เป็นกระแสไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ Lenovo Yogabook แท็บเลตสุดครบเครื่อง ที่สเปคไม่เบา แถมมีทั้งคีย์บอร์ด และปากกา ซึ่งปากกานี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะสามารถเขียน-จด-วาดลงบนกระดาษก็ถูกเก็บบันทึกลงไปในเครืองได้เลยในทันที แถมราคาซื้อพร้อมโปรก็ยังดีงามเหลือเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่ามันดูดีขนาดนี้แล้ว เราจะเอามาแกะกล่องลองเล่นให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ ไปกันเล้ยยย

เริ่มจากหน้าตาของกล่อง ก็เรียกว่าใหญ่พอสมควรเลยนะ

ด้านหลังจะมีบอกฟีเจอร์ทั้งหลายทั้งแหล่

สเปคของ Yoga Book แบบเต็มๆมีรายละเอียดดังนี้ครับ

  • จอ IPS LED (LED Back-lit LCD) 10.1 นิ้ว  ความละเอียด 1920 x 1200, Color Gamut 70%, ความสว่างสูงสุด 400nits

  • ระบบสัมผัส บนหน้าจอ : Capacitive Touch with AnyPen Technology, บนแผ่นพิมพ์เขียน: Capacitive Touch and EMR Pen Technology
  • CPU Intel Atom x5-Z8550 quad-core 2.4GHz 2M Cache

  • RAM 4GB LPDDR3, ROM 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB

  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล รองรับ Auto-focus

  • กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล fixed-focus

  • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, GPS + AGPS

  • แบตเตอรี่ Li-Ion Ploymer 8,500 mAh, ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง

  • ขนาดเครื่อง 10.1 x 0.38 x 6.72 นิ้ว

  • วัสดุโลหะ น้ำหนัก 690 กรัม
  • เซนเซอร์ G-sensor, Light, Hall

  • ระบบเสียง Dolby Atmos

  • Android 6.0 (มีรุ่น Windows 10 Home ให้เลือกด้วย แต่จะแพงกว่า)

เปิดกล่องขึ้นมาก็จะเจอเจ้า Yoga Book นอนยั่วรอการสัมผัสจากเรา

ยกขึ้นมาก็จะเห็นชั้นล่างที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆทั้งหมด

รวมอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีแถมมาให้ในกล่องของ Lenovo Yoga Book

  1. ตัวเครื่อง

  2. สมุดจอ

  3. คู่มือ

  4. เข็มจิ้มซิม

  5. หัวชาร์จ 9V2A – 12V2A

  6. สายชาร์จ microUSB

  7. ปากกาพร้อมหัวเปลี่ยน

 

กางเปิดเครื่องมาจะเห็นว่าด้านบนเป็นจอ ด้านล่างเป็นคีย์บอร์ดแบบ Halo เรืองแสง และใช้เขียนวาดรูปได้

ด้านซ้ายของเครื่องจะมีช่อง microUSB ไว้เสียบชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล, ช่องใส่ซิมการ์ด+microSD, และช่องต่อเสียบ HDMI ให้ฉายขึ้นจอได้ด้วย และลำโพงซ้าย

ส่วนด้านขวาของเครื่องก็จะมีปุ่ม power และ volume rokr พร้อมลำโพงขวา

ด้านบนซ้ายของแผ่นคีย์บอร์ดจะมีกล้องที่ใช้เป็นกล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ปุ่มปรับโหมดเขียนด้วยปากกา และเส้นมุมฉากที่มาร์คเอาไว้เพื่อบอกตำแหน่งของพื้นที่ที่เขียนได้

ส่วนด้านซ้ายก็มีเพียงสติ๊กเกอร์ intel และมาร์คด้านซ้ายเท่านั้น

หน้าจอก็อย่างที่บอกไปว่าสเปคคือ IPS LED (LED Back-lit LCD) 10.1 นิ้ว  ความละเอียด 1920 x 1200 คมชัดดีมาก ส่วนสี Color Gamut 70% ก็จัดจ้านตรงดี

ด้านบนจะมีไมค์อยู่สองตัวซ้ายขวาสำหรับทั้งตัดเสียงรบกวนและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ

 

ตรงบานพับที่เชื่อมหน้าจอและคีย์บอร์ดเข้าด้วยกันก็ทำมาดูคล้ายข้อต่อนาฬิกา มีความแข็งแรงดี และซ่อนสายแพเอาไว้ภายใน

สามารถเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามความต้องการเลย จะกางให้กลายเป็นเต้นท์สำหรับดูหนังฟังเพลงก็สะดวกดี แบตอึดดูหนังหรือซีรีย์สได้แบบจบซีซั่น หรือจะพับให้กลายเป็นแท็บเลต น้ำหนักก็ยังถือได้สบายๆ

ในกล่องที่ซื้อมาจะมีแถมสมุดที่มีขนาดพอดีกับ Lenovo Yoga Book มาให้ด้วยเล่มนึง ซึ่งก็มีการดีไซน์มาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แบบดูแล้วก็คิดในใจว่าเออ เค้าคิดมาจบดีแฮะ เพราะเมื่อเราวางทาบสมุดนี้ลงไปตรงคีย์บอร์ด มันจะมีแม่เหล็กดูดตรึงเอาไว้ให้เขียนได้มั่นคงและถนัดมากขึ้น และสมุดก็จะอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับหน้าจอ เวลาเขียนแล้วจะอยู่ในพื้นที่ที่เขียนอะไรก็จะขึ้นหน้าจอได้ทันทีเลย

เปิดมาก็พร้อมเขียน พอดีเป๊ะ

และถ้าใช้สมุดหมดก็ไปซื้อเล่มใหม่มาเปลี่ยนได้เลย

 

ขอสรุปเท่าที่ลองเล่นคร่าวๆมาประมาณนี้ พอดีมาลองไม่นานเท่าไหร่

  • เครื่องมีความลื่น เครื่องลื่นขนาดไหน เล่นเกมได้รึเปล่า

  • ตัวที่ลองเทสต์ GPS แม่นยำดี พอนำทางได้อยู่ แต่มีปัญหาเรื่อง compass หมุนไม่ตรงทิศ

  • เสียบ USB เล่นไฟล์หนังได้เลย เสียงดีใช้ได้

  • หัวปากกาที่มีหมึกเขียนได้ ต้องใช้ของมันเองเท่านั้น 

    ใช้ปากกาอื่นๆเขียนไม่ได้นะ หมึกหมดแล้วต้องซื้อใหม่ของมันเองเท่านั้น

  • การตอบสนองของปากกายังค่อนข้าง lag หน่วงอยู่

  • ไม่เหมาะกับการวาดรูป เพราะมันจะได้เส้นไม่เหมือนกันซะทีเดียว

  • เหมาะกับการจดบันทึก ขีดเขียนแล้วเก็บเป็นไฟล์ digital มากกว่า

  • คีย์บอร์ดถ้าใช้ภาษาอังกฤษ ก็สบายอยู่ พิมพ์ได้รวดเร็วดี

  • คีย์บอร์ดภาษาไทยใช้ยากโคตร ไม่มีสกรีนให้ไม่พอ คนที่พิมพ์สัมผัสได้ก็ลำบากเพราะว่าตำแหน่งเลย์เอาท์ไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดจริงเท่าไหร่ พิมพ์ผิดกระจุย

  • แนะนำให้ใช้ on-screen keyboard ไปเลยดีกว่าสำหรับการพิมพ์ไทย
  • เล่น Multitask ได้เวิร์คอยู่ บริหารจัดการแรมได้ดีเลย

  • มีแอพที่สามาถรเปิด Multitask ได้ไม่เยอะมาก จำกัดพอสมควร

  • แต่แอพที่เปิดหน้าจอ Multitask จะมีข้อดีที่แสดงผลได้ถูกต้อง เพราะเห็นเหมือนบนมือถือเลย

 
ทั้งหมดที่ว่ามานี้เค้าขายกันอยู่ราคาเต็ม 19990 บาทนะครับ แต่ถ้าผูกโปรของ AIS จะราคาเหลือ 14,990 บาท แต่จะติดโปรเน็ต 499 บาท หรือแพค 699 บาท พร้อมจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาทครับ

อยากรู้เรื่องไหนเพิ่มเติมถามเข้ามาละกันครับ เดี๋ยวเอามาเขียนเพิ่มเติมให้และเดโมให้ดูใน Live Review เช่นเดิมครับ 🙂