เมื่อสองปีที่แล้ว หากใครยังจำกันได้ House Brand อย่าง WellcoM สามารถตีตลาดสมาร์ทโฟน Android ในราคาประหยัดด้วย WellcoM A88 ทำให้ช่วงนั้นทาง i-mobile และทาง G-Net พยายามที่จะเกาะกระแสสมาร์ทโฟน Android ราคาประหยัดกับเค้าบ้าง

แต่หลังจากผ่านยุคของ WellcoM A88 แล้ว เราก็แทบที่จะไม่เห็นสมาร์ทโฟน Android ในราคาประหยัดจาก House Brand ที่ประสบความสำเร็จอีก แต่ในวันนี้ดูเหมือนว่าทาง i-mobile จะสามารถกลับมาในตลาด Android ได้อีกครั้งด้วยมือถือตระกูล i-Style และ i-Style Q นั่นจึงเป็นที่มาของการรีวิว i-STYLE Q2 duo ตัวนี้

ในรีวิว i-STYLE Q2 duo ครั้งนี้ ผมจะเขียนรีวิวโดยย่อในด้านล่างของแต่ละวิดีโอ เพื่อให้ผู้ที่ไม่สะดวกจะดูวิดีโอได้อ่านโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะเข้าไปดูในรายละเอียดของวิดีโอในภายหลัง

ฮาร์ดแวร์

Play video

สำหรับใครที่เคยได้ดูการแกะกล่องจากพี่ @octopatr มาแล้วสามารถข้ามไปดูในรายละเอียดส่วนอื่นๆ ได้ครับ หรือสำหรับคนที่ไม่สะดวกที่จะดู Youtube สามารถเข้าไปอ่านในเวอร์ชั่นรูปภาพจากการแกะกล่องครั้งที่แล้ว โดยรายละเอียดทางฮาร์ดแวร์ของ i-STYLE Q2 duo มีดังนี้

  • ใช้ชิปเซ็ตจาก Media Tek MT6577, 1GHz Dual Core
  • Ram 512
  • หน่วยความจำภายใน 4 GB
  • รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 32 GB
  • หน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800×480 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 217 ppi
  • รองรับมัลติทัชได้สูงสุด 5 จุด
  • กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิเซล แบบออโต้โฟกัส
  • กล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA
  • รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD (720p)
  • แบตเตอรี่ Li-Ion 1500 mAh 
  • มีอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ในตัว (TV Tuner) 
  • รองรับ Bluetooth 2.1
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
  • รองรับ 3G แบบ WCDMA/HSDPA Tri Band (850/900/2100 MHz)
  • รองรับความเร็ว 3G สูงสุดที่ 7.2 Mbit/s
  • Android 4.0.4 (Ice Cream Sandwich)

การใช้งาน 2 SIM และการตั้งค่า

Play video

เมื่อเราพูดถึง i-mobile สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงคือ มือถือ 2 SIM ที่สามารถดูทีวีได้ และในวิดีโอนี้่เราจะมาดูในส่วนของการตั้งค่าของ 2 SIM กัน โดย i-STYLE Q2 duo เป็นมือถือ 2 SIM เครื่องแรกที่ผมได้ลองใช้ ต้องขอบอกว่าประทับใจมากเพราะปกติแล้วมือถือ 2 SIM ที่ต่อ 3G ได้ จะต่อ 3G ได้เพียงแค่ SIM เดียวเท่านั้น ถ้าเราต้องการจะให้อีก SIM ต่อ 3G เราก็ต้องปิดเครื่องและสลับ SIM แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดกับ i-STYLE Q2 duo

เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้ชิปเซ็ต 2 SIM ที่ทาง Media Tek ออกแบบมาให้ i-STYLE Q2 duo ทำให้มันสามารถสลับ SIM ที่จะต่อ 3G ในระบบของ Android ได้เลย ทำให้เราไม่ต้องปิดเครื่องเพื่อเปลี่ยน SIM (ไปที่ การตั้งค่า -> อื่นๆ -> เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ -> บริการ 3G)

เพราะด้วยความที่มันเป็น 2 SIM ดังนั้นเวลาที่เราจะโทรออกหรือส่งข้อความ ก็จะต้องมีการตั้งค่าว่าจะใช้ SIM ไหนใช้โทรออกหรือส่งข้อความ ซึ่งใน i-STYLE Q2 duo นี้มีทางลัดให้ตั้งค่าง่ายๆ บนแถบแจ้งเตือน (Notification Bar) ของหน้าการโทรศัพท์ และ ข้อความ

อีกฟีเจอร์นึงที่เด็ดสามารถกำหนดเวลาเปิดหรือปิดเครื่องได้!!!

เกี่ยวกับการใช้งานทั่วๆ ไป

Play video

ในวิดีโอนี้จะเป็นการทดลองในส่วนการใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการท่องอินเตอร์เน็ต การถ่ายภาพ การดูทีวี และการเล่นเกมส์

ตอนทดลองกล้องเจอกับปัญหาที่ไม่คาดฝัน!!! ทำให้ต้อง reboot เครื่องไปหนึ่งครั้ง (ดูตัวอย่างรูปถ่ายได้ตอนท้ายรีวิว)

ทดลองทีวี ความชัดของทีวีขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นสัญญาณทีวีในแต่ละท้องที่ครับ

ทดลองเล่นเกมส์ FPS อย่าง Dead Trigger และเกมส์แอคชั่นอย่าง Amazing Spider-Man บน i-STYLE Q2 duo ในวิดีโอบางช่วงบางตอนอาจจะถ่ายได้ไม่ชัดเพราะกล้องจับโฟกัสไม่ได้ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

การทดสอบประสิทธิภาพ (benchmark)

ในส่วนนี้ผมไม่ได้อัดวิดีโอการทดสอบมาให้ มีเพียงแค่รูปที่ผม capture ผลของ benchmark มาให้ดูกันเท่านั้น โดยทูล (Tool) ทีใช้ทดสอบ ผมใช้ Quadrant Standard, Antutu Benchmark และ Antutu Tester

 

การทดสอบแรกมาจาก Antutu Tester ในรูปแรกเป็นการทดสอบมัลติทัช i-STYLE Q2 duo สามารถรองรับมัลติทัชได้สูงสุด 5 จุดพร้อมกัน โดย 5 จุดพร้อมกันที่ว่านี้ทำงานได้ดีและลื่นไหล 

 

ส่วนรูปที่สองเป็นการทดสอบแบตเตอรี่ การทดสอบแบตเตอรี่ที่ว่านี้ Antutu Tester จะปรับหน้าจอแสดงผลให้สว่างสุด และจะพยายามใส่ process การทำงานให้ CPU วิ่งถึง 100% ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือแบตเตอรี่ 15% จากที่ผมได้ทดลองทพบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 2 ชม. กว่าๆ ลองสังเกตกราฟของแบตเตอรรี่จะพบว่าในช่วง 50% แรก กราฟของแบตเตอรรี่ก็จะลดลงมาในเกณฑ์ปกติ แต่พอหลังจาก 50% ลงไปพบว่าแบตเตอรรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว หรืออาการที่ใครหลายๆ คนเรียกกันว่า แบตเตอรรี่เหวี่ยง

 

ต่อมาเป็นการทดสอบ benchmark รูปแรกเป็นคะแนนจาก Antutu Benchmark โดยคะแนนที่ออกมาค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับ LG Optimus 2X ซึ่งมี spec ที่ใกล้เคียงกับ i-STYLE Q2 duo ส่วนในรูปที่สองเป็นผลคะแนนมาจากการทดสอบ Quadrant Standard

บั๊กที่พบเจอใน i-STYLE Q2 duo

Play video

ข้อผิดพลาดที่พบเจอบ่อยๆ ใน i-STYLE Q2 duo คือการมองไม่เห็น microSD Card โดยในวันนึงจะเจออย่างน้อยหนนึง แก้ได้โดย reboot เครื่องซักรอบก็จะกลับมาเห็น microSD Card

ข้อเสียอีกอย่างนึงที่ถือว่าเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงสำหรับคนที่จะซื้อ i-STYLE Q2 duo มาเล่นเกมส์โดยเฉพาะ เพราะ i-STYLE Q2 duo ไม่สามารถลงแอพฯ ใน microSD Card เราจะสามารถลงแอพฯ ลงในหน่วยความจำของเครื่องได้เท่านั้น โดย i-STYLE Q2 duo ให้เนื้อที่มา 4 GB แต่ใช้ได้ไม่เต็มจำนวน 4 GB สามารถลงเกมส์ที่มีความใหญ่สูงสุดประมาณ 1.5 GB เท่านั้น

การถ่ายภาพและวิดีโอ

 

 

ภาพที่ได้ออกมาจากกล้อง 8 ล้านพิกเซลของ i-STYLE Q2 duo มีคุณภาพที่ถือว่าพอใช้ จะถ่ายได้ดีในสภาวะที่มีแสงมากพอ แต่ถ้าสภาวะแสงปานกลางหรือน้อยๆ รูปที่ถ่ายออกมาค่อนข้างที่จะแย่ สีจะออกมืดๆ (สามารถไปดูภาพถ่ายทั้งหมดได้ที่นี่)

ตอนที่ได้เครื่องมาครั้งแรก ผมเจอข้อผิดพลาดในกล้องถ่ายรูป ผมพบว่ารูปที่ถ่ายออกมาภาพจะมีสีอมเขียวหมด ต้องกด factory reset ครั้งนึงถึงจะกลับมาเป็นปกติ

Play video

ส่วนวิดีโอสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 720p แต่ก้จะเจอปัญหาเดียวกันกับการถ่ายภาพ ถ้าถ่ายในสภาวะแสงน้อยถ่ายออกมาไม่ค่อยดี 

สิ่งที่ประทับใจ

  • ลื่น ไม่หน่วงอย่างที่คิด ต้องยกความดีความชอบให้กับชิปเซ็ต Media Tek MT6577 โดยชิปเซ็ตตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ OPPO Find Gemini plus 
  • ประทับใจกับระบบ 2 SIM ใน i-STYLE Q2 duo
  • รองรับระบบ 3G ทุกคลื่นในไทย
  • ชอบ UI ที่คล้ายๆ กับ Pure Google

สิ่งที่ไม่ประทับใจ

  • ลงแอพฯ ใน microSD Card ไม่ได้
  • มีปัญหาในการมองเห็น microSD Card (เห็นบางคนบอกว่าเป็นเพราะ microSD Card ที่ i-mobile แถมมาให้คุณภาพแย่ แต่ลองเปลี่ยนแล้วก็ยังเป็นอยู่ ซึ่งบางทีเปิดปิดก็หาย แต่บางทีก้ไม่หาย ต้อง format card ใหม่ถึงจะใช้ได้)
  • เนื้อที่ภายในโทรศัพท์ให้มาน้อยเกินไป (เพราะติดตั้งแอพฯ ลง microSD Crad ไม่ได้)
  • มีบั้กพอสมควรเช่นถ่ายรูปได้แต่ไม่มีภาพในเครื่อง (กดไปเป็น 10 ภาพ พอกลับบ้่านเปิดดุไม่มีซักรูป) แถมกล้องยังคงใช้ได้อยู่ กดไปอีกเท่าไหร่ก้ไม่มีการเซฟภาพ ต้องเปิดปิดเครื่องถึงจะหาย
  • ทาง i-mobile ยืนยันว่าทุกรุ่นจะไม่มีการอัพเดท firmware ยกเว้นแก้บั้กเท่านั้น
  • มีอาการแบตเตอรรี่เหวี่ยงถ้าหากแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 50%
สรุป
คุณภาพเมื่อเทียบกับราคา (5990 บาท) ก็ถือว่าคุ้มราคา ถ้าหากใครรับได้กับข้อเสียบางอย่าง เหมาะกับผู้ใช้ Android ที่ต้องการซื้อมาใช้งานกับระบบ 2 SIM ท่องอินเตอร์เน็ต เล่น Social Network และลงเกมส์เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่จะซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์โดยเฉพาะ เพราะไม่มีพื้นที่ให้มากพอสำหรับการลงเกมส์ใหญ่ๆ และหนักๆ ทั้งๆ ที่ฮาร์ดแวร์สามารถรองรับการเล่นเกมส์เหล่านั้นได้พอตัว