กลับมาอีกครั้งกับการอัพเกรดตระกูล J กับ Samsung Galaxy J7 Prime ที่ทิ้งช่วงจาก J7 version 2 แค่ไม่กี่เดือน โดยรอบนี้มาพร้อมบอดี้โลหะและหน้าจอกระจก 2.5D glass เพิ่มความหรูหรา เรียกว่าเฉียดตระกูล A ขึ้นมาอีกนิด โดยรอบนี้อัดสเปคมาพร้อมสู้กับเหล่าบรรดาแบรนด์จีนราคาต่ำหมื่นกันสุดๆ ทั้งสแกนลายนิ้วมือ เพิ่ม ROM 32GB เติม RAM 3GB และตั้งราคาเอาไว้ที่ 9,900 บาท (J7 version 2 ปรับลดเหลือ 7,900 บาท) ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลา มาชม พรีวิว Galaxy J7 Prime กันได้เลยจ้า

สเปค Samsung Galaxy J7 Prime

  • OS : TouchWiz UX บน Android 6.0.1 Marshmallow 
  • หน้าจอ : TFT 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล กระจก 2.5D
  • CPU : Samsung Exynos 7870 1.6GHz Octa-core
  • GPU : Mali-T830 MP2
  • RAM : 3GB LPDDR3
  • หน่วยความจำภายใน : 32GB รองรับ SD card สูงสุดที่ 128GB
  • กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล f/1.9
  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล f/1.9 พร้อมระบบ AF และ LED flash
  • การเชื่อมต่อ : ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, micro USB, USB OTG
  • การเชื่อมต่อไร้สาย : วิทยุ FM, WiFi, Bluetooth 4.1
  • เซนเซอร์ :สแกนลายนิ้วมือ, Accelerometer, Proximity
  • แบตเตอรี่ : 3300 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้
  • สัดส่วน : 151.5 x  74.9 x 8.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 167 กรัม
  • SIM : 2 SIM nano SIM + nano SIM (4G/3G/2G + 2G)
  • เครือข่ายที่รองรับ:
      4G : LTE B1(2100), B3(1800), B5(850), B7(2600), B8(900), B20(800) และ  B40(2300)
      3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100
      2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 
  • สี: ดำและทอง
  • ราคา: 9,900 บาท

ด้านหน้าตัวเครื่องนั้นเป็นสีดำสนิทแบบเดียวกับ Galaxy S7 และการได้หน้าจอเป็นกระจก 2.5D มานี่ทำให้ Samsung Galaxy J7 Prime ดูสวยงามขึ้นมากมาย

ฝาหลังตรงกลางนั้นเป็นโลหะทั้งชิ้นสีออกแนวดำเทา ครอบปิดไปถึงด้านข้าง จะมีก็แต่ส่วนหัวและท้ายที่เป็นพลาสติกเพื่อให้สัญญาณโทรศัพทฺและคลื่นวิทยุต่าง ผ่านเขาออกได้ (โดยรวมผมชอบฝาหลังสีดำมากกว่าสีทองที่ไปจับในงาน Mobile Expo)

ปุ่มพาวเวอร์ เปิด/ปิด เครื่องอยู่ที่ด้านขวาตามสไตล์ Samsung แต่รอบนี้มาแปลก เพราะดันมีช่องลำโพงมาแอบอยู่ที่เหนือปุ่มพาวเวอร์เล็กๆ ด้วย

ดูแล้วก็เป็นดีไซน์ที่แปลกดี คือยังไม่เคยเห็นค่ายไหนเอาลำโพงมาไว้ตรงนี้ เท่าที่ลองฟังกเสียงก็ถือว่าพอใช้ได้ ส่วนฝาหลังชิ้นเดียวนี่คือมาครอบปุ่มเอาไว้ด้วยเลย ซึ่งตัวปุ่มเองก็ฟิตพอดีกับช่องที่เจาะเอาไว้ ถือว่างานประกอบสอบผ่าน

ปุ่ม Home นั้นมาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนปุ่ม recent app และ back ของ Galaxy J7 Prime นั้นนอกจากจะไม่สั่นเวลาสัมผัสแล้ว ยังไม่มีแสงอีกด้วย ด้านท้ายเรียงจากซ้ายไปขวาเริ่มจากช่องไมโครโฟนสนทนา ต่อด้วย micro USB และช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนด้านซ้ายช่วงบนเป็นปุ่มปรับเสียง 

ถัดลงไปด้านล่างเป็นช่องถาดซิมโดยแยกออกเป็น 2 ช่อง

ช่องบนเป็นถาดซิม 1 ส่วนช่องล่างนั้นเป็นถาดซิม 2 และ micro SD เป็นแบบ triple slot มี 3 ช่องแยกกัน ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้องเหมือนรุ่นที่เป็นไฮบริด

บอกไว้ก่อนถามเลยละกัน Galaxy J7 Prime นั้นไม่รองรับการสแตนบายด์ 3G พร้อมกัน 2 ซิมนะครับ โดยเราสามารถเลือกซิมหลักที่จะใช้ 4G/3G ได้หนึ่งช่อง ส่วนอีกช่องจะถูกปรับเป็น 2G โดยอัตโนมัติ

ด้านบนตัวเครื่องไม่มีอะไร ขอผ่านไปเลย (ดูเหมือนจะไม่มีไมค์ตัดเสียงด้วย ไม่แน่ใจว่าแอบเอาไปซุกไว้ตรงไหนหรือเปล่า)

กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.9 สเปคเท่ากับ J7 version 2 

ส่วนกล้องหน้า Galaxy J7 Prime ความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 เช่นกัน 

หน้าตา UI ของกล้องมาแบบเดียวกับพวกรุ่นท็อปอย่างตระกูล A หรือ S มี Quick Launch Camera กดปุ่มโฮม 2 ครั้งก็เปิดกล้องได้ทันที

โหมดถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรวมไปถึงโหมดโปร (แต่ปรับได้แค่ ISO, White Balance และ Exposer) ส่วนกล้องหน้าโหมดบิวตี้นั้นไม่มีให้ปิด แต่มีให้ปรับลดลงเป็น 0 ได้ และเราก็มีตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูนิดหน่อยครับ

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง Galaxy J7 Prime 13MP

 

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า Galaxy J7 Prime 8MP 

ถ้าถามความรู้สึกคร่าวๆ Galaxy J7 Prime หลังจากลองสัมผัสมาหนึ่งวันก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจาก J7 version 2 เท่าไหร่ เพราะ hardware ภายในมันเหมือนกัน ที่เด่นๆ เลยคงเป็นเรื่องวัสดุที่ดีขึ้นกว่าเดิม ได้ RAM เพิ่มเป็น 3GB , ROM เพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 32GB กล้องหน้าชัดขึ้น 8 ล้านพิกเซล แถมได้สแกนลายนิ้วมือเพิ่มมาด้วย แต่ส่วนที่โดนตัดออกไปคือ LED flash กล้องหน้าและจอที่ลดจาก Super AMOLED เป็น TFT สีมันเลยจืดลงไปหน่อย 

ส่วน รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime ฉบับเต็มก็ขอเวลาเอาไปลองเล่นกันสักหน่อย จะได้รู้ว่าการใช้งานต่างๆ เป็นยังไง แบตอึดไม่อึดแค่ไหน ไม่นานเกินรอแน่นอนครับ