Platform: iOS and Android

ปกติผมเป็นคนชอบดูกีฬา คือ ดูได้เกือบทุกกีฬา จะมียกเว้นอยู่บ้าง นั่นคือ มวย ที่จริงก็ตอบไม่ได้ว่า ทำไมถึงไม่ค่อยชอบดู จนกระทั่งกว่าสิบปีที่แล้ว ผมได้รู้จักกับกีฬาประเภทหนึ่ง ซึ่งมีการใช้ศิลปะการต่อสู้หลายแขนง (MMA; Mix Martial Arts) ในลูกกรงแปดเหลี่ยม ที่มีชื่อว่า Ultimate Fighting Championship หรือ UFC 

เท่านั้นแหละครับ ก็ติดตามเป็นแฟนคลับ UFC มาโดยตลอด เพราะด้วยเป็นกีฬาประเภทการต่อสู้ที่มีหลากหลายรูปแบบ อย่างมวยเราก็จะเห็นการใช้หมัดซ้าย-ขวา พุ่งตะบันหน้า แต่ UFC จะมีศิลปะแขนงอื่นๆ ใช้ร่วมกันด้วย เช่น Kickboxing, Wrestling, Judo, Karate, Jiu Jitsu และอีกมากมาย

รูปแบบเกม

 

ตัวเกม UFC ฉบับสมาร์ทโฟนมีลักษณะการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย ตรงกันข้ามกับ Console ที่มีลูกเล่นหยุมหยิมค่อนข้างเยอะ ในเวอร์ชันมือถือการเล่น UFC จะใช้การปาด (Swipe) และการแตะที่หน้าจอ (tap) เท่านั้น แต่ทั้งนี้การ Swipe และการ Tap ก็จะมีแบ่งย่อยลงไป ถ้าหากเป็นฝ่ายรุกการกด Tap 1 ครั้งก็เสมือนการต่อยแย็บ ถ้ากด Swipe ก็จะต่อยแรงขึ้น

หากเป็นฝ่ายตั้งรับ การ Swipe หน้าจอจะเป็นการโยกหลบหมัดคู่ต่อสู้ ส่วน Tap จะเป็นการกดบล็อกการโจมตีของคู่ต่อสู้ 

แน่นอนว่า ถ้าหากมีอยู่แค่นี้ เกมนี้ก็เหมือนเกมต่อสู้ Action ทั่วๆ ไป อีกทั้งยังดูไม่มีความเป็น MMA ของ UFC เลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นแล้วตัวเกมจึงมีสิ่งที่เรียกว่า Special Moves ซึ่งจะอยู่บริเวณมุมซ้ายล่างของภาพ อันนี้เป็นท่าพิเศษที่เราจะเอาไว้ใช้โจมตีคู่ต่อสู้ โดยจะแบ่งออกเป็นสองหมวด ก็คือ แบบยืน (Standup) และจับทุ่ม (Ground หรือ Takedown) 

ในแบบการยืนก็จะเป็นท่าโจมตีด้วยหมัด เช่น Uppercut, Hook หรือถ้าแบบเท่ๆ หน่อยก็เป็นท่า Superman Punch อันเป็นท่าที่เราจะกระโดดพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้แล้วปล่อยหมัดตรงเข้าไปที่ใบหน้า แต่ถ้าหากตัวละครของเราเป็นพวก Kickboxing ก็จะมีท่าเตะเข้าเพิ่มด้วย ต่อมาคือจับทุ่ม อันนี้เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของ UFC ที่ทำให้ดูมีความแตกต่างจากมวยทั่วไปเลยก็ว่าได้ เพราะการจับทุ่มของ UFC ถ้าหากเราจับคู่ต่อสู้ทุ่มได้สำเร็จ ทีนี้แหละครับ เราสามารถที่จะประเคนหมัด ประเคนศอก ให้แก่คู่ต่อสู้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วยิ่งถ้าหากตัวละครของเราเป็นตัวมีความสามารถด้านมวยปล้ำ (Wrestling) เราก็สามารถใช้ความสามารถของการจับล็อก (Submission) เพื่อให้คู่ต่อสู้เจ็บปวด อันเป็นอีกหนึ่งวิธีในการชนะของเกมนี้ ซึ่งตอนที่ผมเล่นเกม UFC ผมก็จะเน้นความสามารถในการจับล็อก เพราะมันสะใจดีครับ

ภารกิจของเกม

ก่อนอื่นต้องบอกว่า กฎ กติกาของ UFC ฉบับ Mobile นั้นไม่ได้เป็นไปตามกฎจริงที่ดูผ่านหน้าจอทีวีสักเท่าไหร่ เพราะตัวเกมทำมาเอาสะดวก ต่อสู้เพียงแค่ยกเดียวเท่านั้น เพราะเช่นนี้แล้ว มีอะไรก็ต้องใส่ให้หมด ไม่ต้องไปกั๊กเหนื่อยรอพักเผื่อยกหน้า 

ภารกิจของเกมจะแบ่งเป็นสเตจ (Stage) ถ้าชนะตามเงื่อนไขของเกมจะ 3 ดาวเต็ม แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ก็จะลดหลั่นลงไป โดยในแต่ละสเตจคู่ชกของเราก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะเช่นนี้แล้ว ผู้เล่นอย่างเราจำเป็นต้องซื้อไอเท็มมาเสริมความแข็งแกร่ง โดยที่ไอเท็มภายในเกม อาจจะได้มาจากการเอาเงินภายในเกมจากการชนะในแต่ละด่านไปซื้อ หรือการใช้ “เงินจริงผ่านบัตรเครดิต” ซื้อไอเท็มเข้ามาเสริมแกร่งตัวละคร

Challenge

ส่วนนี้จะเป็นโหมดที่เกมสร้างมาท้าทายการเล่นเราว่า ถ้าหากปฏิบัติการ Challenge พิเศษได้ ก็จะได้รับเงินในเกมสำหรับซื้อไอเท็มได้ ซึ่งการ Challenge ก็จะมีตั้งแต่ จับคู่ต่อสู้ Takedown ให้ได้ 7 ครั้ง ทำ KO ให้ได้ 5 ครั้ง หรือต้องเก็บ 3 ดาว 4 ครั้ง เป็นต้น

In-App Purchase

ระบบ IAP ไม่ได้มีแค่ไอเท็มของเกมเท่านั้น แต่จะมีส่วนตัวละครพิเศษ ซึ่งทาง EA ได้นำเอาสุดยอด MMA ของโลกอย่าง Bruce Lee มาเป็นตัวละครพิเศษ ที่เราจะต้องใช้ IAP ซื้อ ไปจนถึงนักชก UFC ขั้นเทพอย่าง Jose Aldo เช่นกัน

สิ่งที่ชอบ (The Good)

หลังจากที่เล่น UFC ฉบับมือถือ ยอมรับครับว่า ตัวเกมทำวิช่วลออกมาได้สวยงามเป็นอย่างยิ่ง กราฟิกคมชัด มูฟเมนต์ของนักชกก็ใช้ได้ เกือบสมจริง แม้จะไม่ได้ใช้ Motion Capture แบบใน Console ก็ตาม ผสมผสานเข้ากับการเข้าทำ การโจมตีที่สมจริง จึงทำให้เกม UFC เป็นเกมต่อสู้บนมือถือที่เล่นแล้วสนุกที่สุดเกมหนึ่ง

สิ่งที่ไม่ชอบ (The Bad)

ตัวเกม ‘Lag’ มากๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราจับทุ่ม (Takedown) อันนี้ผมเข้าใจว่า เป็นเพราะตัวเกมมีการประมวลผลกราฟิกที่หนักมากๆ ขนาดสมาร์ทโฟนระดับ hi-end ยังกระตุกได้เลย 

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่า เป็นเรื่องของโหมดการแข่งขันที่ไม่หลากหลายเอาเสียเลย เพราะมีแค่การต่อสู้แบบสเตจ จึงทำให้เกิดความจำเจไม่น้อยครับ

UFC มีให้ดาวน์โหลดทั้งใน iOS และ Android