูห่างชั้นและเสียชื่อแบรนด์ไปเฉยๆ 

จากการที่ Kodak ต้องพยายามดิ้นรนจากการถูกฟ้องล้มละลายเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปิดกิจการบางส่วนหรือแยกธุรกิจบางส่วนออกไป จนตอนนี้ในมือบริษัทมีแค่กิจการสิ่งพิมพ์เท่านั้น การขายชื่อแบรนด์เพื่อนำเงินเข้ามาจัดตั้งและสร้างองค์กรณ์ขึ้นมาใหม่ถือเป็นสิ่งจำเป็น อันนี้คงจะไปว่าไม่ได้

แต่แน่นอนว่าการขายชื่อแบรนด์ให้นำไปผลิตสินค้าที่ออกมาแล้วไม่ได้สร้างภาพลักษณ์หรือชื่อเสียงให้กับตัวแบรนด์หรือองค์กรณ์เอง งานนี้คนที่จะเสียชื่อและความเชื่อใจจากลูกค้านั้น คงไม่ใช่ Bullitt Mobile คนผลิต แต่จะเป็นชื่อ Kodak ที่แปะหราอยู่บนนั้นต่างหาก 

ยังไซะนี่ก็เป็นแค่การคาดการณ์และวิเคราะห์นะครับ คงต้องรอดูหน้าตาตัวเป็นๆ ของ Kodak Phone ว่าสุดท้ายแล้วออกมาจะเป็นยังไงอีกที ในงาน CES สัปดาห์หน้านี้

 

image source : instamatic2014 

source : theverge