ในวันนี้ที่งานสัมมนา Project Ara (Project Ara Module Developer Conference) ถือเป็นงานแรกที่เปิดไส้เปิดพุงถึงรายละเอียดยิบย่อยและมาตรฐานกลางในระดับพิมพ์เขียวของ Project Ara เพื่อเปิดให้ผู้ผลิตที่สนใจจะทำโมดูล (module) เข้ามาเชื่อมต่อ (plug) กับ Project Ara ได้เข้าใจในพิมพ์เขียว จนสามารถนำไปต่อยอดสร้างโมดูลและ driver เพื่อเข้ามาเชื่อมต่อกับ Project Ara ได้ ซึ่งรวมไปถึงการเปิด API ให้นักพัฒนาได้เข้าถึงและสามารถพัฒนาแอพพลิเคชันได้

เหตุผลที่ Google ต้องมาทำการเปิดมาตรฐานภายในของ Project Ara อย่างกับสาวไส้ออกมานั้น เป็นเพราะ Google ต้องการที่จะเริ่มทำตลาดนำร่องสำหรับ Project Ara เพื่อที่จะได้รับรู้ความรู้สึกของผู้บริโภคว่าอันไหนที่ดีแล้ว อันไหนที่ยังไม่ดี จะได้ทำการปรับปรุงแก้ไขต่อยอดต่อไปเพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่ง Paul Eremenko หัวหน้าโครงการ Project Ara ได้กล่าวว่า “เราต้องระมัดระวังในการนำเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภคโดยที่ดูไม่เป็นการชี้นำหรือครอบงำผู้บริโภค” เพื่อให้การทำตลาดนำร่องในครั้งนี้ได้ผลยิ่งขึ้น โดยไม่ดูเหมือนเป็นการชี้นำหรือครอบงำโดย Google

โดย Google ได้ทำการเลือก เปอร์โตริโก ซึ่งเป็นเกาะๆ หนึ่งที่อยู่ในเครือรัฐของอเมริกาเป็นตลาดนำร่อง โดย Google บอกว่ามีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้เลือกเปอร์โตริโก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พื้นที่บนเกาะกว่า 75% สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตผ่านทางอุปกรณ์มือถือได้

Play video

ซึ่งเมื่อ Google ได้เริ่มขาย Project Ara จริงๆ ผู้บริโภคจะสามารถเลือกชิ้นส่วนต่างๆ เข้ามาประกอบเข้ากันเป็นมือถือได้ผ่านทาง Ara Marketplace and Ara Configurator apps ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนรถขายอาหาร (Food Truck) ดังรูปด้านบน 

ซึ่งหมายความว่า Project Ara จะไม่มีขายผ่านทางออนไลน์ (ในช่วงแรก) หากต้องการที่จะหาซื้อ จะต้องไปซื้อถึงที่เปอร์โตริโกจริงๆ เลือกและสั่งประกอบตรงนั้นเลย โดยจะมีทีมงานประกอบและติดตั้ง driver ให้ ซึ่งในเริ่มแรก Google กล่าวว่าจะมีโมดูลให้เลือกประกอบประมาณ 20-30 โมดูล และจะสามารถประกอบออกมาเป็นมือถือที่ไม่ซ้ำแบบกันได้ถึง 10 แบบ

โดยโครงการนี้เพิ่งดำเนินการมาถึงวงรอบที่ 2 (Spiral 2) เท่านั้น ซึ่งตอนนี้โมดูลที่ Google ทำออกมานั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร เช่น แบตเตอรี่ที่ยังอยู่ได้ไม่ทั้งวัน ยังไม่รองรับ 4G LTE กล้องที่ยังมีความละเอียดสูงสุดแค่ 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น นอกจากนี้เรื่องรูปลักษณ์และดีไซด์ที่ Google พยายามจะปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยในวงรอบที่ 3 (Spiral 3) นี้ ทาง Google จะพยายามพัฒนาให้ Project Ara นั้นมีความสามารถเหมือนสมาร์ทโฟนตามท้องตลาดทั่วไป เช่น แบตเตอรี่อยู่ได้ทั้งวัน กล้องที่ดีขึ้น โดยการพัฒนาในวงรอบที่ 3 มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ Google ทำตลาดนำร่องในเปอร์โตริโกพอดี

ปิดท้ายกันด้วยวิดีโอ hand-on ของ Project Ara Spiral 2 (ช่วงท้ายๆ ของวีดิโอ)

Play video

ที่มา TheVerge