Samsung Galaxy Note 3 มือถือที่หลายๆคนติดตามและรอคอยกันมานาน ในที่สุดก็ได้ถูกเปิดตัวแล้วในงาน IFA กรุงเบอร์ลิน เยอรมันนี ซึ่งต้องบอกว่าทาง Samsung ได้มีการปรับแต่งและเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆเข้าไปในมือถือจดโน๊ตรุ่นที่ 3 นี้มากมายเลยทีเดียว ทั้งเรื่องของหน้าจอที่ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ว่าเครื่องมีขนาดแทบจะไม่เปลี่ยนไป ซอฟท์แวร์ที่ปรับปรุงเพิ่มเติมให้ตอบโจทย์การใช้งานวาด จด เขียน มากกว่าเดิม กล้องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ดูเป็นพลาสติกราคาถูกอีกต่อไป งานนี้มีรายละเอียดน่าสนใจมากมาย เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันมีอะไรใหม่ ดีสมกับที่หลายๆคนรอคอยรึเปล่ากันได้เลยครับ

สเปคแบบคร่าวๆของ Galaxy Note 3 (หรือไปดูสเปค Galaxy Note 3 แบบละเอียด)

  • Android 4.3
  • CPU มีสองรุ่น (3G) Exynos Octa-core 1.9GHz และ (4G) Qualcomm Quad-core 2.3GHz
  • GPU มีสองรุ่น (3G) Mali T628 MP6 และ (4G) Adreno 330
  • RAM 3 GB
  • หน่วยความจำ 32/64GB
  • หน้าจอ 5.7” 1080×1920 (~386ppi)
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 2 ล้าน
  • รองรับ 3G ทุกเครือข่าย (รุ่น 4G ก็รองรับ 4G LTE ของ Truemove H)

 

พัฒนาการจดบันทึกและการใช้ปากกา S Pen

หากเรามองดูบรรดาโทรศัพท์ Galaxy ทั้งหมดแล้วปากกาจะเป็นจุดต่างหลักที่สร้างความพิเศษเหนือ Galaxy รุ่นอื่นๆ ในทุกๆรุ่นของ Galaxy Note ที่ออกมาก็จะมีการพัฒนาปรับปรุง S Pen และ S Note เพิ่มเติมเข้าไปเสมอ เช่นเดียวกับใน Galaxy Note 3 ที่ซัมซุงได้ออกแบบเราสามารถใช้ปากกาได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อุปกรณ์จดบันทึก หรือวาดเขียนเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปกรณ์สั่งงานอีกด้วย

Air Command – แค่จรดปากลงบนหน้าจอ ก็พร้อมเรียกคำสั่งใช้งาน

เมื่อเราจรดปากกาลงบนหน้าจอของ Galaxy Note 3 และกดปุ่ม จะเป็นการเรียกแถบไอคอนคำสั่ง 5 อย่างขึ้นมา ประกอบด้วย

  • Action Memo ที่จะทำให้เราสามารถจดบันทึกและแปลงลายมือเขียนของเราให้กลายเป็นข้อมูลพร้อมจดบันทึก หรือเรียกใช้งานทันที เช่น เมื่อเราเขียนเบอร์โทรศัพท์ Galaxy Note 3 ก็จะโทรออกให้  หรือจะเลือกให้มันเซฟลงในสมุดโทรศัพท์ก็ได้ หรือจะเขียนชื่อสถานที่เพื่อทำการหาตำแหน่งบนแผนที่ ค้นเว็บ เพิ่มสิ่งที่ต้องทำในปฎิทิน

  • Scrapbook สมุดบันทึกจัดเรียงข้อมูลที่น่าสนใจให้เราอย่างเป็นระเบียบ จากปกติที่เวลาเราเจอสิ่งที่น่าสนใจบนเว็บต่างๆ หรือ YouTube หรือจากภาพถ่ายของเราเองก็ตาม เราจดบันทึกสิ่งที่น่าสนใจเหล่านี้บนกระดาษโน๊ตบ้าง copy ชื่อเว็บไว้บ้าง ฝากเอาไว้กับแอพนั้นบ้าง หรือจัดเก็บภาพกองรวมๆไว้ ซึ่งก็อาจทำให้วุ่นวายเวลาเราต้องการจะค้นหาซักที ฟีเจอร์นี้ก็จะทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้น เพียงแค่กดคำสั่งนี้ลงบนหน้าจอ Galaxy Note 3 ก็จะเก็บข้อมูลที่เราต้องการทั้งหมดเอาไว้ให้ รวมถึงเก็บแหล่งที่มาของข้อมูล เช่น URL ของเว็บที่เราตัดแปะข้อมูลมา ทำให้ถ้าต้องการกลับไปดูเพิ่มเติม เราก็สามารถกดลิงก์นั้นๆกลับไปหาเว็บต้นทางของข้อมูลได้เร็วขึ้น และเป็นระเบียบกว่าเดิมครับ

  • Screen Write จับภาพหน้าจอพร้อมจดโน๊ตลงไปได้ทันที เพิ่มเติมจากเดิมที่ใน Galaxy Note 2 เราต้องกดปุ่มบน S Pen ค้างไว้เพื่อจับภาพหน้าจอแล้วเขียนค่อยเขียน แต่แบบนี้น่าจะทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม

  • S Finder อยากค้นหาข้อมูลบน Galaxy Note 3 ก็ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์นี้ แค่กดเข้าไปแล้วมันจะทำการค้นหาข้อมูลทุกสิ่งอย่างในเครื่องเรา ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพ เพลง คลิปต่างๆ แต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นเราก็ต้องมีการจัดเรียงให้เป็นระบบด้วยเช่นกัน จึงจะทำให้เราสามารถหาเจอได้ด้วยนะ

  • Pen Window เรียกว่าเป็นทีเด็ดเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมทันที เพราะฟีเจอร์นี้ทำให้เราเพียงแค่ลากกรอบสี่เหลี่ยมลงบนหน้าจอ มันก็จะเป็นการเรียกแอพขึ้นมาบนหน้าจอได้ ซึ่งแอพที่ถูกเรียกขึ้นมานั้นก็จะมีขนาดปรับให้เท่ากับสี่เหลี่ยมที่เราวาดขึ้นมา แต่ยังจำกัดอยู่แค่ไม่กี่แอพที่สามารถเรียกขึ้นมาด้วยวิธีนี้ได้นะครับ


S Finder ทำออกมาสวยงามดูน่าใช้เลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ S Pen บน Galaxy Note 3 นะครับ ยังไงไปดูคลิปที่ท้ายข่าวน่าจะทำให้เห็นภาพแต่ละหัวข้อได้ง่ายขึ้นครับ 😉

S Note สามารถเชื่อมต่อกับ Evernote ได้แล้ว

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Evernote มันคือแอพสำหรับจดบันทึกที่ดังที่สุดแอพนึงในขณะนี้ ทำให้เราจดบันทึกที่อุปกรณ์ใดๆ มันก็จะทำการซิงก์ข้อมูลเราไปที่อุปกรณ์อื่นที่เราลงทะเบียนเข้าใช้ไว้ให้โดยอัตโนมัติ เปิดให้ใช้งานได้ทั้งบน Desktop PC, Tablet, และ Smartphone โดย Evernot นี้มีคนใช้บริการกันอยู่เยอะมาก การที่ S Note เชื่อมต่อกับ Evernote ได้ก็ทำให้เราสามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้นกว่าดิม เพราะไม่ต้องแปลงข้อมูลจาก S Note เพื่อแชร์ไปยังเครื่องอื่นอีกต่อไปครับ

และฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากของ S Note ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือการตัดแปะในเอกสารครับ จากที่เราวาดอะไรไว้แล้วถ้าต้องการเปลี่ยนตำแหน่งมัน ก็ต้องลบออกวาดใหม่เท่านั้น แต่นี่จะสะดวกกว่าเดิมเพราะเค้าได้ทำฟีเจอร์นี้มาให้แล้วครับ (รอมานาน)

หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นก็ทำงานได้มากขึ้น (better Multiwindow, better Multitasking)

จุดเด่นของ Samsung Galaxy ที่เหนือกว่าชาวบ้าน ก็น่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการทำงานพร้อมๆกันหลายแอพได้ และบน Galaxy Note 3 ก็เพิ่มความสามารถให้เราลากวางข้อมูลข้ามแอพได้แล้ว เช่น หากเรากำลังแชทหรือส่งข้อความอยู่ เราก็สามารถลากวางภาพจากแกลอรี่ในอีกหน้าจอนึงมาวางได้เลย

ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ได้เปิดเผยอะไรออกมามากนักว่า Galaxy Note 3 สามารถลากวางข้อมูลข้ามแอพได้หลากหลายขนาดไหน แต่เชื่อว่าค่อนข้างจำกัด ไม่ได้ทำได้ทุกแอพขนาดนั้น 

และยังมีส่วนที่น่าสนใจอีกคือมันสามารถเปิดแอพเดียวกันสองหน้าจอได้ ซึ่งแอพที่นำเอามาโชว์ก็คือ ChatOn แอพแชทของทาง Samsung เอง ทำให้เราสามารถแชทสองหน้าจอรวมถึงโยนไฟล์ข้ามกันไปมาได้ด้วย น่าสนใจมากว่า Samsung จะเปิดฟีเจอร์นี้ไปให้นักพัฒนารายอื่นทำด้วยรึเปล่า และจะมีนักพัฒนารายได้ทำรึเปล่าด้วย เพราะถ้าทำได้แต่ใน ChatOn ก็…สวัสดีครับ

เพิ่มความสามารถการเล่นเป็นกลุ่ม

จากใน Galaxy S4 ทาง Samsung ได้ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อ S4 และเล่นเพลงหรือเกมร่วมกันได้มาแล้ว บน Galaxy Note 3 ก็ฉลาดขึ้นกว่าเดิมได้อีก เมื่อเราสามารถแชร์ภาพให้เครื่องอื่นๆ และแสดงผลภาพเดียวกันให้ต่อกันสองเครื่องได้ เพื่อเพิ่มขนาดภาพให้เราดูได้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต้องบอกว่าการใช้งานมันดูว้าวมากอ่ะ แนะนำให้ไปลองดูกัน >__<

Play video

ที่นี้เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดทางด้าน Hardware กันบ้างซึ่งเจ้า Galaxy Note 3 มันจะมีสองรุ่นที่ขายทั่วโลกแตกต่างกันตามแต่ละประเทศเหมือน Galaxy S4 นั่นเอง โดยแบ่งเป็นรุ่นที่ใช้ Chipset Exynos ของ Samsung เอง รองรับแค่ 3G และอีกรุ่นที่ใช้ Chipset Qualcom Snapdragon 800 ตัวแรงที่นิยมในมือถือรุ่นท็อปของตลาดตอนนี้ เช่น LG G2, Xperia Z1 ก็ใช้อยู่ รองรับเครือข่าย 4G LTE โดยผมจะเรียกรุ่น 3G ว่า SM-N9000 และรุ่น 4G ว่า SM-N9005 นะครับ

 

Chipset : CPU, GPU และ RAM
SM-N9000 :
Samsung Exynos 5420, Octa-core 1.9GHz สถาปัตยกรรม big.LITTLE (Quad-core Cortex-A15 1.9GHz + Quad-core Cortex-A7 1.3GHz), Mali T628 MP6, RAM 3GB
SM-N9005 : Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800, Quad-core 2.3GHz (Krait 400), Adreno 330, RAM 3GB

ยังบอกอะไรมากไม่ได้ถึงความแรงของทั้งสองตัวนี้ คงต้องลองจับและเปรียบเทียบกันแบรนด์อื่นๆต่อไป แต่เชื่อว่าสำหรับหลายๆคน spec ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งดูอีกแล้ว เหมือนที่ผมย้ำไปหลายทีนั่นแหละ ว่า ณ ตอนนี้ฮาร์ดแวร์มันเกิความต้องการของพวกเราไปแล้ว ยังไงก็ลื่นเหมือนกันหมด แต่ถ้าไม่ลื่นก็ต้องโทษที่ผู้ผลิตว่าทำซอฟท์แวร์มีปัญหาแทน

 

Galaxy Note 3 :
หน้าจอ 5.7 น้ิว SuperAMOLED ความละเอียด 1080×1920 พิกเซล (~386ppi)
ขนาดและน้ำหนักเครื่อง 151.2 x 79.2 x 8.3 mm, 168g

Galaxy Note 2:
หน้าจอ 5.5 นิ้ว SuperAMOLED ความละเอียด 720×1280 พิกเซล (~267ppi)
ขนาดและน้ำหนักเครื่อง 151.1 x 80.5 x 9.4 mm, 183g 

ใหญ่ขึ้นจาก Galaxy Note 2 มาอีกเล็กน้อย ด้านละราวๆ 1 มิลเท่านั้น แต่เครื่องบางและเบาลงกว่าเดิม และได้ความกว้างของหน้าจอเพิ่มขึ้นมาอีก โดยเทรนด์ของการทำโทรศัพท์ขอบบางเริ่มเห็นกันมากขึ้น โดยเริ่มจากที่ Samsung ทำ Galaxy S4 ที่ขอบบางขึ้นมานั่นเอง หลายๆคนอาจจะมองว่ามันก็น่าจะทำได้มาตั้งนานและ แต่ในความเป็นจริงการทำขอบบางนั้นมีปัญหาหลายอย่างมากทั้งเรื่องความทนทานและเรื่องระบบการสัมผัสหน้าจอ ถ้ามันไม่ดีพอในระดับนึง แบรนด์ต่างๆก็ไม่น่าจะกล้าทำขาย เพราะจะทำให้ลูกค้าบ่นได้ คู่แข่งของ Galaxy Note 3 ด้านความบางหน้าจอก็คงไม่พ้น LG G2 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าที่มีความบางที่ขอบเพียง 2.65 มม. เท่านั้น ตามตัวเลขที่เคยได้รับมาขอบของ Note 3 น่าจะบางกว่า LG G2 แต่รอดูของจริงอีกทีดีกว่าเพราะดูแล้วเหมือน Note 3 จะหนากว่ายังไงก็ไม่รู้

galaxy note 3 vs galaxy note 2

กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล

ความละเอียดระดับนี้ใน Galaxy Note 3 อาจจะไม่ได้ดูหวือหวาอะไรมากนัก เพราะมือถือเรือธงจากแบรนด์ต่างๆก็ยกระดับขึ้นมากับหมดแล้ว แต่อย่าง Sony Xperia Z1 ที่ชิงเปิดตัวไปก่อนหน้าก็จัดกล้อง 20 ล้านพิกเซลให้เลย แถมใน Galaxy Note 3 ยังไม่มีการใส่ OIS (Optical Image Stabilization) (ระบบกันภาพสั่น รวมถึงช่วยให้ถ่ายภาพในที่มืดได้ดี) เข้าไปอีกต่างหาก ทำให้กล้องของ Galaxy Note 3 นั้นคาดกันว่าน่าจะดีขึ้นจาก Galaxy Note 2 ไม่ได้มากขนาดนั้น และน่าจะทำได้ไม่ต่างอะไรจาก Galaxy S4 ด้วย และเท่าที่ดูจากพรีวิวของต่างประเทศกล้อง Galaxy Note 3 น่าจะเปิดได้เร็วขึ้นกว่าบน Galaxy S4 และหวังว่าจะไม่รีสตาร์ทรัวๆเหมือนเดิมนะ 😛

สำหรับคำถามที่ว่า พวกโหมดกล้องต่างๆจาก Galaxy S4 จะมีบน Galaxy Note 3 หรือไม่นั้นก็บอกได้เลยว่าใช้งานได้เหมือนกันทุกอย่างครับ แต่ทาง Samsung เลือกที่จะไม่พูดถึงเพราะว่าเดี๋ยวจะไปซ้ำกันนั่นเอง

การรองรับ 3G และ 4G LTE

เครือข่าย 3G ไม่ว่าเราจะใช้ AIS DTAC Truemove H หรือ TOT ก็สามารถใช้ Galaxy Note 3 ได้หายห่วงครับ จะเหลือก็แต่เครือข่าย 4G ของทาง Truemove H เนี่ยแหละที่ต้องคอยติดตามกันว่าทาง Samsung จะนำเอารุ่น Galaxy Note 3 รุ่น 4G เข้ามาขายหรือไม่อย่างไร และมีราคาเท่ากันหรือเปล่า เพราะเท่าที่ทราบ ราคามีโอกาสจะแพงขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะชิพเซทที่รองรับ 4G นั้นยังมีราคาแพงอยู่ครับ

หน่วยความจำ เริ่มต้นที่ 32GB

จากที่เคยมีปัญหาในรุ่น Galaxy S4 ว่ามีพื้นที่คงเหลือสำหรับใช้งานน้อยเกินไป ทางซัมซุงก็ได้แก้ไขใน Galaxy Note 3 โดยเพิ่มหน่วยความจำภายในให้เป็นขั้นต่ำ 32GB ทีนี้ก็น่าจะมีเหลือเพียงพอสำหรับลงแอพ ลงเกม เท่าที่ต้องการแล้ว และแน่นอนว่าก็ยังคงคอนเซปท์เดิมที่สามารถเพิ่ม microSD เข้าไปได้อีก 64GB รวมพื้นที่แล้วก็เกือบ 100GB เท่านั้นเองจ้าาาา

อื่นๆที่น่าสนใจ

สิ่งที่หลายๆคนให้การจับตามองมากที่สุดของ Galaxy Note 3 นั่นก็คือวัสดุที่เปลี่ยนไปนั่นเอง จากที่ปกตินั้นเราจะเห็น Samsung เลือกใช้พลาสติกธรรมดามาโดยตลอด แต่คราวนี้ได้มีการเลือกใช้วัสดุที่เรียกว่า Faux Leather ซึ่งเป็นการดัดแปลง Polycarbonate ให้มีลักษณะนุ่นมือคล้ายหนัง รวมถึงมีการทำพื้นผิวเหมือนกับการเย็บเอาไว้ด้านหลัง สร้างความแตกต่างและดูหวือหวาไม่น้อย และสื่อต่างชาติแต่ละที่ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อูวววววว มันฟีลเกรทเลยนายจ๋า 😀

ส่วนว่ามันจะดีขนาดไหน สกปรกง่ายรึเปล่า เดี๋ยวเราคงจะได้ลองจับกันเร็วๆนี้ครับ

แบตเตอรื่และความยาวนานในการใช้งาน
Li-Ion 3,200mAh 

Galaxy Note 3 ให้แบตเตอรี่มามากกว่า Galaxy Note 2 อยู่เล็กน้อย แต่ว่าในงานเปิดตัว ทาง Samsung ได้บอกว่ามีการพัฒนาด้านการกินไฟและซอฟท์แวร์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมราวๆ 15% เลยทีเดียว ซึ่งต้องบอกว่าใน Galaxy Note 2 หลายๆคนก็ประทับใจกับแบตที่อยู่ได้ยาวนานอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปตามที่ทาง Samsung เคลมจริง ก็คงจะฟินกันขึ้นกว่าเดิมอีกมากเลย แต่ก็รอการทดสอบจริงก่อนแล้วกันครับ ถึงจะบอกได้ว่ามันจะดีตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ 😉

อุปกรณ์เสริม 

คราวนี้ S view cover ยกมากันเป็นกองทัพ หลากสีมากมาย แต่ก็ดูสวยดีดูเป็นพาสเทล พร้อมช่องสำหรับดูข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก

ราคาและวันวางจำหน่าย

ในงานเปิดตัวนี้ทาง Samsung ยังไม่ได้แง้มราคาออกมาว่า Galaxy Note 3 จะมีเท่าไหร่ เพราะราคาในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน แต่ผมขอเดาไว้เลยว่ายังไงก็ไม่น่าจะมีต่ำกว่าราคา Galaxy Note 2 ตอนเปิดตัว ที่ 22,900 บาทแน่นอน แต่วันวางจำหน่าย ในประเทศไทยได้เจอกันปลายเดือนกันยายนนี้แน่นอนครับ น่าจะเป็นวันที่ 25 ยังไงรอทาง Samsung Thailand ยืนยันอีกทีแล้วกันครับ 

ก็ขอจบเรื่อง Galaxy Note 3 เอาไว้เท่านี้ก่อน ยังมี Galaxy Note 10.1 และ Galaxy Gear ให้ได้ติดตามอีก ไว้ยังไงจะหาข้อมูลส่วนอื่นๆเพิ่มเติมให้ได้อ่านกันต่อไปครับ เพราะจริงๆผมเองก็ยังมีข้อสงสัยในหลายๆเรื่องเหมือนกัน แล้วรอติดตามอ่านกันได้เร็วๆนี้

ปิดท้ายด้วย video โปรโมตนี้แล้วกันครับ เชื่อว่าดูน่าจะปลุกต่อมกิเลสกันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 🙂

Play video

 

ว่าแต่เห็น Galaxy Note 3 แล้วคิดว่ายังไงกันมั่งเอ่ยยย ^__^
มาคอมเม้นท์หน่อยเร้ว

sources:

  • หลายๆส่วนดูจากงานเปิดตัวเมื่อคืน
  • ภาพบางส่วนจาก Samsung Tomorrow 
  • ภาพเคสจากคลิปของ TheVerge
  • และภาพถือเปรียบเทียบ Galaxy Note 3 และ Note 2 จาก AndroidNext