ในยุคนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้วด้วยความ สามารถของมันที่ทั้งช่วยแบ่งเบาภาระงานของเราเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งการได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก ข้อความ เตือนความจำ ทำตารางนัดหมาย หรือจะเป็นในด้านความบันเทิงก็สามารถ ใช้เพื่อเล่นเพลง ดูหนัง หรือ กระทั่งท่องอินเทอร์เน็ตและเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กได้การที่เรามีสมาร์ทโฟนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาก็ทำให้ การค้นหาข้อมูลต่างๆ ของเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่ทราบมั้ยครับว่าเราพึ่งพามันมากไปหรือเปล่า ?

มหาวิทยาลัยวอเตอร์ลูประเทศแคนาดาได้ทำการทดสอบกับคนจำนวน 660 คน โดยการให้ผู้เข้าทดสอบ
ทำแบบทดสอบเพื่อวัดผลกระบวนการคิดของพวกเขา แบบทดสอบมีทั้งทดสอบกระบวนการวิเคราะห์
ทักษะทางภาษา และ ทักษะทางคณิตศาสตร์โดยหลังจากสรุปผลการทดสอบแล้วทีมนักวิจัย ได้นำข้อมูลพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของ ผู้เข้าทดสอบมาพิจารณาประกอบด้วย

ผลการทดสอบที่ได้ออกมานั้นพบว่าผู้ที่สามารถทำคะแนนได้สูงนั่นเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยได้ใช้สมาร์ทโฟน
เพื่อช่วยในการค้นหาคำตอบของโจทย์ปัญหาต่างๆ หรือก็คือเป็นกลุ่มคนที่ใช้มันสมองของตนเองในการหาคำตอบ มากกว่าการ ที่จะพึ่งพาสมาร์ทโฟนในการค้นหาคำตอบนั่นเอง

คุณ Pennycook นักศึกษาปริญญาเอกผู้ร่วมทำวิจัยในครั้งได้กล่าวว่า “จากผลการวิจัยของเราจะพบว่า
การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานมีความเกี่ยวข้องกันกับระดับสติปัญญาที่ลดลง แต่การที่จะ บอกว่าสมาร์ทโฟนนั้นเป็นสาเหตุ
ให้คนด้อยปัญญาลงนั้นยังคงเป็นคำถามที่ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป

หลายๆ คนอาจจะเริ่มวิตกแล้วว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกเราต้องพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนเลยรึเปล่า
แล้ว เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลายแหล่ล่ะ เราควรจะเลิกมันซะเดี๋ยวนี้เลยมั้ย …
ยินดีด้วยครับ ทางทีมวิจัยระบุว่าข้อมูลจากการวิจัยนั้นไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าแอปพลิเคชันกลุ่มโซเชียลมีเดีย
หรือกลุ่มให้ความบันเทิงต่างๆ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการถดถอยลงของทักษะต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้

จะเห็นได้ว่าการพึ่งพา “ผู้ช่วย” มากไปนั้นจะส่งผลให้เราเกิดความเกียจคร้านและมีแนวโน้มที่จะพึ่งพามันมากขึ้นอีก พอนานๆ เข้าก็อาจทำให้เราขาดการฝึกฝนทักษะบางอย่างไปได้ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ลองปรับเปลี่ยนนิสัย มาทำอะไรด้วยตัวเองให้มากขึ้นดูครับ 🙂

ที่มา: Phone Arena