Samsung Galaxy Tab S2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยแบ่งรุ่นตามขนาดของหน้าจอคือ 8.0 และ 9.7 เป็นแท็บเล็ตเรือธงที่ทาง Samsung เขาเคลมว่าบางและเบาที่สุดในโลกหล้าเพียง 5.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ทั้งสองตัวมีความแตกต่างหลักๆ แค่ขนาดหน้าจอ ลำโพงสนทนา และแบตเตอรี่ ส่วนสเปคนอกเหนือจากนั้นเรียกได้ว่าฝาแฝดเหมือนกันหมด มาดูกันหน้าตาของเจ้า Galaxy Tab S2 8.0 และ 9.7 กันใกล้ๆ ชัดๆ ทุกมุม ว่าพอจับเล่นแล้วจะเข้ามือ ระบบลื่นไหลเหมาะสมที่จะเป็นแท็บเล็ตแนวหน้าของตลาดหรือเปล่า


นี่แหละค่ะคือโฉมหน้าค่าตาของแฝดทั้งสอง Samsung Galaxy Tab S2 8.0 และ 9.7 ขนาดต่างกันพอสมควร บ้านเราขายเพียงความจุเดียวเท่านั้นคือ 32GB ดีไซน์ด้านหน้าก็ยังคงหน้าตาแท็บเล็ตสไตล์ Samsung แถมรุ่นนี้มีระบบ Fingerprint scanner ชนิดเดียวกันกับรุ่นเรือธง Galaxy S6 กดทีเดียวก็ปลดล็อคได้

ลองหยิบแฝดน้อง 8.0 มาเล่นดูก่อน ความรู้สึกมันก็เบาจริงๆ ซึ่งทาง Samsung เขาบอกหนักเท่าหนังสือการ์ตูน 1 เล่ม 272 กรัม ก็โอเคถือว่าพกพาไปไหนมาไหนด้วยสะดวกดี ส่วนแฝดพี่ 9.7 ถึงแม้ว่าจะใหญ่กว่าแต่บอกเลยว่าไม่หนักไปกว่าแฝดน้องเท่าไหร่นัก 392 กรัมเท่านั้น (น้ำหนักของทั้ง 2 เป็นของรุ่น LTE นะคะ บางที่อาจจะเขียนน้ำหนักเบากว่านั่นคือรุ่น WiFi Only ค่ะ) ROM 32GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงประมาณ 25GB

หน้าจอ Super AMOLED อัตราส่วนภาพเป็น 4:3 ทำตามแนวทางของ Google ที่ได้เปลี่ยนอัตราส่วนหน้าจอจาก 16:9 เป็น 4:3 ตั้งแต่ Nexus 9 ตอนนี้แท็บเล็ตของ Samsung ที่ออกมาจึงเป็น 4:3 ทั้งหมด (ตั้งแต่ Tab A แล้ว) และถูกเคลมว่ามันจะทำให้ภาพเต็มตามากขึ้น ไม่ต้องเลื่อนจอกันบ่อยๆ เท่าที่ลองถูลองเล่นดู มันก็ลื่นไหลดีค่ะ ยังไม่ค้างไม่หน่วงใดๆ เอาจริงๆ ก็ได้เล่นแค่ 10 นาทีเอง 😀


แท็บเล็ตตั้งแต่ซีรีย์ S ข้างหลังจะมีปุ่มกลมๆ 2 จุด เอาไว้สำหรับล็อคกับตัว Flip cover วัสดุฝาหลังถูกอัพเกรดเป็นโลหะแล้วค่ะ จับขึ้นมานี่เย็นเฉียบเชียว (ก็มันตั้งอยู่ในห้องแอร์อะนะ) พื้นผิวจะเรียบเนียนๆ ดูดีน่าใช้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ กล้องหลังความละเอียดของทั้ง 8.0 และ 9.7 เท่ากัน 8MP f/1.9 ด้วยรูรับแสงที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น


กล้องหน้าความละเอียด 2.1MP เหมือนกันทั้งสองรุ่น แต่น่าเสียดายที่ตัว 9.7 ถูกตัดลำโพงสนทนาออกไปจึงไม่สามารถคุยแบบแนบหูได้ (แต่ใหญ่ขนาดนี้ถ้าแนบก็คงบังหน้ามิด ดูเทอะทะเกินจะแนบหู) ต้องเปิด speaker หรือใส่หูฟัง ส่วน 8.0 ยังคงมีลำโพงสนทนาเหมือนเดิม ทั้งสองรุ่นรองรับฟังก์ชั่นการโทรและ 4G LTE ด้วยค่ะ


เซลฟี่ไป 2-3 ภาพ คุณภาพโอเคเลยค่ะสวย (อาจจะสวยเพราะคนถ่ายนะ)


ความบาง 5.6 มิลลิเมตร Samsung เขาย้ำนักย้ำหนาว่าบางที่สุดในโลก ขอคอนเฟิร์มอีกคนค่ะว่าบางและเบาจริงๆ สำหรับ Galaxy Tab S2 ต่อไปต้องรอดูเลยว่าจะมีเจ้าไหนสามารถทำบางกว่านี้ออกมาสู้ไหม


ด้านขวาจะมีปุ่มพาวเวอร์ ปุ่มเพิ่มลดเสียง ช่องใส่ซิม ช่องmicroSD ได้สูงสุดถึง 128GB  ส่วนด้านซ้ายไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น เพราะมาเทรวมกันอยู่ทางด้านขวาหมดแล้ว

ช่องและพอร์ทต่างๆ อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องทั้งหมด ทั้งช่องหูฟัง 3.5 และช่อง microUSB ถ้าสังเกตุตัว Tab S2 8.0 นั้นมีช่องไมโครโฟนมาด้วย

ถ้าใครสนใจและอยากได้มาไว้ในครอบครอง Samsung Galaxy Tab S2 แล้วละก็ บอกไว้ตรงนี้ว่ารุ่น Tab S2 9.7 จะเริ่มวางขายก่อนในวันที่ 6 สิงหาคม ราคา 18,900 บาท ส่วนรุ่น Tab S2 8.0 จะตามมาติดๆ ในอาทิตย์ถัดมา ราคา 15,900 บาท ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกสองสี คือ สีขาวและสีทอง สามารถเข้าไปทบทวนเสปคของทั้งสองรุ่นได้ ที่นี่ ค่ะ