ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายของการทัวร์งาน Google I/O 2016 ซักที หลังจากที่พาเที่ยวดูภายในงานช่วงกลางวันแล้ว คราวที่ก็ถึงเวลาเที่ยวงานยามค่ำคืนล่ะ เพราะงาน I/O นั้นจะมีปาร์ตี้ตอนเย็นเป็นปกติอยู่แล้ว แล้วปีนี้จะเป็นยังไงบ้างล่ะ มาดูกันเถอะ

 

บทความทั้งหมดสำหรับงาน Google I/O 2016

      ทัวร์ฟรีกับ Droidsans : งาน Google I/O 2016 ตอนที่ 1 Keynote และสถานที่ภายในงาน

      ทัวร์ฟรีกับ Droidsans : งาน Google I/O 2016 ตอนที่ 2 เที่ยวชมสิ่งที่น่าสนใจในงาน      

      ทัวร์ฟรีกับ Droidsans : งาน Google I/O 2016 ตอนที่ 3 ปาร์ตี้ยามค่ำคืน

 

      เริ่มจากตอนเย็นของงานวันแรกก่อนเลยละกัน ซึ่งวันแรกนี้จะยังไม่มีอะไรมากนัก เป็นงานคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นที่เวทีเดียวกับตอน Keynote เลย ซึ่งก็จะมีอาหารและเครื่องดื่มให้กินฟรีๆเช่นกัน 

 

      ถึงแม้ว่าจะเป็นปาร์ตี้ตอนเย็นก็จริง แต่เอาเข้าจริงปาไปหนึ่งทุ่มแล้วครับ แต่ที่นี่ตะวันลับฟ้าช้ามาก กว่าจะมืดจริงๆก็สองทุ่มครึ่งครับ 

 

      เมื่อคอนเสิร์ตเริ่ม ก็มีทั้งคนที่อยู่หน้าเวที และนอนอยู่บนสนามหญ้าด้านหลัง ซึ่งมีการแจกเบาะรองนั่งให้ด้วยนะเออ แต่บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก ลมเย็นๆ แดดยามเย็น (ตอนทุ่มครึ่ง) และฟังเพลงเพลินๆ บวกกับความเหนื่อยล้าจากการเดินงานทั้งวัน 

 

      สรุปก็คือผมหลับไปเลย รู้ตัวอีกทีก็ดึกมากๆแล้ว และก็พบว่าเวทีกลายเป็นแหล่งแสงสีเสียงอย่างเต็มตัวเสียแล้ว ซึ่งผมก็ขอขึ้น Shutter Bus ลากลับบ้านก่อนล่ะ ตอนนั้นง่วงมากๆ แต่บรรยากาศน่าเมามันมากจริงๆ

 

      พอมาถึงปาร์ตี้ของวันที่สอง ผมก็แอบสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างที่ทีมงานเอามาตั้งไว้ภายในงานเลย ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจจนถึงช่วงเย็นถึงจะเข้าใจว่าเค้าจะเปลี่ยนพื้นที่ภายในงานทั้งหมดเนี่ยแหละ ให้กลายเป็นพื้นที่ปาร์ตี้ 

      ดังนั้นผลที่ได้ก็คืองาน I/O 2016 กลายเป็นงานปาร์ตี้ไปแล้วล่ะ (จริงๆแล้ว I/O เป็นงานปาร์ตี้กินเบียร์ฟังเพลงเล่นกิจกรรมสนุกสนานครับ ตอนกลางวันเป็นแค่งานบังหน้า ฮ่าๆ)

 

      และสีที่เจ้าหุ่นยนต์แขนกลสะบัดใส่ลูกบาศก์แท้ที่จริงแล้วก็เป็นสีเรืองแสงได้ด้วยนั่นเอง

 

      และห้อง Session แต่ละห้องก็จะถูกเปลี่ยนเป็นห้องปาร์ตี้ต่างๆแทน อย่างเช่นห้องแรกสุดที่ผมลองเข้าก็กลายเป็นผับซะแล้ว มีดีเจเล่นเพลง ข้างในมีที่นั่งคุย ยืนเต้น

 

      มีจุดติดสติ๊กเกอร์ลายสักให้บริการกันแบบฟรีๆด้วย

 

      และพื้นที่ข้างนอกก็มีการเอารถที่รกแต่งเป็นเรือมาจอดทิ้งไว้เพื่อทำเป็นพื้นที่ให้ดีเจเล่นเพลงเช่นกัน

 

      ส่วนอาหารก็จะเอา Food Truck มาจอเพื่อทำอาหารให้ผู้เข้าร่วมงาน และมีเคาเตอร์สำหรับเครื่องดื่มด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ฟรีครับ

 

      ห้องนี้ถูกเปลี่ยนเป็นห้องดนตรีแบบสบายๆครับ สามารถนอนฟังอย่างเพลิดเพลินเช่นกัน ซึ่งรอบนี้ผมจะไม่เผลอหลับแบบเมื่อวานเด็ดขาดละ เพราะมีอีกหลายห้องที่ต้องลองแวะไป

 

      เอาล่ะ มาถึงห้องเล่นเกมแล้ว (เป้าหมายหลักของผมเลย)

 

      เข้ามาปุปก็จะเจอกับโต๊ะฮอคกี้เป็นอย่างแรกเลย

 

      แต่โต๊ะฮอคกี้นั้นไม่น่าสนใจเท่าโต๊ะบอลครับ เพราะว่าโต๊ะบอลนั้นจะมีหน้าจอแสดงคะแนนเป็น Pixel C นั่นเอง ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอกครับ เค้าเอา Pixel C มาเป็นหน้าจอแสดงคะแนนสำหรับโต๊ะบอล แถมโต๊ะมี 4 ตัวก็มี Pixel C โต๊ะละตัวเลย ลงทุนจริงๆ

 

        ทั้งนี้ก็เพราะว่ามันไม่ได้ทำหน้าที่แค่แสดงคะแนนอย่างเดียว เพราะที่โต๊ะบอลนั้นจะมี NFC ทั้ง 4 มุมโต๊ะสำหรับผู้เล่นทั้ง 4 คนที่สามารถเปิดแอพสำหรับโต๊ะบอลนี้แล้วแตะไปที่ NFC ก็จะเป็นการลงทะเบียนชื่อของเราว่าเล่นอยู่ ซึ่งคะแนนนั้นจะถูกเก็บไว้ที่ Pixel C และส่งขึ้นหน้าจอหลักผ่าน Firebase เพื่อแสดงอันดับของผู้เล่นแต่ละคนนั่นเอง

Play video

 

      และมีการปั่นจักรยานแข่งกันโดยใช้ภาพจาก Google Street View จำลองการปั่นจักรยาน

 

      มีการใช้กล้องถ่ายภาพ Slow-motion แล้วให้คนยืนโปรยเศษกระดาษ โดยจะให้กล้องหมุนรอบๆตัว (ปกติจะใช้กล้องหลายๆตัวเรียงกันรอบตัว แต่อันนี้คือให้กล้องเคลื่อนที่รอบๆแทน)

 

      บรรดาตู้เกมยุคเก่าๆก็ถูกขนมาให้ได้เล่นกันหลากหลายแทบทุกเกมในยุคนั้นๆ

 

       บรรดาแอพเกมต่างๆที่สามารถต่อเข้ากับ Chromecast ก็ถูกขนมาให้ได้ลองเล่นเช่นกัน

 

      เกมบน Android TV ก็ขนมาให้ได้ลองเล่นเช่นกัน ซึ่งจะมีทั้ง NVIDIA SHIELD Android TV และ Razer Forge TV

 

      แต่ที่ผมสนใจมากๆคือเกม Quick Draw ครับ เพราะเกมนี้จะให้เรารับคำใบ้มาหนึ่งคำแล้ววาดภาพบนหน้าจอ Tablet เพื่อให้ Cloud Vision API ทายว่าภาพที่เราวาดเป็นภาพอะไร ถ้าทายถูกก็แปลว่าผ่าน ซึ่งเป็นเกมที่ไอเดียดีมากๆ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cloud Vision API ในรูปแบบของเกม

 

      และที่มันเจ๋งก็ตรงที่มันไม่ใช่แค่การให้ Cloud Vision API ทายแบบธรรมดาๆเท่านั้น แต่จะมีการตอบด้วยเสียงพูดจากในเกมด้วย เพื่อให้รู้ว่า Cloud Vision API กำลังมองเห็นภาพอะไร และจะทายไปเรื่อยๆจนกว่าจะถูก

Play video

 

      และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Developer หรือ Programmer ก็คือโต๊ะปิงปองนั่นเอง!!

 

      โอเค พอละ ออกมาจากห้อง Arcade ดีกว่า ก่อนจะเล่นเพลินไปมากกว่านี้ คราวนี้ก็มาอีกห้องที่เป็นห้อง VR แต่ทว่าเป็นการโชว์วาดภาพใน VR ครับ โดยใช้ TiltBrush ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจคของทาง Google โดยให้ศิลปินใส่ HTC Vive แล้ววาดภาพจากในนั้นให้ดู (ในภาพกำลังวาด Hotdog)

 

      และห้องที่คนต่อคิวยาวที่สุดก็คงจะเป็นห้อง Project Tango ที่เอา Project Tango Tablet ไปติดอยู่บนปืนแล้วให้เล่นเกมยิงเอเลียน ซึ่งต่อคิวกันยาวมาก จนผมถอดใจไม่เล่นดีกว่า ฮาๆ

 

      สำหรับงานปาร์ตี้วันที่สองนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่จะมีปาร์ตี้ เพราะในวันที่สามงานจะไม่มีปาร์ตี้ตอนเย็น และจะปิดงานประมาณช่วงบ่ายๆเย็นๆ ซึ่งในวันที่สองนี้อยู่กันจนถึงห้าทุ่มเลยทีเดียว 

 

       ถึงแม้ว่างานตอนกลางวันจะไม่ประทับใจซักเท่าไรนัก แต่ปาร์ตี้ตอนเย็นนี้ผมบอกเลยว่าประทับใจมากๆ เพราะทำได้ดีกว่าปีที่แล้วเยอะเลย แถมมีการโชว์โปรเจคหลายๆอย่างที่น่าสนใจมากมาย (ชอบสุดก็คงเป็น Quick Draw) แต่จริงๆแล้วงานปาร์ตี้แบบนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานเทคโนโลยีครับ เพราะมันทำให้คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมงานได้รู้จักกัน พูดคุยกันและแบ่งปันความรู้กันครับ เพราะ Culture ที่นี่ส่วนในจะชอบคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ที่เหลือก็แค่บรรยากาศที่เหมาะสมนั่นเอง

 

      ในที่สุดก็จบแล้วกับการพาเที่ยวงาน Google I/O 2016 ทั้ง 3 ตอน อาจจะยาวไปบ้าง แต่จริงๆก็ยังมีอีกหลายๆจุดที่ผมไม่ได้เก็บภาพและข้อมูลมาเล่าให้ฟังนะครับ (ก็ขออภัยด้วยเพราะงานมันกว้างจริงๆ ><“) และถ้ามีโอกาสในปีหน้าอีกก็จะเก็บภาพและบรรยากาศมาเล่าสู่กันฟังแบบนี้อีกนะครับ แต่ปีนี้ก็ต้องขอลาก่อนล่ะครับ เหนื่อยเหลือเกิน 😀