สำหรับ Nokia X2 ที่มาพร้อมกับ Nokia X Platform 2.0 ที่พึ่งจะเปิดตัวไปได้ซักพัก ที่ทำให้เหล่าผู้ใช้ Nokia X ที่รันบน Nokia X Platform 1.0 ต้องน้ำตาตกในกันเพราะอัพเดทเป็น 2.0 ไม่ได้ คราวนี้ผมก็ไปได้ข้อมูลจากตัวเครื่องมาก็เลยคาบข่าวมาสรุปให้ได้อ่านกันเล่นๆ เพื่อที่ว่าผู้อ่านจะได้เก็บเป็นข้อมูลเอาไว้ช่วยในการตัดสินใจว่าจะรอซื้อดีมั้ย หรือเปรียบเทียบว่าต่างจากตัวเก่าซักแค่ไหน

คราวนี้มีปุ่ม Home แล้วนะจ๊ะ ไม่ต้องกดปุ่ม Back ค้างกันอีกต่อไปแล้ว~

ไปเอาเครื่องจากไหนมาทำพรีวิวล่ะเนี่ย?

ถึงจะบอกว่าผมได้ลองเล่นเจ้า Nokia X2 บนเครื่องจริงแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังไม่ได้จับตัวเครื่องจริงๆนะ

เอ้า! หมายความว่ายังไงเนี่ย!?

นั่นก็เพราะทาง Nokia นั้นจะมีเครื่องมือช่วยนักพัฒนาที่ทำแพลตฟอร์มของ Nokia ซึ่งเครื่องมือหนึ่งในนั้นก็คือ Remote Device Access หรือการควบคุมเครื่องจริงจากระยะไกลนั่นเอง

โดยที่เครื่องดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องจริงๆ ไม่ใช่อีมูเลเตอร์ที่จำลองการทำงาน เพราะการใช้งาน Remote Device Access จะเป็นการควบคุมเครื่อง Nokia X2 ของจริงผ่านโปรแกรมบนคอม ซึ่งทาง Nokia ได้มีไว้ให้นักพัฒนาได้ทดสอบแอพของตนเองก่อนที่จะปล่อยเข้าสู่ Nokia Store และก็มี Nokia X2 ให้ลองนั่นเอง

600x305

ดังนั้นผมก็เลยลองส่งแอพลงบนเครื่องดังกล่าวแล้วดึงข้อมูลที่สำคัญๆมาสรุปให้อ่านกันคร่าวๆนั่นเอง เพราะฉะนั้นข้อมูลจากการใช้งานจริงอย่างเช่น ภาพจากกล้องเป็นไงบ้าง ถอดแบตได้มั้ย ผมก็บอกไม่ได้นะเพราะไม่สามารถทดสอบได้ ข้อมูลส่วนใหญ่จึงเป็นข้อมูลจากซอฟท์แวร์ล้วนๆ

Nokia X Platform 2.0 มาแล้วจ้า

สำหรับ Nokia X Platform 2.0 นั้นมีพื้นฐานมาจาก AOSP 4.3 ซึ่งต่างจาก 1.0 ที่อิงจาก 4.1 ซึ่งบน 2.0 นี้ก็ตามสูตรเดิมก็คือเป็น AOSP 4.3 ที่เอา Google Services ออก แล้วใส่ Nokia Services เข้ามาแทนที่ หรือถ้าสรุปง่ายๆก็ประมาณนี้

Nokia X Platform 2.0 = ( AOSP 4.3 – Google Services ) + Nokia Services

สำหรับตัว Nokia X Platform 2.0 (ต่อไปขอเรียกสั้นๆว่า 2.0 นะ) ก็มีการปรับรูปร่างหน้าตาให้ดูเหมือน Windoww Phone มากขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะ อย่างแรกสุดหน้า Lockscreen จากเดิมให้ Swipe จากขวาไปซ้ายเพื่อปลดล็อคหน้าจอ ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็น Swipe จากล่างขึ้นบนแล้ว

200x333 200x333

สำหรับหน้า Homescreen ก็มีการปรับปรุงใหม่ให้เหมือน Live Tile บน Windows Phone ยิ่งขึ้น

200x333 200x333

(ภาพซ้าย) หน้า Homescreen บน 1.0 (ภาพขวา) หน้า Homescreen บน 2.0

และในที่สุดก็มีหน้า App List ให้เลื่อนไปดูได้ง่ายๆแล้ว โดยการ Swipe จากซ้ายไปขวาที่หน้า Homescreen ซึ่งใครที่เคยใช้ Windows Phone มาก่อนก็คงบอกได้ว่า นี่มันเหมือนกันเป๊ะๆ!!

200x333

สำหรับ Notification Bar ก็เปลี่ยนเป็นแบบใหม่ (ผมก็ไม่ค่อยชอบแบบเก่าเหมือนกัน) โดยแบ่งส่วนที่เป็น Notification กับ Setting ออกจากกัน

200x333 200x333

เทียบกับของเก่าที่ทั้งสองส่วนรวมอยู่ในหน้าเดียวกัน ซึ่งหน้าจอก็เล็กอยู่แล้ว แถมยังจะเบียดกันอีกจึงทำให้ Notification ไม่สามารถแสดงได้อย่างเต็มที่ซักเท่าไร

200x333

สำหรับคีย์บอร์ดก็ทำใหม่ให้ดูเป็นเหลี่ยมมากขึ้น และที่สำคัญคือมีปุ่มเปลี่ยนภาษาแยกออกมาให้แล้ว (ใครที่ใช้ Nokia X คงจะรู้ซึ้งกันดี จนต้องไปหา ManMan มาลง) โดยปุ่มเปลี่ยนภาษาจะอยู่ซ้ายมือของปุ่มเว้นวรรค เป็นสัญลักษณ์ลูกโลกที่คีย์บอร์ดแอนดรอยด์ทั่วไปนิยมใช้กัน

200x333 200x333

ลองเทียบกับคีย์บอร์ดของ 1.0

200x333

และความทรงจำเลวร้ายอย่างหนึ่งของคีย์บอร์ดบน Nokia X Platform 1.0 ก็ถูกปรับใหม่ให้ดีขึ้นแล้ว นั่นก็คือปุ่ม _ ย้ายมาอยู่บริเวณตรงกลางของแป้นคีย์บอร์ดแล้ว!!!!! (ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ผมแค่คนเดียวที่ประสบปัญหาจะพิมพ์ _ แล้วดันหาปุ่มไม่เจอในตอนที่ใช้งานช่วงแรกๆ)

หน้า About Phone ของตัวเครื่อง จะเห็นว่าผมทดสอบบนรุ่น RM-1013 (ที่ระบุไว้เพราะเดี๋ยวมีข้อสงสัยระหว่างทางที่จะเล่าให้ฟัง)

200x355

หน้า Storage เพื่อดู ROM ที่มีทั้งหมดและ Running Apps เพื่อดู RAM ที่เหลืออยู๋

200x333 200x333

หน้า Display ที่ยังคงมี Screen double tap ให้เคาะเครื่องสองทีเพื่อเปิดหน้าจอ (ในคำอธิบายบอกให้แตะที่หน้าจอสองที แต่พอใช้งานจริงต้องตบแทนการแตะถึงจะติด)

200x333

สำหรับในเครื่องของ User Interface ผมก็ได้ลองแค่คร่าวๆเท่านั้น เพราะมัวแต่ไปทดสอบอย่างอื่นด้วย

สเปคเครื่องของ Nokia X2

  • OS : Nokia X Platform 2.0 (Based on AOSP 4.3)
  • Manufacturer : Nokia
  • Model : RM-1013
  • Device : RM-1013
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 200 MSM8610 Dual-core 1.2GHz
  • CPU Architecture : ARMv7 Processor rev 3 (v7l)
  • GPU : Adreno 305 Single Core 400MHz หรือ 450Mhz (ไม่แน่ใจ)
  • RAM : 1 GB (Available 431.948 MB) with Heap Size 128 MB
  • ROM : 4GB [Available 2.304 GB] with micro-SD Card supported
  • Dimension : 121.7 x 68.3 x 11.1 mm (อิงจากมูลจาก GSMArena)
  • Weight : 150 g (อิงจากมูลจาก GSMArena)
  • Display
    • Screen Size : 4.3 inch
    • Screen Resolution (px) : 800×480 px
    • Screen Resolution (dp) : 533×320 px
    • Screen Density : ~217 dpi (X : 217.714 dpi, Y : 216.17 dpi)
    • Size [Dev] : Normal
    • Density [Dev] : High (240 dpi)
    • Multitouch : 5 Points
  • Connectivity
    • Telephony : รองรับ
    • Cellular
      • GSM : 850 / 900 / 1800 / 1900 (อิงจากมูลจาก GSMArena)
      • HSDPA : 900 / 2100 (อิงจากมูลจาก GSMArena)
    • GPS : รองรับ + A-GPS + GLONASS + Beidou (อิงจากมูลจาก GSMArena)
    • Bluetooth : Bluetooth 4.0 (รองรับ BLE)
    • WiFi : รองรับ
    • WiFi Direct : รองรับ
    • USB OTG : ไม่รองรับ
    • USB Accessory : รองรับ
    • NFC : ไม่รองรับ
  • Camera
    • กล้องหน้า
      • Color Effect : ไม่มี
      • Flash : ไม่มี
      • Focus Mode : Fixed
      • Scene Mode : ไม่มี
      • Picture Resolution : (VGA) 640×480 352×288 320×240 176×144
      • Video Resolution : (480p) 640×480 480×320 352×288 320×240 176×144
      • White Balance : auto incandescent fluorescent warm-fluorescent daylight cloudy-daylight twilight shade
      • Auto Exposure Lock : ไม่รองรับ
      • Auto White Balance Lock : ไม่รองรับ
      • Smooth Zoom : ไม่รองรับ
      • Video Snapshot : รองรับ
      • Video Stabilization : ไม่รองรับ
      • Zoom : รองรับ
    • กล้องหลัง
      • Color Effect : none mono negative solarize sepia posterize whiteboard blackboard aqua
      • Flash : off auto on torch
      • Focus Mode : auto infinity macro continuous-video continuous-picture
      • Scene Mode : auto asd landscape snow beach sunset night portrait backlight sports steadyphoto flowers candlelight fireworks party night-portrait theatre action AR hdr
      • Picture Resolution : (5MP) 2592×1944 2560×1440 2048×1536 1920×1080 1600×1200 1280×768 1280×720 1024×768 800×600 800×480 720×480 640×480 352×288 320×240 176×144
      • Video Resolution : (720p) 1280×720 864×480 800×480 720×480 640×480 480×320 352×288 320×240 176×144
      • White Balance : auto incandescent fluorescent warm-fluorescent daylight cloudy-daylight twilight shade
      • Auto Exposure Lock : รองรับ
      • Auto White Balance Lock : รองรับ
      • Smooth Zoom : ไม่รองรับ
      • Video Snapshot : รองรับ
      • Video Stabilization : ไม่รองรับ
      • Zoom : รองรับ
  • Sensor
    • Accelerometer
      • Vendor : Kionix
      • Name : Kionix KX022
      • Power : 0.2 mA
      • Max Range : 19.62 m/s2
    • Light Sensor
      • Vendor : Texas Advanced Optoelectronic Solutions (TAOS)
      • Name : TSL27713FN
      • Power : 0.75 mA
      • Max Range : 3626657.8 Lux
    • Proximity Sensor
      • Vendor : Texas Advanced Optoelectronic Solutions (TAOS)
      • Name : TSL27713FN
      • Power : 0.75 mA
      • Max Range : 5 cm

ที่น่าสังเกตคือ จากที่ไปเช็คมาบอกว่าเครื่องมี RAM 1 GB แต่พอเช็คจริงๆเหลือราวๆ 432 MB เท่านั้นเอง ซึ่งจากภาพแสดงข้อมูล Running Apps ก็จะเห็นว่า Used ไป 295 MB แล้ว เหลือให้ใช้อีกแค่ 126 MB เท่านั้นเอง ทำให้ผมงงตรงจุดนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นรุ่น 512 MB? เพราะเท่าที่ทราบข่าวก็ไม่รู้นะว่ามีตัว 512 MB ด้วยหรือป่าว แต่จากเครื่องทดสอบที่เป็นรุ่น RM-1013 ก็น่าจะเป็น 1GB ที่นา (น่าจะ Available ซัก 700 MB สิ) ส่วน ROM ดีหน่อยที่ไม่แบ่งย่อยเหมือนเจ้าอื่นๆ โดยที่ตัวนี้มีให้ 4 GB ก็ใช้ในส่วนของระบบไปจนเหลือ 2.25 GB ซึ่งมีให้ใช้จริงๆก็ 2 GB หน่อยๆ ถือว่าโอเคอยู่บบ้าง (เครื่องที่ทดสอบไม่ได้ลงแอพอะไรเพิ่มเติมนะ)

Benchmark เล่นๆด้วย AnTuTu Benchmark

เนื่องจากการควบคุมผ่านโปรแกรมนั้นสามารถยัด APK ได้ ผมจึงยัด AnTuTu Benchmark ไปเทสเล่นๆดู ผลก็ได้ดังนี้

300x500

300x500

300x500

ผลออกมาได้น้อยกว่าที่คิด แต่ผมคิดว่าน่าจะได้คะแนนมากกว่านี้ เหมือนอันนี้จะน้อยเกินไป อาจจะเพราะ Device Remote Access หรือป่าวก็ไม่รู้ ดังนั้นทางที่ดีให้รอดูผลตอนเครื่องเข้ามาในบ้านเราอีกทีดีกว่า

จริงๆกะว่าจะลอง Benchmark ด้วยแอพตัวอื่นอีก (พวก 3D Mark ไรงี้) แต่ Remote Device Access มีข้อจำกัดว่าในวันหนึ่งใช้ได้แค่ 3 ชั่วโมง ซึ่งครบระยะเวลาไปแล้ว จึงอดทดสอบเลย 🙁

ดังนั้นขอจบการสรุปข้อมูลแบบคร่าวๆเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับผม