ถึงเวลาของพี่ใหญ่ไซส์ 5 นิ้ว Nokia XL กันแล้ว หลังจากปล่อยให้ Nokia X น้องเล็กมาลุยตลาดไปก่อนหน้านี้ กับสมาร์ทโฟนพันธุ์ผสมระหว่าง Anroid และ Nokia Service กลายเป็น Nokia X Platform ที่สามารถใช้งานแอพ Android กว่าแสนๆ แอพได้สบายๆ

Nokia XL ถูกตั้งราคาไว้ที่ 5,650 บาท และเพิ่งจะวางตลาดในบ้านเราไปเมื่อช่วง Thailand Mobile Expo ทีผ่านมานี่เอง หลายๆ คนที่เก็บเงินรอคอยเจ้า XL ตอนนี้น่าจะได้เป็นเจ้าของกันแล้ว และทาง Nokia เองก็เอาเข้ามาจำหน่ายทุกสีไม่ว่าจะเป็น เขียว ส้ม เหลือง ดำ ขาว ฟ้า สามารถเลือกกันได้เลย แต่วันนี้แกะกล่องพรีวิว Nokia XL นั้นเราได้สีเป็ดเขียวแบบเดิมมาให้ชมกันจ้า ส่วนตัวผมชอบสีส้มกะสีฟ้า (บอกทำไม :|)

 

เช็คของๆ ก่อนอื่นแกะกล่องออกมาก็ต้องดูให้ครบว่ามีอุปกรณ์เหล่านี้หรือไม่ ตัวเครื่อง Nokia XL, หม้อแปลง, แบตเตอรี่, หูฟัง, สมอลทอล์ค, คู่มือเล่มบางๆ และใบรับประกัน หากมีครบตามนี้ก็ไปต่อได้

 

แบตเตอรี่ของ Nokia XL มีความจุ 2,000 มิลลิแอมป์ ส่วนหม้อแปลงจ่ายไฟ 5V 750mA

 

ทบทวนสเปคของ Nokia XL ให้ฟังกันอีกครั้ง หากใครยังไม่ทราบ หรือบางคนเคยรู้แต่ลืมแล้ว

  • ระบบปฏิบัติการณ์ Nokia X Platform 1 รองรับการใช้งานแอพ Android
  • CPU Qualcomm Snapdragon 1GHz dual-core
  • หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด WVGA (800×480)
  • ROM 4 GB
  • ใส่ micro SD เพิ่มได้สูงสุด 32GB
  • RAM 768MB
  • กล้องหลังความละเอียด 5MP Auto focus + LED Flash
  • กล้องหน้าความละเอียด 2MP
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (ใช้ micro SIM ทั้ง 2 ช่อง)

 

ในที่สุด Nokia XL ก็มีกล้องหน้าให้ selfie แล้ว แถมให้ความละเอียดมาตั้ง 2MP ถือว่าเยอะเหมือนกันหากเทียบกับค่ายอื่นๆ ที่อาจจะให้มาแค่ VGA หรือ 1.3MP ในช่วงราคานี้ ส่วนหน้าจอ 5 นิ้วกับความละเอียด WVGA นั้นผมว่ามันหยาบไปหน่อยนึง

 

กล้องหลังความละเอียด 5MP มาพร้อมระบบออโตโฟกัสและ LED แฟลช กลบจุดอ่อนของ Nokia X ไปเรียบร้อย ถ่ายภาพมาโคร หรือภาพอาหารอัพลง IG ได้ซะที 

 

ทรวดทรงดีไซน์และวัสดุที่ของ XL นั้นเหมือนกับ X ไม่มีผิด เพียงแต่มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น ปุ่ม power และปุ่มปรับเสียงอยู่ทางด้านขวา ส่วนช่องหูฟังอยู่ด้านบน หากต้องการจะชาร์จแบตหรือโอนถ่ายข้อมูลเชิญช่อง micro USB ด้านล่าง 

 

เวลาแกะฝาหลังของ Nokia XL แนะนำให้ทำจากด้านบนตามที่สติ๊กเกอร์เค้าแปะบอกไว้นะครับ เพราะด้านล่างมันมีเขี้ยวล็อคอยู่ งัดไปงัดมามันจะพังเอาได้

 

แกะออกมาแล้วก็เหมือนเป็นการเปลือยเครื่องกันเลยทีนี้ ช่องซิมที่ 1 ระบุชัดเจนว่าสำหรับ 3G และ 2G คั่นกลางด้วยช่องใส่ micro SD ก่อนจะเป็นช่องซิม 2 

 

ใส่แบตปิดฝาเปิดเครื่อง~ บูธขึ้นมาก็พร้อมหน้าจอ Nokia X Platform ลูกผสมของ Android ที่มีหน้าโฮมเหมือน Windows Phone ซึ่งแอพทุกตัวที่คุณติดตั้งจะอยู่บนหน้าโฮมทั้งหมด และมีเพียงหน้าเดียว ให้คุณเลื่อนขึ้นลงหาแอพกันให้เพลินไปเลย

 

แต่ยังดีที่ตอนนี้ Nokia X Platform มีการอัพเดทให้สามารถเปลี่ยนพื้นหลังแอพที่ติดตั้งเพิ่มลงไปได้แล้วครับ จากที่ก่อนหน้านี้มีสีเดียวเหมือนกันไปหมด ตอนนี้เปลี่ยนสีได้หลากหลายมากขึ้น แบ่งหมวดหมู่ตามสีก็จะช่วยให้หาแอพได้ง่ายขึ้น (แต่เท่าที่ผมรู้จักหลายคนไปลง Launcher Android กันตั้งแต่วันแรกเลย)

 

แล้วถ้าหน้าโฮมมันมีแค่รายชื่อแอพให้เลื่อนขึ้นลง แล้วจะเลื่อซ้ายขวาหละมีอะไร อันนี้ Nokia เค้าเรียกว่า Fastlane หรือทางลัดให้คุณกลับเข้าสู่แอพที่คุณเปิดไปล่าสุดได้เร็วขึ้น เพราะ Nokia XL มันมีแค่ปุ่ม back ปุ่มเดียว (กดค้างจะกลับไปที่หน้า Home) การปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็จะคล้ายๆ กับปุ่ม recent apps ของ android นั่นแหละ

 

ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบ font ที่ Nokia เลือกมาใช้ใน Nokia X และ XL เลยครับ โดยเแพาะภาษาไทย มันดูแปลกๆ หัวโตๆ บิดๆ เบี้ยวๆ ยังไงไม่รู้ 

 

ส่วนของ Nokia Store นั้นตอนนี้เริ่มมีแอพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จริง แต่สุดท้ายแอพใหม่ๆ ดังๆ ส่วนใหญ่ก็มาถึงบน 1Mobile Market ก่อน เพราะฉะนั้นก็คงต้องโหลด 1Mobile Market มาติดตั้งเพื่อที่จะลงแอพใหม่ๆ เป็นหลักอยู่ดี ไว้ถ้าบน Nokia Store มีแอพอะไรมาแจกฟรีค่อยไปโหลดก็ได้

วิธีติดตั้งแอพ Android และ 1Mobile Market

 

แอพที่เป็นจุดขายอย่าง Nokia Here Maps หรือ Nokia Mix Radio ก็มากันครับ ส่วนตัวผมชอบ Mix Radio มากๆ เพราะมันใช้ฟรี (ผ่านเน็ต) แถมสุ่มเพลงแนวที่เราเลือกไว้มาให้ตลอดฟังได้เรื่อยๆ หรือจะเลือกฟังจากชาร์ทเพลงต่างประเทศก็ได้ ตอนไปวิ่งนี่ฟินมาก 

 

ส่วนโหมดกล้องนั้นไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมาย คือถ้าเทียบกับกล้องของฝั่ง Lumia แล้วโคตรจะลูกเมียน้อยเลยครับ มีอย่างมากก็แค่ถ่ายภาพปกติ ถ่ายพาโนรามา ปรับ White balance หรือค่า Exposure value ได้นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรครับ ไปหาแอพกล้องเจ๋งๆ ของ Android อย่าง 360camera หรือ 365perfect มาลงแทนก็ได้

ส่วนตัวจากที่ลองจับๆ เล่นมา Nokia XL นั้นค่อนข้างลื่นและตอบสนองดีกว่า Nokia X นะครับ อันนี้ไม่รู้เป็นที่ firmware หรือเปล่าเพราะจริงๆ สเปคมันก็ไล่เลี่ยกัน และตอนที่ผมเล่น Nokia X ก็เป็นรุ่นแรกๆ ซะด้วย แต่บอกได่้เลยว่าหน้าจอ 5 นิ้วทำให้ XL น่าเล่นกว่า รวมถึงความครบของ Hardware ในเรื่องของกล้องและแรมที่เพิ่มขึ้นกับราคา 5,650 บาทนั้นน่าสนใจเลยทีเดียว

แต่ Nokia XL เองก็แอบมาช้าไปหน่อย เพราะค่ายคู่ต่อสู้อย่าง Huawei, Asus, Lenovo นั้นทยอยกันเปิดตัวสมาร์ทโฟนสเปคโดนๆ ในราคาราวๆ 5,000 บาท ออกมารอแล้วหนะสิ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia XL

จากที่ได้ลองถ่ายภาพมา พบว่าชัตเตอร์และเสียงชัตเตอร์มันดีเลย์กันนิดหน่อย เวลาถ่ายภาพพอกดแชะแล้วต้องค้างกล้องไว้อีก 1 วินาที ไม่งั้นจะเจอภาพสั่นแน่ๆ

ภาพถ่ายขนาดเต็มความละเอียดไม่ย่อปรับ ขอเชิญไปดูที่ Nokia XL Sample images ได้ครับ