ตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเราช่วงปีนี้เติบโตขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะในช่วงมือถือราคา 3,000-5,000 และต่ำกว่า 10,000 บาท ที่หลายๆ แบรนด์พยายามจะขยายตลาดเพราะผู้ใช้งานหลายคนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนจากมือถือรุ่นเก่า มาเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 3G ระบบใหม่นั่นเอง

และตอนนี้ Wiko (อ่านว่า วีโก) ค่ายน้องใหม่ที่เริ่มทำตลาดในบ้านเรา แต่ไม่ใช่ค่ายโนเนม เพราะเป็นค่ายมือถือจากฝรั่งเศสที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มียอดขาย 1.7 ล้านเครื่องในฝรั่งเศสเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นแบรนด์มือถือที่ขายดีเป็นอันดับ 2 รองจาก Samsung ก็ได้พาเหรดขนเอา Wiko Smartphone หลายรุ่นมาทำตลาดในเมืองไทย โดยรุ่นเล็กสุดที่เราได้มารีวิวคือ Wiko Sunset ราคา 2,490 บาท

Wiko Sunset เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่สุดที่ Wiko นำเข้ามาทำตลาด ด้วยสเปค

  • ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 Kitkat
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Dual Standby)
  • รองรับเครือข่าย 3G 850/2100 MHz HSPA+ 
  • หน้าจอ LCD 4″  480×800
  • หน่วยประมวลผล DUAL CORE 1.3 GHz 
  • หน่วยความจำภายใน ROM 4GB
  • RAM 512MB
  • รองรับ microSD สูงสุด 32GB
  • กล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้าความละเอียด VGA
  • Bluetooth 4.0
  • WiFi 802.11 b/g/n
  • แบตเตอรี่ 1,300 mAh
สีที่มีวางจำหน่ายนั้นนำเข้ามา 4 สี คือ ขาว ดำ เหลืองนีออน และฟ้าอมเขียว (Bleen)

วัสดุของ Wiko Sunset นั้นเป็นพลาสติกทั้งเครื่องครับ ก็ตามราคานะ แต่เนื้อพลาสติกนั้นหนามากจับแล้วให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน เรียกว่ายอมหัก ไม่ยอมงอ โดยเฉพาะฝาหลังที่เป็นสีๆ นี่แข็งแกร่งสุดๆ ตัวเครื่องอาจะดูหนาใหญ่ แต่น้ำหนักตอนถือนี่นับว่าเบาเลย ตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่นี่ 113 กรัม (หรือผมชินมือถือหนักๆ จอใหญ่ๆ มากไปไม่รู้)

ปุ่มกดและทุกสิ่งอย่างของ Wiko Sunset นั้นมาอยู่ด้านบนของตัวเครื่องที่หมด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง ช่องเสียบ microUSB รวมทั้งช่องหูฟัง 3.5 มม.

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าฝาหลังของมันทั้งแข็งทั้งหนาสุดๆ เวลาจะแกะก็ต้องแกะจากจุดที่เค้าเตรียมไว้ให้เท่านั้น ไม่งั้นอาจะมีเล็บหลุดได้ โดยมุมที่มีจุดแงะฝาหลังนั้นจะอยู่บริเวณช่องหูฟัง 3.5

เมื่อแกะออกมาได้แล้วก็จะถึงบางอ้อ ว่าทำไมมันแกะได้มุมเดียว เพราะด้านล่างของ Wiko Sunset นั้นมีส่วนที่สอดเข้าไปในฝาหลัง เพราะฉะนั้นการแกะจากด้านล่างนี่ไม่มีทางแน่นอน

แกะฝาหลังออกมาเรียบร้อยภายในจะพบช่องให้ใส่ SIM card ขนาดปกติ 2 ช่องด้วยกัน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะบอกว่าตอนนี้ไม่มีใครใช้ซิมใหญ่แล้ว Wiko เค้ามีชุด SIM Adaptor แถมมาให้ในกล่องเลยครับ คุณจะใช้ micro SIM หรือ nano SIM ก็ไม่มีปัญหา มีตัวแปลงให้ทั้งหมด

ระบบ 2 ซิมของ WiKo Sunset เป็น dual-standby เปิดรอรับสายได้ทั้งคู่ แต่รับสายได้ทีละเบอร์ ส่วนช่องเล็กๆ ข้างๆ นั่นก็ช่องใส่ micro SD รองรับสูงสุด 32GB

กล้องหลังมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซลในระบบ Fixed focus แถมไฟ LED แฟลชมาให้ 1 ดวง

กล้องหน้าความละเอียด VGA อันนี้ถือว่าแถมมาให้ถ่ายเซลฟี่เล่นได้ขำๆ เพราะหลายรุ่นที่ราคา 2 พันกว่าๆ นี่ตัดกล้องหน้าทิ้งไปก็มี ส่วนหน้าจอ LCD ขนาด นิ้วนั้นสีสันถือว่าใช้ได้ แต่มุมมองค่อนข้างจะแคบ คือหน้าตรงนี่โอเค แต่ถ้าเอียงเครื่องไปหน่อยๆ นี่แอบเห็นว่าจอมันจะเหลือบๆ ขาวๆ ละ

หน้าจอปลดล็อคของ Wiko มีให้ทางลัดให้เลือกปลดล็อคได้ 3 แบบ คือปลดล็อคแบบปกติด้วยการเลือนไปทางขวา เลื่อนไปทางซ้ายจะลัดเข้ากล้องถ่ายภาพ ส่วนเลื่อนขึ้นข้างบนก็เข้าสู่โหมดโทรศัพท์ 

UI หน้าตา เมนู ต่างๆ นี่แทบจะเป็น Android เพียวๆ มาเลย ทำให้การใช้งานต้องเรียกว่าลื่นเลยถูไปทางไหนปัดไปมาตอบสนองได้ค่อนข้างดี จะมีก้แต่หน้า Home หรือหน้าจอหลักที่เวลาเปลี่ยนหน้ามันจะดูหนืดๆ นิดๆ แต่ระบบทัชลองถูเร็วๆ ก็ถือว่าติดนิ้วและตอบสนองได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดแอพทั่วไปก็ทำได้เร็ว แต่ถ้าเปิดเกมหนักๆ โหดๆ นี่ก็ต้องรอนานหน่อย เพราะ CPU มันประมวลผลไม่แรงเท่ากับรุ่นแพงๆ

หน่วยความจำในตัวเครื่อง 4GB โดนแบ่งสรรค์ปันส่วน เหลือให้เราใช้งานประมาณ 2.33GB แต่ก็มีพื้นที่ว่างจริงๆ ให้ลงแอพประมาณ 1.61 GB แอปบางส่วนที่มีขนาดใหญ่ๆ ก็จะโยกไปลงใน microSD ได้ แต่ไม่ทุกแอปนะครับ

ระบบ Multitouch รองรับสูงสุด 2 นิ้ว แต่ก็จะมีอาการเอ๋อๆ บ้างเวลาเอานิ้วมาใกล้กัน และหากเป็นการวางนิ้วในระนาบเดียวกันบนจอแนวตั้งจะเพี้ยนทันทีคือเหมือนมีแค่ 1 จุด อาการทัชเพื้ยนแบบนี้เจอกันหมดในรุ่นราคาถูกๆ ต่ำกว่า 3,000 บาท ตั้งแต่สมัย Lenovo มาจนถึง Lava และก็มาถึง Wiko Sunset

กล้อง 2 ล้านพิกเซล Fixed Focus สามารถถ่ายเร็วๆ รัวๆ ได้ เพราะมันไม่ต้องมาคอยโฟกัส แต่แน่นอนว่าพอมันโฟกัสไม่ได้ภาพมาโครหรือระยะใกล้ๆ ก็จะถ่ายไม่ชัด นะยะที่ถ่ายได้แล้วยังชัดก็ประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไปครับ ถ้าเข้ามาใกล้กว้่านั้นก็จะเริ่มเบลอๆ ละ 

ระยะประมาณนี้ภาพจะเริ่มเบลอให้เห็นครับ ต้องถือกล้องออกมาห่างมากกว่านี้หน่อย (เดี๋ยวลองดูในตัวอย่างภาพถ่าย) เวลาจะถ่ายพวกอาหารก็เหมาะที่จะถ่ายพวกภาพไกลๆ แบบเห็นทั้งจาน ไม่ใช่ close up 

ส่วนภาพถ่ายนั้นถ้ามีแสงสว่างพอภาพก็จะออกมาคมพอดูได้สำหรับความละเอียด 2 ล้าน แต่ถ้าแสงเริ่มน้อยขอบๆ จะเริ่มเบลอๆ ให้เห็นบ้าง

โหมดกล้องนอกจากโหมดทั่วไปและ HDR แล้ว ยังมีโหมดถ่ายเล่นแบบ Photobooth 4 ช๊อตให้เล่นขำๆ ได้ด้วย

 

= ตัวอย่างภาพถ่าย Wiko Sunset ปรับย่อขนาด = 


= ภายถ่ายจาก Wiko Sunset ขนาดเต็ม 2MP =

เท่าที่ลองทดสอบ Wiko Sunset มาประมาณ 3-4 วันก็พบว่าแบตเตอรี่ 1,300 มิลลิแอมป์ที่ดูเหมือนจะน้อยไปหน่อย หรือเปล่า แต่พอใช้งานจริงๆ กลับอยู่ได้ทะลุวันในการใช้งานปกติทั่วไปครับ เทียบกับ Zenfone 4 ที่ต้องลุ้นกันทุกบ่ายทุกเย็นแล้ว Wiko Sunset จัดการพลังงานได้ดีกว่า อีกอย่างนึงก็คือเป็น Android 2 ซิมไม่กี่ยี่ห้อที่รองรับ 3G คลื่น 850/2100 เพราะเท่าที่สังเกตุหลายๆ รุ่นจะมาเป็น 900/2100 ซึ่งคลื่น 3G 900 ในบ้านเราไม่มีแล้ว

มีแอบแปลกใจนิดหน่อย นั่นก็คือตัว Wiko Sunset ที่ราคา 2,490 บาท กลับมีตัวอัพเดท OTA ออกมาด้วย ถึงแม้จะเป็นแค่การอัพเดทแก้บั๊กหรืออะไรนิดหน่อยแต่พอมีแจ้งเตือนก็ถือว่ารู้สึกดี คือเหมือนซื้อแล้วไม่ได้โดนทิ้งไปเลย อย่างน้อยก็พอมีอัพเดทอะไรกับเค้าบ้าง

ตอนนี้หลายๆ คนน่าจะเริ่มเห็น Wiko ตั้งบูธตามห้างตามร้านต่างๆ บ้างแล้ว ใครที่สนใจก็ไปลองจับลองเล่นดูก่อน เพราะจริงๆ ก็เปิดตัวมาหลายรุ่นเหมือนกัน ทั้ง Highway Sign ที่กล้องหน้าชัดๆ หรือ WAX 4G ที่ใช้ชิพ NVIDIA ก็มีด้วย