ท่ามกลางตัวเลือกของสมาร์ทโฟนรุ่น Top ทั้งหลาย หลังได้ลองใช้ LG G2 มาร่วมๆเดือน คุยกับคนหลายๆคนที่ได้ผ่านเจ้า G2 มา ณ ตอนนี้ผมกล้าบอกตามที่พาดหัวจริงๆว่ามันคือ Android ที่เจ๋งที่สุด น่าใช้ที่สุด กล้าแนะนำให้คนอื่นที่สุดในตอนนี้ ซึ่งเดี๋ยวผมจะค่อยๆมาไล่เรียงให้ได้อ่านกันว่าทำไมผมถึงคิดเห็นอย่างงี้ และแน่นอนว่ามือถือที่ผมบอกว่าเจ๋งที่สุด ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสีย หรือ Perfect จนหาข้อติไม่ได้ ซึ่งก็จะเอามาแชร์เช่นเดียวกัน

เช่นเดิมว่า LG G2 เป็นมือถือที่ออกมาได้สักพักแล้ว และเชื่อว่ามีคนได้ลองใช้กันไปพอสมควร ผมจึงขออัญเชิญมาร่วมด้วยช่วยแจม ถ้าไม่เห็นด้วยกับผมส่วนใด แย้งได้เต็มที่ครับ

หัวข้อที่จะเอามาเล่าให้ฟัง

  1. ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป
  2. ขนาด หน้าจอ สีสัน และความคมชัด
  3. การใช้งานโทรศัพท์
  4. กล้อง และการถ่ายภาพ
  5. การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท ฯลฯ
  6. ทดสอบเล่น Features ต่างๆ
  7. ระบบเสียง
  8. ความยาวนานในการใช้งาน Battery
  9. ภาพรวม

สรุปทั้งหมดข้ามไปอ่านตอนท้ายได้เลยครับ หรือดูรายละเอียดสเปคเต็มๆของ LG G2 ได้ที่นี่ครับ

 

1. ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป 
CPU/GPU/RAM/Android:
Qualcomm Snapdragon 800 Qual-core 2.26GHz/ Adreno 330 / 2GB LPDDR3 / Android 4.2.2

สเปคของ LG G2 เรียกว่าเลือกใช้ตัวที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ดังที่เราจะได้เห็นรุ่นท็อปๆของยี่ห้อต่างๆก็เลือกใช้ Snapdragon 800 นี้เช่นกัน ซึ่งอย่างที่ได้บอกไปในรีวิวก่อนๆว่า สเปคแรงไม่ได้การันตีการทำงานที่เสถียรหรือไหลลื่น หากซอฟท์แวร์กาก จะแรงแค่ไหนก็กระตุก

แต่ว่าสำหรับ G2 ตัวนี้ ทำออกมาได้ครบถ้วนทั้ง Hardware และ Software ลากติดนิ้ว เอฟเฟกต์ต่างๆก็เนียนตา ถ้าใครได้เล่น Android รุ่นอื่นยี่ห้ออื่นมาแทบจะไม่คิดเลยว่ามันคือ Android เหมือนกัน ส่วนเรื่องความเสถียรแม้ว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนเศษๆที่ได้เล่นมา อาจจะมีเอ๋อบ้าง 2-3 ครั้ง แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าทุกเครื่องที่จับมา หรือแม้แต่ iPhone 5s จริงๆก็มีเอ๋อหรือค้างอยู่เช่นกัน ฉะนั้น LG G2 ถือว่าสอบผ่านมากๆสำหรับเรื่องความเสถียร

สำหรับเวลาใช้งานหนักๆไปก็พบว่าเครื่องไม่ได้ร้อนมากจนน่ากลัว ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะวัสดุเครื่องที่ใช้ด้วย

สรุป ตอบสนองรวดเร็ว ลากติดนิ้ว เอฟเฟกต์เนียนตา และเสถียรกว่าใครๆ

 

2. ตัวเครื่อง ขนาดหน้าจอ สีสัน และความคมชัด
Size/Type/Resolution/material/
5.2” / True HD-IPS / FHD (1080×1920) ~424ppi / วัสดุเครื่องพลาสติก / Rear Keys / Slim Bezel

หน้าจอของ LG G2 ทำออกมาได้น่าประทับใจมากๆตัวนึง แม้ว่าวันนี้เราจะได้เห็นมือถือที่มีความละเอียด Full HD วางตลาดมากมาย แต่ว่าหลายๆตัวเมื่อเพ่งดีๆแล้วกลับเห็นเส้นพิกเซล หรือความคมแต่ไม่สุดอยู่ดี (สังเกตจากพวกขอบตัวอักษร หรือลองมองหน้าจอแบบเอียงๆดู) แต่สำหรับเจ้า G2 งานออกมาค่อนข้างเนี้ยบมาก ไม่เห็นพวกเม็ดเส้นพิกเซลนี้เลย รวมถึงให้สีสันของภาพออกมาไม่แสบตาจนเกินไป สีไม่หลอก รวมถึงเล่นแล้วไม่ปวดตาเท่าจอ AMOLED อีกด้วย แต่ส่วนที่น่าติของจอ LG G2 น่าจะเป็นที่ระบบปรับแสงอัตโนมัติที่มีเหมือนไม่มี ปรับได้เพี้ยนสุดๆครับ ซึ่งเห็นว่าเป็น bug ที่รอการแก้ไข โดยทางฝั่งยุโรปได้อัพเดทกันไปแล้ว

ถ้าได้ลองเอาขนาดของเครื่อง LG G2 ไปเปรียบเทียบกับเครื่องรุ่นอื่นๆ ต้องบอกว่าด้วยขนาดหน้าจอ 5.2” กับขนาดของเครื่องนั้น LG G2 ทำออกมาได้นั้น เรียกว่ารีดขีดจำกัดของการวิศวกรรมการผลิตออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ด้วยขอบจอที่มีความบางเพียง 2.65 มม. เท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ LG G2 ขนาดจอใหญ่ แต่เครื่องไม่ได้ใหญ่ตามไปด้วยนั้นเกิดจากการที่ G2 มีการใช้ Chipset การรับสัมผัสบนหน้าจอ 2 ตัว ลดจำนวนของสายรับสัญญานในแต่ละด้านลงไปได้นั่นเองครับ และถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ขนาดหน้าจอพอๆกัน จะพบว่าเครื่องใหญ่กว่ากันพอสมควรและจับไม่ถนัดเท่าไหร่ครับ

เปรียบเทียบขนาดของแต่ละเครื่อง

แต่แน่นอนว่าด้วยความที่ขอบจอของ LG G2 มันบางเฉียบพอๆกับผ้าอนามัยขนาดนั้น ทำให้เสียววาบทุกครั้งไปที่ทำตก หลายๆคนที่ไปลองทำ Drop Test แบบไม่ตั้งใจก็น้ำตาซึมไปตามๆกัน

สำหรับงานประกอบเครื่องก็ทำออกมาได้ดูแน่นหนาดีครับ แม้ว่าจะเป็นพลาสติก แต่ความรู้สึกตอนจับ G2 ก็ไม่ได้แย่อะไร ส่วนนึงน่าจะมาจากน้ำหนักเครื่องที่กำลังพอดี ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป ประกอบกับฝาหลังที่แกะไม่ได้ เลยทำให้ความกร๊อบแกร๊บของงานลดน้อยลงไปเยอะมากครับ (ไปดูพรีวิว LG G2ที่ท่าน Octopatr ได้เลยเขียนเอาไว้)

LG G2 จะมีดีไซน์ที่แตกต่างจากชาวบ้านเรื่องการวางปุ่ม power และเพิ่ม-ลดเสียง ด้านหลังของเครื่อง ซึ่งมีหลายๆคนงงเมื่อได้จับครั้งแรกว่าปุ่มหายไปไหน แต่ส่วนตัวบอกเลยว่าชอบที่เอาปุ่มไปไว้ด้านหลังมาก เพราะว่าด้วยขนาดเครื่องของ Smartphone สมัยนี้ที่ใหญ่เกินนิ้วจะเอื้อมแตะให้ทั่วถึงได้ การที่ G2 เปลี่ยนเอาปุ่มมาไว้ด้านหลังพอดีกับนิ้วชี้มันเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุดๆเลยล่ะ รวมถึงสามารถใช้งานได้ทั้งสองมืออีกด้วยครับ 

เจ้าปุ่มหลังนี้มันยังมีฟังก์ชั่นให้เรากดค้างเอาไว้ตอนหน้าจอดับเพื่อเข้าแอพด้วย โดยกดเพิ่มเสียงจะเป็นการเข้าแอพ Quick Memo ส่วนกดลดเสียงจะเป็นการเข้ากล้องถ่ายภาพครับ นอกจากนี้ปุ่มลดเสียงก็ยังใช้เป็นปุ่มชัดเตอร์ตอนถ่ายภาพตัวเอง (Selfie) ได้อีกด้วย บอกเลยว่าสะดวกจริง แต่ไม่ค่อยเหมาะสำหรับสภาพแสงน้อยๆเท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้ภาพสั่นง่ายกว่าเดิมพอควรครับ ถ้ามีการหน่วงเวลาสักนิดก่อนชัตเตอร์ลั่น อาจจะดีกว่านี้นะ ^^”

ปล. มีคนบ่นเรื่องการจับภาพหน้าจอบน G2 มาว่ามันกดยากเพราะต้องกด power + vol down ซึ่งตรงนี้ลองใช้ทริกของ nenachicha เอานิ้วชี้กดทาบให้โดนทั้งสองปุ่มไปเลยก็ง่ายดีเหมือนกันครับ

สรุป จอภาพคมสีสวย งานประกอบดี ดีไซน์ปุ่มหลังเวิร์ค ไปลองหาเครื่องทดลองจับกันดูเองเลย TG/Jaymart พวกนี้น่าจะมีหมดนะ

 

3. การใช้งานโทรศัพท์ และการรับสัญญาน
SIM/Support Network/Bluetooth/WiFi
microSIM / 3G: 850/900/1900/2100MHz / 4G รองรับแต่ไม่สมบูรณ์ / Bluetooth v4.0 / 802.11 a/b/g/n/ac 

เท่าที่ลอง G2 มาตลอดเดือนกว่าๆ ค่อนข้างพอใจกับเรื่องสัญญานโทรศัพท์ คุยได้ไม่มีติดขัดอะไร สัญญานไม่ได้อ่อนหรือมากกว่าคนอื่นมากนัก เมื่อนำมาวางเทียบข้างๆกัน สามารถเชื่อมต่อสัญญานอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายต่างๆได้ดี ไม่ได้หลุดบ่อยอะไร (ลองเปลี่ยนใส่ AIS และ Truemove H)

แต่สำหรับเรื่องการรองรับ 4G LTE ของ LG G2 บน Truemove H ที่เคยมีเรื่องมีราวกันก่อนหน้า จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการจากทาง LG นะครับ แต่ว่าก็มีความพยายามเปิดใช้กันเองอยู่โดยสามารถกดรหัสปลดล็อค LG G2 ให้สามารถใช้งาน 4G LTE ได้ (แบบชั่วคราว) แต่ก็ไม่ได้แนะนำมากนักเพราะว่ามันสัญญานไม่นิ่งและกินแบตใช้ได้เลยครับ

ส่วน Bluetooth นี่ไม่ได้ลองอะไรมาก แค่ได้ pair กับหูฟังเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ตัว 4.0 ด้วย ^^”

แต่ว่า WiFi นี่ประทับใจเบาๆกับความสามารถของ G2 ในการจับสัญญาน โดยได้ลองวางข้างๆกับ Note 3, iPhone 5s, และ Nexus 5 บริเวณที่สัญญานอ่อนๆ พบว่า G2 ยังจับสัญญานได้และ internet วิ่งได้ปกติ ต่างจาก Note 3 และ Nexus 5 ที่มาแบบกระปริบกระปรอย ส่วน iPhone 5s ก็ทำออกมาได้พอๆกับ G2 ครับ

สรุป เรื่องภาครับสัญญานของ G2 ทำออกมาได้ดีครับ

 

4. กล้องและการถ่ายภาพ
หลัง13MP IS + Autofocus + Flash, หน้า 2.1MP 

ทาง LG อาจจะไม่ได้พูดอะไรเรื่องกล้องของตัว G2 มากนัก เพราะว่าไม่ได้มีฟีเจอร์หวือหวาอะไรมากมาย บางฟังก์ชั่น เช่น พานอรามา ทำออกมาได้แย่กว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ว่าถ้าหากดูแค่เฉพาะเนื้อภาพ และความสามารถของ OIS หรือตัวป้องกันภาพสั่นแล้วล่ะก็ LG G2 มีคุณภาพไม่ได้แพ้ใครเลย เหนือกว่ารุ่นท็อปหลายๆตัวในตลาดเสียด้วยซ้ำไป

 

LG G2 twilight sample LG G2 landscape sample LG G2 Landscape

ไปดูตัวอย่างเพิ่มเติมจาก Google+ ได้ครับ

ข้อเสียหลักของกล้อง LG G2 น่าจะเป็นการถ่ายภาพกลางคืน ที่มีการจับโฟกัสช้ามากถึงมากที่สุด แต่เรื่องของการวัดแสงและ White Balance ของ G2 ทำออกมาได้ระดับที่พอใจมากๆ ระดับเดียวกับ iPhone หรือเหนือกว่าด้วยซ้ำไป

ฟีเจอร์กล้องของ G2 อย่างที่ได้บอกไปว่า ไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก  โหมดต่างๆไม่ได้มีอะไรให้เล่นมากนัก ซึ่งน่าจะไม่มีผลอะไรกับหลายๆคนที่มองว่ากล้องมือถือเป็นแค่แบบ point-and-shoot เท่านั้น แต่ส่วนตัวแอบผิดหวังเล็กๆกับโหมดพานอรามา ที่น่าจะได้ใช้จริง เพราะโหมดนี้จะใช้วิธีการประมวลผลภาพแบบเดิมๆอยู่ ที่จะนำเอาภาพไม่กี่ภาพมาต่อกันเท่านั้น ทำให้มีความคลาดเคลื่อนสูง ต่างจาก iPhone และ Note 3 ที่ใช้ปาดขอบภาพมาต่อกันเรื่อยๆ ทำให้ภาพออกมาเนียนกว่ามาก รวมถึงได้ภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าเยอะด้วย

LG G2 Panorama

4.1 การถ่ายวิดีโอ

แม้ว่า LG G2 จะมาพร้อม Chipset Snapdragon 800 แต่ว่าเราจะไม่ได้เห็นโหมดถ่ายภาพ Slow-motion ในเครื่องนี้ แต่ G2 จะมีโหมดที่น่าสนใจ 2 อย่างสำหรับคนชอบถ่ายคลิป คือ Audio Zoom(ดึงเอาเสียงเฉพาะบริเวณที่ต้องการ), และ Zoom to track(เล่นวิดีโอแล้วให้ภาพซูมไปยังคนที่ต้องการ) รวมถึงตัว Video Player ที่ผมชอบตัว Timeline Preview มาก สามารถดูได้ว่าตำแหน่งที่เราต้องการจะข้ามไปดูนั้นคืออะไร ก่อนที่เราจะกดยืนยันมันจริงๆ สะดวกฝุดๆเลย

แต่ว่าถ้าชอบถ่ายวิดีโอจากมือถือแล้วล่ะก็ อีกปัญหานึงที่จะเจอบน G2 คือเรื่อง Memory จะเต็มไวมาก เพราะตัวมันเองแม้จะมีมาให้ 32GB แต่ถ้าชอบถ่ายวิดีโอ แป๊บเดียวจะละลายหายไปโดยพลันครับ ;__;

 

5. การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท นำทาง ฯลฯ
Internal Memory/GPS
32GB / A-GPS + GLONASS

LG G2 ที่นำเอามาขายจะเป็นรุ่น 32GB เท่านั้น โดยตอนแรกที่มีข่าวว่าจะเอาตัว 16GB มาขายด้วยนั้น ท่าทางจะเงียบไปเรียบร้อย ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องดีแล้ว เพราะว่าพื้นที่มันจะไม่พอใช้เอา เครื่องที่ผมได้เอามาทดสอบนั้นก็เป็นเครื่อง 16GB ไม่นานเมมก็เต็มและต้องมาคอย backup ภาพลบทิ้งเรื่อยๆ ยิ่งคนที่จะเอาไปลงเกมยิ่งไม่พอใหญ่ แต่ถ้าเป็นตัวที่วางขายแล้ว จะมีพื้นที่เหลือมากกว่า 20GB น่าจะพอใช้สบายๆเลยครับ

เมื่อนำเอา LG G2 ไปอ่านเว็บเล่นเน็ต พิมพ์แชท โซเชียลทั้งหลาย ก็ไม่ได้มีติดขัดอะไร แสดงผลรวดเร็วดีแต่ว่าต้องมีการโหลดคีย์บอร์ดมาเปลี่ยนเล็กน้อย เพราะคีย์บอร์ดของ LG เองนั้นเข้าขั้นใช้ยากเลยทีเดียว

สำหรับคนที่มองว่าจะเอา G2 ไปใช้เล่นเกม ก็ไม่น่าห่วงอะไรเพราะด้วย Chipset ที่เป็นมหาชนขนาดนี้ การรองรับของค่ายเกมต่างๆ จะทำมาให้อย่างเต็มที่แน่นอน นอกเสียจากว่าจะมีบัคอะไรที่สาหัสจริงๆ ซึ่งเชื่อว่าค่ายเกมต่างๆจะพยายามแก้ไขปัญหาส่วนนั้นๆให้อย่างเร็วครับ

การระบุตำแหน่งบน G2 จะมีปัญหาเวลาเริ่มต้นใช้งานอยู่บ้าง มีคนบ่นให้เห็นอยู่เยอะเหมือนกันว่าจับสัญญานได้ช้า แต่ส่วนตัวแล้วยังอยู่ในเกณฑ์พอรับได้ เพราะเมื่อจับสัญญานได้แล้วจะค่อนข้างนิ่ง แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่ง G2 จะด้อยกว่าอยู่ระดับนึงนะ

ปัญหาเรื่อง GPS มีคนมาโพสต์วิธีแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งต้องมีการ Root 🙁 [LG G2 TIP] วิธีแก้ไขปัญหา GPS ให้จับสัญญาณได้เร็วขึ้น

 

6. ทดลองเล่นฟีเจอร์ต่างๆ
Knock On, Quick Memo, QSlide, Quick Remote, Capture plus, Clip Tray, Guest mode 

LG G2 เห็นอย่างงี้นี่มันมีการยัดเอาฟีเจอร์ใส่มาเพียบเลยนะ เรียกว่าหลายๆคนไม่น่าจะรู้ทั้งหมดด้วยซ้ำว่ามันมีเยอะขนาดนี้ส่วนตัวเท่าที่ลองแล้วก็ใช้งานได้จริงทั้งนั้นเลย ซึ่งผมขอสรุปเป็นข้อๆตามนี้ละกันครับ

Knock On – เปิดหน้าจอด้วยการเคาะเครื่อง (ภาพประกอบรีวิวด้านบน นั่นก็ใช้ Knock On เปิดเครื่องขึ้นมานะ)

ฟีเจอร์นี้ขอบอกเลยว่าเจ๋งมาก ใช้แล้วติดสุดๆ เรียกว่าถ้าถือหลายเครื่องแล้วติด ต้องไปเคาะหน้าจอ iPhone หรือว่า Nexus 5 เพื่อเปิดเลย เราอาจจะได้ยินเสียงคนบ่นบ้างว่า Knock On ไม่เวิร์คเท่าไหร่ เคาะไม่ค่อยติด แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว 95% ของการเคาะก็ติดนะ 

Quick Memo – กระดาษจดโน๊ต

อันนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ เพราะไม่รู้สึกว่าความสามารถกระดาษจดโน๊ตนี้มันน่าใช้เท่าไหร่ ในมือถือที่ไร้ซึ่งปากกา

QSlide – เปิดหน้าต่างแอพขึ้นมาบนแอพที่เราใช้อยู่

ฟีเจอร์นี้ถ้าใครใช้ Samsung มาก่อน น่าจะคุ้นในชื่อ Multi window หรือ Pen Window นั่นเอง ซึ่งทาง LG ก็มีทำขึ้นมาให้ใช้เหมือนกัน แต่ว่ายังค่อนข้างจำกัดแอพที่สามารถใช้งานได้อยู่ เรียกใช้แอพอย่าง Facebook Line อะไรพวกนี้ยังไม่ได้ ทำให้ความเจ๋งของมันลดลงไปเพียบเลย

Quick Remote (จำลองตัวเองเป็นรีโมททีวี วิทยุ ใช้ได้กับเกือบทุกค่าย), Capture plus (จับภาพหน้าจอ เอามาอ่านภายหลัง), Clip Tray (เก็บข้อความที่เราตัดเอาไว้แปะ ไว้มากกว่า 1 ข้อความ), Guest mode (หมดสำหรับคนยืมเครื่องไปเล่น)

ตัวที่ผมอยากจะเอ่ยถึงเยอะเป็นพิเศษคงเป็น Capture plus และ Clip Tray ที่น่าจะได้ใช้งานจริงเยอะกว่าฟีเจอร์อื่นๆ

Play video

– Capture plus มันทำให้เราสามารถเซฟเว็บเก็บเอาไว้อ่านภายหลังได้สะดวกว่ามานั่งกด capture screen ปกติ เพราะกดทีเดียวสามารถเซฟหน้าเว็บทั้งหน้ามาได้เลย สะดวกเวลาต้องการเก็บข้อมูลสำหรับเดินทางไปที่ไม่มีอินเทอร์เนตใช้มาก

– Clip tray นี่ก็เพิ่มความสะดวกให้คนชอบพิมพ์ตัดแปะอยู่มาก เพราะปกติการตัดข้อความบางครั้งเราไม่สามารถเลือกได้ว่าข้อความที่เราจะตัดมันอยู่ติดกัน อาจต้องสลับหน้าต่างไปมาเพื่อตัดแปะทีละนิดให้ลำบาก ซึ่งรุ่นอื่นๆจะเก็บได้เพียงแค่ข้อความเดียว แต่ว่าด้วย Clip tray บน G2 เราจะตัดเก็บเอาไว้ใช้ได้ถึง 20 ข้อความทีเดียว (ไม่แน่ใจว่ารุ่นอื่นยี่ห้อใด มีฟีเจอร์นี้ให้ใช้ได้บ้าง เท่าที่รู้คือ Samsung Galaxy มีให้ใช้หลายรุ่นอยู่)

 

7. ระบบเสียง

ข้อมูลว่า LG G2 ใช้ชิพเสียงอะไรยังไม่แน่ชัดมาก แต่ว่าที่แน่ๆคือมันสามารถรองรับไฟล์เสียง 24-bit/192kHz ซึ่งส่วนตัวผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากเพราะหูผมคงไม่ได้ถึงขนาดแยกแยะได้ และที่สำคัญคือจะหาไฟล์ระดับนั้นยิ่งยากเข้าไปใหญ่ รวมถึงตัวแปรที่จะทำให้เสียงดียังมีอีกหลายอย่างมากๆ เช่นหูฟัง ซึ่งตัวที่แถมมากับ G2 นั้นคนบ่นกันค่อนข้างเยอะเรื่องที่เบสไม่ค่อยออก สำหรับคนที่อยากฟังเพลงแบบตึ้บๆอาจต้องควักกระเป๋าซื้อหูฟังใหม่ได้ แต่ผมว่าถ้าหูคุณชั่งทองขนาดนั้นแล้ว คุณก็น่าจะมีหูฟังเจ๋งๆเอาไว้ครอบครองมากกว่าที่จะใช้ของแถมแล้วล่ะ 😛

 

8. ความยาวนานของการใช้งาน
แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้ 

ช่วงแรกๆที่ได้มาลองนี่ตกใจกับความอึดของแบตเตอรี่จริงจัง

เรื่องของแบตเตอรี่นี่ผมขอยกเป็น Hilight ที่สุดของ LG G2 แล้ว เพราะเป็นตัวที่อึดถึกทนมือที่สุดตั้งแต่เคยเล่น Smartphone เลยทีเดียว อยู่ได้ข้ามวันแบบสบายๆ ถ้าไม่ได้เล่นอะไรมากก็สองวันได้อยู่แบบเสียวๆ ซึ่งส่วนนึงเกิดจากแบตที่ให้มาเยอะกว่าแบตในขนาดเครื่องใกล้ๆกัน ยัดเอาแบตลงไปทุกอณูของด้านหลังเครื่องเท่าที่จะทำได้นั่นเองครับ

แต่การชาร์จแบตนั้น แนะนำว่าน่าหาที่ชาร์จใหม่ เนื่องจากที่ให้มานั้นมันชาร์จได้ค่อนข้างช้า ถ้าได้เป็น 5V2A จะช่วยให้ชาร์จได้เร็วกว่าเดิมเยอะเลยครับ

 

9. ภาพรวม

จากที่ได้เขียนเล่ามาทั้งหมด เป็นเหตุผลที่หลายๆคนรวมถึงผม ยกให้เจ้า LG G2 เป็นโทรศัพท์ Android ที่น่าเล่นที่สุดในตอนนี้ไป แต่ถ้าถามว่าให้ผมเลือกตัวใดตัวหนึ่ง ระหว่างรุ่น Top ด้วยกันทั้งหมด ผมอาจจะไม่เลือก G2 นะ 😛 (หักมุมไปปะ 555) 

ไม่ใช่เพราะว่า LG G2 มันไม่ดีอะไร มันเข้าใกล้ Android ในแบบที่หลายๆคนใฝ่ฝันเอาไว้ที่สุดตัวนึงละ แต่สำหรับมือถือระดับราคาเกิน 18,000 บาท ส่วนตัวผมสเปคและความสมบูรณ์แบบมันไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ว่าอารมณ์มันมีส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ผมยังมองว่า LG G2 มันยังขาดความเป็น Originality ขาดเอกลักษณ์ที่ทำให้คนอยากจับต้อง จับจองเป็นเจ้าของอยู่ เสน่ห์และรัศมีมันยังไม่ได้เท่า Nexus, iPhone, หรือ Galaxy แต่ถ้าให้ผมแนะนำโทรศัพท์สักเครื่องให้คนที่อยากซื้อ Android ระดับพรีเมียม ผมก็จะตอบว่า LG G2 แบบไม่ลังเลเลย เพราะเค้าคงไม่ได้มีอารมณ์ร่วมแบบผมนั่นเอง 555

 

สรุป

จุดเด่น

  • ซอฟท์แวร์ลื่น/เร็ว/เสถียร มากๆๆๆๆๆ
  • จอคม/สวย/ใหญ่ แต่เครื่องไม่ใหญ่ตาม
  • ปุ่มด้านหลัง (Rear Keys) ทำออกมาได้ตอบโจทย์มาก
  • สเปคแรงมาก แต่ว่าราคาไม่แรงตาม (ถูกสุดในบรรดาเครื่องที่สเปคเท่ากันละ)
  • แบตโคตรอึด!

ข้อควรพิจารณา

  • โปรดระวังเครื่องตก จออาจแตกได้ง่ายมาก
  • เพิ่มเมมไม่ได้
  • ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้

 

คำถามที่พบบ่อยเวลาแนะนำโทรศัพท์ LG

ศูนย์บริการ LG ดีมั้ย?

– ยังไม่เคยใช้บริการเหมือนกัน จึงยังบอกไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีสาขาเยอะขนาดไหน และซ่อมนานรึเปล่า แต่ว่าจากที่หลายๆคนบอกในบอร์ด ก็โอเคกันนะ

การอัพเดทเฟิร์มแวร์

– ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนห่วงมากกับมือถือจากค่ายนี้ แต่ว่าสำหรับ LG G2 ก็เห็นว่ามีประกาศแผนการอัพเดทขึ้นเป็น Android 4.4 ในช่วงต้นปีนี้แล้วครับ ซึ่งถ้าเป็นไปตามสัญญา และ LG G2 ในไทยก็ได้รับตามไปด้วย จะทำให้โทรศัพท์ LG น่าใช้ขึ้นอีกเป็นกองเลย

Software ได้เรื่องเหรอ

– เคยมีคนได้รับประสบการณ์ไม่ดีกับมือถือค่ายนี้มาก่อนเช่นเดียวกันกับผม แต่หลังจากที่ได้ลองใช้มันมร่วมเดือนต้องบอกเลยว่า LG ในวันนี้ ไม่ใช้ LG ในวันก่อน ผมยกให้เค้าเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องความสมบูรณ์ของ firmware ในช่วงเวลานี้เลยล่ะ

 

รวมลิงก์อื่นๆของ LG G2

– รวมปัญหา LG G2 ที่เจอๆกัน

– root และแก้ไขปัญหากล้อง

– วิธีรูท LG G2 

– LG G2 ใช้ชิพเสียงอะไร

บอร์ดคนใช้ LG G2 มีคำถาม ปัญหา หรืออะไรที่อยากแชร์เข้าไปได้เลยครับ