ก่อนหน้านี้ Lenovo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Moto G4 Plus ไปไม่ทันไร ปรากฎว่าตอนนี้พร้อมมาวางจำหน่ายในประเทศไทยกันแทบจะทันที ทีมงาน droidsans เองก็ได้เครื่องมาลองเล่นพักนึงแล้ว วันนี้เลยจัดรีวิว Moto G4 Plus สมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องมากๆ รุ่นนึง เพราะมีทั้งสแกนลายนิ้วมือ, dual sim ที่ใช้ 3G พร้อมกัน 2 ซิม, RAM 3GB, ROM 32GB, กล้องหลัง 16MP, กล้องหน้า 5MP ในราคาไม่แรง 8,990 บาท

Play video

การกลับมาของ Motorola ในประเทศไทยภายใต้ร่มเงาของ Lenovo น่าจะทำให้แฟนๆ Moto หลายๆ คนกลับมาสนใจแบรนด์นี้กันอีกรอบนึง แต่ในล็อตแรกที่้เริ่มเอาเข้ามาจำหน่ายนั้นบอกตามตรงราคาสูงไปนิด ยังดีที่มีโปรพ่วงแถม Moto 360 เลยพอกล้อมแกล้มได้หน่อย แต่มาถึง Moto G4 Plus ตัวนี้กลับทำราคาออกมาได้น่าสนใจกว่ามาก

แต่บอกไว้ก่อนนิดนึงว่าเครื่องทีได้มารีวิวนั้นคนละลอตกับชุดขายจริงนะครับ โดยในรีวิวนี้จะเป็นรุ่นความจุ 16GB / RAM 2GB แต่ตัวขายจริงสเปคขยับขึ้นไปเป็น 32GB / RAM 3GB และจากที่ลองรุ่น RAM 2GB มันก็ทำงานเร็วและลื่นอยู่แล้ว การได้ RAM 3GB เลยเหมือนเป็นการตีบวกให้ G4 Plus คุ้มค่ามากขึ้นด้วย (และถ้าเอาสเปค 16GB / 2GB มาขาย 8-9 พันนี่คงขายไม่ออกแน่ๆ)

อุปกรณ์ภายในกล่อง Moto G4 Plus

แอบคิดเหมือนกันว่าจะแกะโชว์ของในกล่องดีไหม เพราะเนื่องจากมันไม่ใช่ล็อตขายไทย เลยไม่รู้ว่าของจะต่างกันหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่สามารถยืนยันว่ามีครบในชุดขายจริงของ Moto G4 Plus นะครับ

  • ตัวเครื่อง Moto G4 Plus
  • คู่มือต่าง
  • หม้อแปลง Turbo Power ชาร์จเร็ว
  • สาย micro USB
  • หูฟังสมอลทอล์ค 3.5

ถ้าในกล่องขายไทยแถม Turbo Power มาด้วยนี่ก็จะถือว่ายิ่งคุ้มเลยครับ เทคโนโลยี Turbo Power นี่เป็นระบบชาร์จแบตเร็วของ Moto โดยมีการจ่ายไฟ 3 ระดับด้วยกันคือ 5V 1.6A / 9V 1.6A และ 12V 1.2A

 

สเปคและดีไซน์

Moto G4 Plus นั้นตามซีรี่ส์แล้วถือเป็นรุ่นกลาง คือเน้นที่ความคุ้มค่าในราคาไม่แพง (รุ่นประหยัดจะเป็น Moto E และรุ่นที่สเปคเรือธงจะเป็น Moto X และ Moto Z) มาพร้อมกับสเปค

  • ระบบปฏิบัติการ Android Marshmallow 6.0.1
  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) ใช้กระจก Corning Gorilla Glass
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 617 1.5GHz octa-core
  • หน่วยประมวลผลกราฟิค Adreno 405
  • ความจำภายใน 32GB (เพิ่มด้วย microSD ได้อีก 128GB)
  • RAM 3GB
  • กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, f/2.0, Laser Focus , PDAF, Dual LED สองสี, โหมดโปร, ถ่ายวิดีโอได้ที่ึความละเอียด Full HD
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/2.2, เลนส์ไวด์มุมกว้าง, Display Flash แฟลชจากหน้าจอ 
  • เซนเซอร์ต่างๆ สแกนลายนิ้วมือ, Gyroscope, Accelerometer, Proximity, Ambient Light
  • การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 LE 802.11 a/b/g/n (2.4 GHz + 5 GHz)
  • เครือข่ายโทรศัพท์
         2G / EDGE   : 850, 900, 1800, 1900 MHz
         3G / H / H+ : 850, 900, 1700, 1900, 2100 MHz
         4G / LTE      : B1, 3, 5, 8, 40
  • มีวิทยุ FM Radio
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (เกาะคลื่น 3G ได้พร้อมกับทั้ง 2 ซิม)
  • แบตเตอรี่ 3000 mAh รองรับการชาร๋จเร็ว TurboPower
  • ตัวเครื่องเคลือบสารกันน้ำ ป้องกันละอองน้ำหรือน้ำหกหรือรดตัวเครื่องได้ระดับนึง
  • ขนาดตัวเครื่อง 153 x 76.6 x 7.9 – 9.8 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 155 กรัม
  • ราคาเปิดตัวในไทย 8,990 บาท

มาถึงดีไซน์ตัวเครื่องกันบ้าง ด้านหน้าตรงๆ ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Moto อยู่เหมือนเดิม ทั้งลักษณะโดยรอบ ความโค้งมนทั้ง 4 มุม แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่ Moto หลายคนบ่นกันแน่ๆ (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น) คือทำไมเอาแผ่นสี่เหลี่ยมมาแปะอะไว้ด้านหน้าเครื่องแบบนั้น มันดูแปลกๆ เหมือนมีอะไรเกินมา

ซูมเข้ามาดูใกล้ๆ . . มันแปลกแหวกแนวกว่าชาวบ้านเค้าจริงๆ แถมมันใช้สแกนนิ้วได้อย่างเดียวด้วย คือไม่ได้มีความสามารถเป็นปุ่มโฮมหรือปุ่มใดๆ ได้อีก เอาไว้แปะนิ้วเพื่อปลดล็อคเท่านั้น ส่วนปุ่ม back, home, overview ก็ต้องไปใช้ on screen button บนหน้าจอ

ลำโพงของ Moto G4 Plus นั้นอยู่ด้านหน้าใช้ช่องเดียวกับลำโพงสนทนาเลยครับ ส่วนทางขวาเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.0 มีระบบ Display Flash ใช้แสงจากหน้าจอยิงช่วยได้เวลาเซลฟี่

พลิกมาดูด้านหลังฝาหลังสีดำสามารถแกะออกมาใส่ซิมและเปลี่ยนสีได้ เห็นว่า Lenovo จะเอาฝาสีๆ มาขายเหมือนกัน เผื่อใครอยากจะเปลี่ยน ตัววัสดุเป็นพลาสติกโค้งงอได้ ผิวสัมผัสจะคล้ายยางเลยหนืดๆ นิดนึง ไม่ลื่นมือ

กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 มีทั้ง PDAF และ Laser Focus และส่วนโลโก้ของ Moto ที่บุ๋มลงไปที่หลายๆ คนสงสัยว่ามีการเตรียมช่องนี้ไว้สำหรับเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือนานแล้ว ทำไมถึงไม่ใช้ > < (บ่นไปงั้นแหละ ตอนนี้มันทำอะไรไม่ได้แล้ว)

แม้ฝาหลัง Moto G4 Plus จะไม้ได้ใช้เป็นโลหะตามสมัยนิยม แต่กรอบรอบตัวเครื่องนั้นจะเป็นพลาสติกเคลือบทำให้ดูเป็นโลหะขัดสวยงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Moto มาแต่ไหนแต่ไร ด้านขวาของตัวเครื่องนั้นปุ่ม power จะอยู่สูงขึ้นไปสักหน่อย ส่วนปุ่มปรับเสียงจะอยู่ต่ำกว่า เรียกว่าอยู่ราวๆ กลางเครื่องพอดี

ด้านบนเป็นช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร อยู่ตรงกลางเครื่องพอดีเป๊ะ

ด้านล่างตรงกลางเป็นช่อง micro USB ถัดไปนิดๆ ทางขวาจะมีช่องเล็กๆ เอาไว้ให้เราสอดนิ้วเข้าไปแกะฝาหลังได้ง่ายๆ

ว่าแล้วแกะฝาหลังออกมาซะเลย ตัวแบตเตอรี่ 3000 มิลลิแอมป์นั้นไม่สามารถถอดออกได้นะครับ ไม่ต้องไปแงะมันเน่อ

จุดใส่ซิมการ์ดและ micro SD นั้นอยู่ใต้ฝาหลังช่วงเดียวกับปุ่มปรับเสียง ถ้าไล่จากตรงกลางเครื่องลงมา (ซ้ายไปขวา) คือช่อง micro SD / ช่องซิม 1 / ช่องซิม 2 โดยในช่องซิมทั้ง 2 นั้นรองรับ micro SIM แต่ Moto G4 Plus มีตัวแปลง nano SIM ให้สามารถใช้งานได้แถมมาให้ด้วย

  

สำหรับหน่วยความจำภายในตัวเครื่องนั้น เครื่องรีวิวที่ได้มาทดสอบเป็นรุ่นความจุ 16GB คงเหลือราวๆ 10.8GB ถ้าคำนวนคร่าวๆ เครื่องขายจริงความจุ 32GB นั้นก็น่าจะเหลือราวๆ 24-25GB (ถ้าใครซื้อแล้วก็มาบอกด้วยนะ)

 

UI และการใช้งานทั่วไป

  

หน้าตา User Interface ของตระกูล Moto นั้นแทบจะเป็น Pure Android ตั้งแต่สมัยที่ Google ซื้อไปและจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงยึดรูปแบบนี้เอาไว้อยู่เหมือนเดิม เน้นความโล่งๆ ลื่นๆ เป็นหลัก มี App drawer ให้ใช้งาน และแถบ notification bar 2 ที่ดึงลงมาได้ 2 สเตป เมื่อลากลงมาครั้งแรกจะเป็นการดูรายการแจ้งเตือน และถ้าดึงลงมาอีกครั้งก็จะเป็นหน้า toggle switch ต่างๆ

  

ส่วนหน้าตาแอพและไอคอนนั้นมันคือ stock android ทั้งหมด แต่ทาง Moto จะเสริมพวกฟีเจอร์อื่นๆ แทรกเข้ามาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น Moto Active Display, Moto Camera, และ Gesture

จุดเด่นที่เป็นฟีเจอร์หลักของ Moto มาโดยตลอดคือ Active Display ที่หน้าจอจะติดขึ้นมาทุกครั้งที่เราเอื้อมมือหยิบเครื่องขึ้นมา นั่นก็เพราะว่ามีการใส่เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเอาไว้เยอะกว่าชาวบ้าน

พอหยิบเครื่อง Moto G4 Plus ขึ้นมาหน้าจอก็ติดทันที ไม่ต้องไปกดปุ่ม power ด้านข้างเพื่อเปิดจอ แค่สแกนนิ้วหรือปัดหน้าจอขึ้นก็พร้อมใช้งานแล้ว

  

ในส่วนของหน้าจอนั้นเราสามารถเลือกปรับโทนสีได้ 2 แบบ คือแบบ Normal สีจะเป็นธรรมชาติ ส่วนโหมด Vibrant ก็จะมีการเร่งสีหน้าจอให้สดกว่าปกติ

 

ฟีเจอร์และความพิเศษของ Moto G4 Plus

นอกจาก Active Display แล้ว Moto G4 Plus ยังมาพร้อมฟีเจอร์เสริมที่สามารถใช้งานผ่าน Gesture หรือการสั่งด้วยท่าทางและเสียง โดยทั้งหมดนี้เราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ใน Moto (แต่ก่อนใช้ชื่อว่า Moto Assist) โดยจะแยกเป็น Action และ Display

 

Action เป็นการเปิด gesture ต่างๆ เช่นการพลิกเครื่องคว่ำลงเพื่อเปิดเสียง, ยกเครื่องขึ้นมาเสียง rintgtone ก็จะเบาลง, สับเครื่องลงในอากาศเพื่อเปิดไฟฉาย LED, หรือบิดเครื่องไปมาเพื่อเปิดกล้อง

Display สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ว่าการแจ้งเตือนจากแอพไหนที่เราไม่ต้องการให้ขึ้นหน้าจอ หรือถ้าโชว์นั้นจะมีข้อมูลขึ้นมาหรือซ่อนเอาไว้

 

ระบบการใช้งาน 2 ซิมของ Moto G4 Plus

  

Moto G4 Plus นั้นรองรับการใช้งาน 4G/3G พร้อมกันทั้ง 2 ซิมครับ วิธีการทดสอบที่ผมใช้ประจำก็ใช้ซิมพวกที่เกาะได้แต่ 3G อย่างพวก My, Penguin หรือ Open นี่แหละ ง่ายดี (เพราะมันไม่มีคลื่นอื่นให้หนีไปเกาะแล้ว) และจากหน้าจอก็จะเห็นว่ามันเกาะ 3G ได้พร้อมกันทั้งซิม 1 และ ซิม 2

  

ส่วนการเลือกใช้ข้อมูลและการโทรว่าจะให้ซิมไหนเป็นหลัก ก็ต้องเข้าไปตั้งค่าในส่วนของการจัดการซิม เช่นการโทรออกเราจะเลือกใช้ซิมไหนเป็นหลักไปเลยก็ได้ หรือจะเลือกทุกครั้งที่โทรออกก็ได้

 

วิทยุ FM Radio

อันนี้น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่ยังชอบฟังวิทยุกันอยู่ และจะยิ่งถูกใจขึ่นไปอีกเพราะ Moto G4 Plus นั้นสามารถเปิดวิทยุได้เลยโดยไม่ต้องใช้สายหูฟัง (แต่สัญญาณบางคลื่นอาจจะชัดไม่ชัดก็ขึ้นอยู่ตามความแรงของพื้นที่นั้นๆ)

  

เมื่อเปิดแอพมาครั้งแรกก็ต้องมีการสแกนหาคลื่นและสถานีกันก่อน พอสแกนได้ครบแล้วก็เลือกฟังได้ สามารถตั้งค่าาสถานีที่ชอบเป็น favorite เอาไว้ได้ด้วย

 

ฟังๆ ไปเจอรายการที่ชอบก็กดบันทึกเซฟไปได้ยาวๆ เผื่อเอามาฟังซ้ำ หรือจะตั้งเวลาปิดอัตโนมัติในกรณีฟังก่อนนอน

 

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

  

Moto G4 Plus ใช้ชิป Snapdragon 617 MSM8952 1.5GHz octa-core ส่วนกราฟิคนั้นเป็น Adreno 405 เพื่อที่จะทดสอบว่าเล่นเกมหนักๆ ไหวมั้ย ลืนพอหรือเปล่าก็เลยจัดเกมโหดๆ อย่าง Unkilled และ Evil Bane มาลองดู จากที่ทดสอบก็พบว่าไม่มีปัญหาทั้งสองเกมครับ 

Unkilled นั้นเป็นเกม FPS ที่ใช้ multi touch ควบคุมทั้ง 2 ฝั่ง ระบบทัชไม่มีปัญหา ใช้งานได้สบายๆ ตัวเกมก็ลื่นไหลดี กราฟิคเนียน

ส่วน Evil Bane ก็ไม่มีปัญหา มีกระตุกบ้างนานๆ ที ส่วนใหญ่จะเวลาที่ศัตรูออกมาเยอะๆ แต่ก็เป็นบางครั้งเท่านั้น

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Moto G4 Plus นั้นได้คะแนนจาก Antutu ไป 45420 คะแนน

  

 

ระบบสแกนลายนิ้วมือ 

มาถึงเจ้าเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่อยู่แบบผิดที่ผิดทางกันต่อ (แต่ต่อไปคงชินตา เพราะ Moto ใส่มาทุกรุ่นแบบนี้หมดเลย) หน้าที่ของมันมีอย่างเดียวคือสแกนลายนิ้วมือ และมันก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่ผิดหวัง ปลดล็อคเร็วมาก แตะปุ๊บมาปั๊บ

ตอนเซ็ตอัพนิ้วนั้นอาจจะต้องแตะหลายรอยหน่อยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ แนะนำให้หมุนตำแหน่งการวางนิ้วรวมถึงตำแหน่งต่างๆ กันของลายนิ้วมือลงไปด้วย เพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้น เสร็จแล้วก็พร้อมใช้งานทันที

  

โหมดกล้องและภาพถ่าย

UI กล้องของ Moto G4 Plus นั้นเน้นความเรียบง่าย และมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพหลักๆ ไม่มากนัก การตั้งค่าปกติที่ใช้กันบ่อยๆ อย่าง HDR หรือ Flash สามารถปรับได้ที่หน้าหลัก

ส่วนโหมดอื่นๆ ที่สามารถสลับใช้งานได้ก็มี โหมดการถ่ายวิดีโอ, ภาพพาโนรามา, วิดีโอแบบสโลโมชั่น และโหมดโปร 

ในส่วนของโหมดโปรนั้นสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ต้งแต่ Exposure, ISO, ชัตเตอร์สปีด, White Balance และระยะโฟกัส

ซึ่งค่าต่างๆ ที่สามารถปรับได้มีพารามิเตอร์เท่าไหร่ก็ตามในภาพเลยครับ เช่น ISO Auto – 100 – 3200 ส่วน White Balance นั้นก็จะเป็นการเลือกค่าแสงที่เซ็ตมาแล้ว ด้าน shutter speed นั้นตั้งได้นานสุด 1/5 วินาที (อยากตั้งนานกว่านั้นอาจจะต้องใช้แอพเสริม)

   

ส่วนการตั้งค่าทั่วไปของกล้องนั้นเราต้องลากนิ้วจากด้านซ้ายของหน้าจอเข้ามา ก็จะสามารเลือกขนาดของภาพที่จะบันทึกได้ รวมถึงการตั้งค่าอื่นๆ เช่น เสียงชัตเตอร์ การจดจำสถานที่ถ่ายภาพจาก GPS

    

นอกจากเราจะบิดข้อมือเพื่อเปิดใช้งานกล่องได้แล้ว เรายังสามารถไปตั้งค่าให้กดปุ่ม power 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้องก็ได้ ส่วนโหมดของกล้องหน้านั้น จะไม่มีการถ่ายภาพแบบพาโนรามาให้ใช้งาน แต่ยังมีโหมดโปรอยู่ ส่วนที่เห็นว่าสามารถเปิดแฟลชได้นั้นคือ Display Flash ใช้แสงจากหน้าจอช่วยนั่นเอง

เมื่อเราทำการตั้งค่าแฟลช Auto เอาไว้ เวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อยหน้าจอของ Moto G4 Plus ก็จะเริ่มสว่างขึ้นมา

จากนั้นมันก็จะเร่งความสว่างจนสุดอยู่ครู่นึงจนถ่ายภาพเสร็จครับ จากที่ลองก็พอช่วยได้ แต่ระยะที่ถือเซลฟี่ก็ต้องประมาณ 20-30 เซน เพื่อให้แสงมันตกพอดี ไม่สว่างหรือจ้าจนหน้าขาววอกเกินไป 

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Moto G4 Plus (คลิกเพื่อชม ภาพ Full size)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Moto G4 Plus (คลิกเพื่อชม ภาพ Full size)

 

แบตเตอรี่และอายุการใช้งาน 

ทดลองชาร์จแบต Moto G4 Plus จาก 0% คือใช้จนเครื่องดับไปเลยนี่ หลังจากเสียบไปได้ 30 นาทีจะได้แบตมาราวๆ 40% พอครบ 1 ชั่วโมงก็จะได้แบตมา 80% ครับ แต่อีก 20% ที่เหลือจะเป็นการชาร์จแบบช้าลง รวมแล้วจาก 0-100% ก็อาจจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ส่วนอายุการใช้งานทั่วไป แบต 3000 mAh ก็ช่วยให้ผมผ่านวันไปได้ไม่ลำบากครับ วันที่หนักๆ หน่อยหัวค่ำก็อาจจะเจอแบตเหลือสัก 20% หรือต่ำกว่า แล้วแต่ความดุของการใช้งานไปในแต่ละวัน

แถมท้ายนิดนึงเวลาเสียบสาย USB กับคอมพ์นั้นมันจะไม่เปิดระบบโอนถ่ายข้อมูล แต่จะเริ่มเป็นให้ชาร์จแบตอย่างเดียว อันนี้เพพื่อเป็นการป้องกันการโดนขโมยข้อมูลครับ ถ้าเราจะโอนถ่ายข้อมูลก็ต้องเปิดหน้าจอเข้ามาเลือกก่อน

 

สรุปผลการใช้งาน 

ตอนนี้ Moto G4 Plus เป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในตระกูล Moto 4 รุ่น ที่กลับเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราตอนนี้ ตัวเครื่องนั้นมีความลื่นไหลในการใช้งานดีมาก ยังไม่เจอบั้กหรืออาการรีสตาร์ทเลย ฟีเจอร์ว้าวๆ ในเครื่องอาจจะไม่ได้เยอะแยะมากมาย แต่เป็นฟีเจอร์ที่แตกต่าง ค่ายอื่นนั้นไม่มี โดยเฉพาะส่วนที่เป็น Moto Display หรือ Gesture ของตัวเครื่องนั้นทำงานได้แม่นยำ กล้องก็ถ่ายภาพได้ดีขึ้นมาก ลบภาพ Moto เดิมๆ ไปได้เยอะเลย แต่ตลาดช่วงราคานี้ถือว่าแข่งขันกันค่อนข้างสูง แถมมีรุ่นที่ใกล้เคียงสูสีกันอย่าง Lenovo VIBE K5 Note , Meizu M3 Note เป็นตัวเลือกในตลาด แต่กล้าบอกได้ว่า Moto G4 Plus มีความแตกต่างและสเน่ห์ของมันรอแฟนๆ Moto และสาวก Android ให้มาลองพิสูจน์อยู่เหมือนกัน 

Moto G4 Plus เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท รอบนี้หาซื้อง่ายข้นมาก เพราะมีขายทั้ง True Shop, Jay Mart, TG Fone และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย ส่วนใครที่มีเบอร์ของทรูอยู่แล้วหรืออยากได้ส่วนลด ก็ลองดูโปรโมชั่นได้ ลดไป 3,000 เหลือ 5,990 บาท

สรุปโปรโมชั่นและเงื่อนไขต่างๆ ของทรู :

 

ลูกค้าปัจจุบัน

เบอร์ใหม่ / ย้ายค่าย

 

รายเดือน

เติมเงิน

รายเดือน

เติมเงิน

ส่วนลดค่าเครื่อง

3,000 บาท

–

3,000 บาท

–

เน็ตเพิ่ม

สมัคร 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป พร้อมชำระล่วงหน้า 1,500 บาท รับเน็ตเพิ่มเดือนละ 2GB นาน 20 เดือน

–

สมัคร 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป พร้อมชำระล่วงหน้า 1,500 บาท รับเน็ตเพิ่มเดือนละ 2GB นาน 20 เดือน

รับเน็ตเพิ่มเดือนละ 2GB นาน 20 เดือน (ใช้งานได้ 7 วัน) เมื่อเติมเงินสะสมครบ 200 บาทต่อเดือน

ระยะสัญญา

12 เดือน

–

12 เดือน

–

ฝากรูปและไฟล์บน True Cloud

ฟรี 12 เดือน