ICT ไทยโตก้าวกระโดด ติดโผกลุ่มโตสูงที่สุดในโลก

กสทช. ชี้การแข่งขัน ICT ของไทยโตต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ติดกลุ่มประเทศ ICT Dynamic ที่สูงมากที่สุดในโลก ระบุชัดประมูล 3G ความถี่ 2100 MHz เกิดผลบวกต่อเนื่องกับไทย พร้อมคาดการประมูล 4G ที่ผ่านมาจะส่งผลให้ไทยก้าวกระโดดมากขึ้นในอนาคต

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และ รองประธาน กสทช. แถลงว่า ในที่ประชุม ICT Indicators Symposium Hiroshima, Japan กำลังจะประกาศว่าระดับการแข่งขันด้าน ICT ของไทยก้าวหน้า โดยมีลำดับสูงขึ้นติดต่อกัน 2 ปี และปีนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มี ICT Dynamic ที่สูงมากที่สุดในโลก ซึ่งผลการวิเคราะห์ได้ชี้ว่า การประมูลคลื่น 3G 2100 MHz ยังมีผลบวกต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าการประมูล 4G จะมีผลให้ไทยก้าวกระโดดในอนาคตอันใกล้

อีกทั้งการเจรจาความร่วมมือ กทค. กับกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร (MIC-Ministry of internal Affairs and Communications) จากการประชุมระหว่างรมว.กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารกับคณะกรรมการกสทช .เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยหัวข้อความร่วมมือเรื่อง IOT (Inter-Operator Tariff) ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสองฝั่งมีการเจรจาทางธุรกิจร่วมกันโดยตรง เพื่อปรับลดค่าบริการ Roaming ทั้งบริการเสียงและข้อมูลลงทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่ภาคประชาชนและภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ

ICT ไทยโตก้าวกระโดด ติดโผกลุ่มโตสูงที่สุดในโลก
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และ รองประธาน กสทช.

และเนื่องด้วย กสทช. ได้เข้าร่วมงานประชุม The 13th World Telecommunication/ICT Indicators Symposium (WTIS-2015) ที่กรุงฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคมจึงได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ ผลปรากฏว่าผู้ประกอบการฝั่งไทย AIS, DTAC, และ ทรูมูฟ กับผู้ประกอบการฝั่งญี่ปุ่น NTT Docomo, SoftBank และ KDDI ในปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยในบางรายได้มีการเจรจาปรับลดค่าบริการRoaming ลงไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมและกำลังจะทยอยปรับภายในต้นปีหน้าต่อไป โดยการเจรจาในบางรายการกำลังเจรจาขอลดตั้งแต่ 10%-72%

ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะผลักดันความร่วมมือด้านต่างๆเพิ่มเติม เช่นในหัวข้อเรื่อง ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security)ที่ทางประธาน กทค. ได้หยิบยกให้ทาง กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร ให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญมาให้ประสบการณ์ การจัดทำแผนการดูแลเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งความร่วมมือป้องกัน โดยทั้งนี้ประธาน กทค.ได้ให้ความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งยวด(Critical Infrastructure)

ICT ไทยโตก้าวกระโดด ติดโผกลุ่มโตสูงที่สุดในโลก

โดยปัจจุบันการเชื่อมต่อโทรคมนาคมได้แทรกเข้าไปอยู่ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศหลายอย่างเช่นโครงข่ายภาคการเงินการธนาคาร โครงข่ายการควบคุมสาธารณูปโภคต่างๆ โครงข่ายระบบสาธารณสุข โครงข่ายคมนาคมต่างๆ ดังนั้นถ้ามีการโจมตีไซเบอร์เข้าที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวดเหล่านี้และไม่มีการป้องกันอย่างแข็งแรงพอ จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศได้

นอกจากนี้ในเรื่อง IoT(Internet of Thing) ทางญี่ปุ่นมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ประธาน กทค. จึงอยากแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งทางด้านเทคโนโลยี การกำกับดูแล แนวทางการจัดสรรคลื่น เพื่อกระตุ้นให้มีการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรม IoT ในประเทศไทย โดยคาดว่าหลังการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 1800และ900MHz ผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นจะมีการเร่งลงทุนโครงข่าย 4G ที่จะเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญให้มีการพัฒนาต่อยอดสำหรับอุตสาหกรรม IoT ต่อไปได้

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000132291