วันนี้ได้มีโอกาสมางานเปิดตัวบริการใหม่ Pay PLUS บน K-Mobile Banking Plus สำหรับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย (ไม่มีบัญชีก็อ่านขำๆได้นะ :P) ซึ่งเห็นว่าเป็นบริการใหม่ที่น่าสนใจใช้ได้ และทำดีๆมีสิทธิ์ชน Android Pay และ Apple Pay กระจุยได้ไม่ยาก เพราะใช้งานได้ง่ายๆแค่เพียงบอกเบอร์โทรศัพท์ให้กับร้านค้าเมื่อต้องการชำระเงิน แล้วก็รอกดอนุมัติเงินผ่านแอปเพื่อตัดเงินออกจากบัญชีได้เลยทันที โดยไม่ต้องควักบัตรหรือเงินสดออกมาสักอย่างเดียวเลยครับ

จะใช้บริการนี้ต้องมีอะไรบ้าง

  1. บัญชีธนาคารกสิกรไทย (ไปหาเปิดเอาใกล้ๆบ้านนะ)
  2. เปิดใช้งาน K-Mobile Banking PLUS
  3. โหลดแอป K-Mobile Banking จาก Play Store หรือ App Store

วิธีการใช้งาน

ตัวอย่างในที่นี้จะใช้ซื้อตั๋วหนังของ SF Cinema นะครับ ที่ตอนนี้พร้อมใช้งานซื้อตั๋วผ่านแอป และชำระเงินด้วย Pay PLUS ได้แล้ว

  

เมื่อเราเลือกหนัง รอบ และจำนวนตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อกด Buy Now จะมีตัวเลือกช่องทางการชำระเงินขึ้นมา ก็เลือก K-Mobile Banking PLUS จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาดังภาพให้เราเข้าไปกดยืนยันการชำระเงิน แล้วเราก็ได้จะโค้ดสำหรับไปแลกรับตั๋วที่ Box Office ได้เลยทันทีครับ

  

 

ปัจจุบันมีบริการที่รองรับการชำระเงินด้วย Pay PLUS เพียง 2 เจ้าเท่านั้นคือ SF Cinema และ Good Game (True Digital Plus) ซึ่งต้องชำระเงินผ่านตัวแอปเท่านั้น ส่วนที่กำลังทำตามมาให้รองรับคือ AIS, Central Online, Thai Ticket Major, นครชัยแอร์, นกแอร์, และเมืองไทยประกันชีวิต

อ่านมาตั้งนาน…ขี้โม้นี่หว่า ยังใช้ได้แค่ 2 ร้านแถมต้องผ่านแอป

ตอนแรกก็คิดอย่างงี้เหมือนกันครับ จนทีมงานเดินมาชี้แจงถึงสิ่งที่กำลัง KBANK แพลนเอาไว้ในอนาคต โดยเค้าให้ข้อมูลว่า

“ลองนึกภาพว่าต่อไป เมื่อเราไปกินข้าวตามร้านอาหาร เราไม่จำเป็นต้องให้เงินสดหรือว่าบัตรเครดิตกับพนักงานไป แค่บอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อสั่งเช็คบิล แล้วก็กดอนุมัติการชำระเงินได้เลยผ่านแอป K-Mobile Banking PLUS ไม่ต้องรอตังค์ทอน ไม่ต้องรอรูดบัตรไปมา เงินสดในกระเป๋าก็ไม่ต้องควัก”

ทำเอาผมเห็นภาพความสะดวกขึ้นมาเลยทีเดียวครับ และพอคิดไปคิดมา มันก็แอบสะดวกกว่า Apple Pay หรือ Android Pay พอสมควรเลยด้วย แค่บอกเบอร์ก็จบ ไม่ต้องควักเครื่องมาจ่ายตังค์ แค่ควักเครื่องมายืนยัน เครื่องรุ่นเก่าหรือใหม่ มี NFC หรือไม่มี ก็สามารถใช้งานได้เหมือนๆกันอีกต่างหาก โดยทีมงานบอกว่าอาจจะได้เห็นร้านค้ารองรับกันเยอะๆอย่างเร็วก็ช่วงปีหน้า 2016 เลยครับ

เรียกว่าต้องรอลุ้นต่อไปว่า KBANK จะหาพาร์ทเนอร์หรือร้านค้าที่จะร่วมใช้บริการนี้ได้รวดเร็วตามที่พูดหรือเปล่า เพราะประเด็นมันอยู่แค่ตรงนี้แหละ ถ้าบริการอื่นแม้จะเข้ามาทีหลัง แต่กวาดตลาดได้เรียบ ร้านค้าทั่วไปในชีวิตประจำวันรองรับการชำระเงินรูปแบบดังกล่าว เกมก็แทบจะจบทันที

แล้วมันจะปลอดภัยขนาดไหน?

สำหรับคนที่กลัวๆว่าแบบนี้มือถือหายทีนึงก็บรรลัยเลยรึเปล่า โดนโอนเงินออกหรือใช้จ่ายกันได้ง่ายๆเลยสิแบบนี้ ผมขออธิบายแบบนี้ละกันครับ

  1. ใครที่มีการผูกบัญชีหรือทำธุรกรรมผ่านมือถือ ควรต้องมีการล็อคเครื่องเอาไว้อยู่แล้ว จะ password หรือลายนิ้วมือก็ตาม
  2. ถ้าเครื่องหายเราสามารถสั่ง Lock เครื่องได้ทันทีทั้ง iPhone หรือ Android (ดูวิธีสั่งล็อคเมื่อเครื่องหาย)
  3. ก่อนใช้งานแอป K-Mobile Banking ต้องมีการใส่พาสเวิร์ดเสมออยู่แล้ว
  4. K-Mobile Banking เป็นแอปที่ขึ้นชื่อเรื่องขั้นตอนมากมายในการเปิดใช้งาน หรือย้ายเครื่อง โดย
    • ต้องผูกกับเบอร์โทรศัพท์ (เปลี่ยนซิมในเครื่องก็ใช้ไม่ได้ทันที)
    • ต้องผูกกับเครื่อง (เอาซิมไปใส่เครื่องใหม่ก็ใช้ไม่ได้ทันที)
    • จะย้ายเครื่องหรือย้ายซิมต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่
    • ต้องไปทำการยืนยันตัวตนผ่านเครื่อง ATM หรือธนาคารเท่านั้น
    • จะใช้งานทีนึงก็ต้องทำผ่าน 3G เท่านั้น ต่อ WiFi ไม่ได้ (ป้องกันการโดนโจรข้อมูลผ่าน WiFi สาธารณะ)

ซึ่งข้อ 4 มันเป็นอะไรที่วุ่นวายมากสำหรับผมที่เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์บ่อย แต่ในทางกลับกันมันก็ถือว่าปลอดภัยดีสำหรับบุคคลทั่วไปที่นานๆจะเปลี่ยนเครื่องทีนึงนะ 

ส่วนตัวผมไม่เคยคิดว่าการทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัย 100% แต่ผมเชื่อว่าธนาคารจะดูแลเราในกรณีที่เราประสบปัญหา เพราะแทบทุกธุรกรรมออนไลน์มันสามารถติดตามได้ 

 

ก็ลองไปใช้กันดูละกันครับ สำหรับ Pay PLUS บน K-Mobile Banking ช่วงนี้มีโปรใช้แล้วจะได้รับเงินคืน 5% สูงสุดไม่เกิน 100 บาท (ไม่แน่ใจว่าต่อ transaction รึเปล่านะครับ) ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม และถ้าใช้ครบ 3 ครั้งต่อเดือนก็ไปรับสิทธิประโยชน์จากแคมเปญ Reward PLUS ได้ด้วยคร้าบ (ไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าจะมีเก็บแต้มยาวๆเหมือนกับบัตรเครดิตหรือเปล่านะ)