สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่านครับ วันนี้มีโอกาสได้มารีวิวมือถือยี่ห้อใหม่ให้ได้ชมกันอีกแล้ว โดยวันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ UMi Super มือถือบอดี้โลหะ สายอึดและบึกบึน มาพร้อมสเปกระดับกลาง Helio P10 และ RAM 4GB พร้อมแบตเตอรี่จัดเต็ม 4000mAh จำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท และรุ่นพิเศษ Euro Edition สีน้ำเงินจำหน่ายในราคา 8,990 บาท เรามาดูรายละเอียดกันครับ

สำหรับเครื่องรีวิวของ Droidsans นั้นเป็นรุ่น Euro Edition ซึ่งผลิตออกมาจำกัดเพียงแค่ 1,000 ชิ้นเท่านั้น โดยความพิเศษของรุ่นนี้ นอกจากมีจำนวนจำกัดแล้วยังเปลี่ยนสีตัวเครื่องเป็น “สีน้ำเงิน” เข้มแบบที่ไม่เคยเห็นในมือถือรุ่นไหนมาก่อน และมีสกรีนคำว่า EURO EDITION ด้านหลังเครื่องด้วย ส่วนในเรื่องของสเปกนั้นไม่มีอะไรต่างจากเครื่องรุ่นปกติเลย ว่าแล้วก็มาดูสเปกกันดีกว่า

 

สเปกของ UMi Super

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : UMi Super

  • สัดส่วน : 150.8 x 75 x 8.5 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก : 185 กรัม

  • หน้าจอ : SHARP® LTPS 5.5 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G : LTE 2100(B1) / 1800(B3) / 2600(B7) / 800(B20)

    • 3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100

    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900

  • SIM : 2 SIM แบบ Micro SIM Dual Standby

  • CPU : MediaTek Helio P10 (MT6755) Octa Core 2GHz

  • GPU : Mali T860 700MHz

  • RAM : 4GB SAMSUNG eMMC+LPDDR3

  • หน่วยความจำภายใน : 32GB รองรับ microSD card สูงสุด 128GB

  • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล GalaxyCore® GC5005 camera

  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล Panasonic® Dual-LED flash

  • แบตเตอรี่ : 4000mAh Sony® (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้) พร้อม PE+ Quick Charge

  • OS : Android 6.0 Marshmallow

  • สแกนลายนิ้วมือ : มี

  • NFC : ไม่มี

  • OTG : มี

  • ไฟแจ้งเตือน: มี

  • คุณสมบัติพิเศษ:

    • ชิปเสียง Hi-Fi AW8738

    • ระบบชาร์จเร็ว PE+ Quick Charge

  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • GPS, A-GPS

    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n (2.4/5GHz)

    • Bluetooth 4.1

    • USB 3.0 Type-C

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    • G-Sensor, Glonass, P-Sensor, L-Sensor, Accelerometer, Compass, Gyroscope, Hall switch

  • สีที่มีให้เลือก : เทา / เงิน / ทอง และ น้ำเงิน Euro Edition

umi-super-review-spec.jpg

 

 

แกะกล่องเช็คของ

กล่องของ UMi Super ใช้วัสดุไม่เหมือนกับมือถือรุ่นทั่วไปครับ เพราะมันไม่ได้ทำมาจากกระดาษ แต่เป็นโลหะคล้ายๆกับกล่องขนมช็อคโกแล็ตหรือคุกกี้แบบนั้นเลย โดยกล่องเคลือบสีดำสนิททั้งข้างนอกและข้างใน มีโลโก้ UMi Super อยู่ด้านหน้า

umi-super-review-unbox01.jpg

 

พอแกะฝากล่องออกมาเราก็จะพบกับช็อกโกแล็ต เอ้ย! อุปกรณ์ต่างๆภายในกล่องต่างหาก

umi-super-review-unbox02.jpg

 

ในกล่องของ UMi Super ประกอบด้วย

  • ตัวเครื่อง UMi Super

  • สาย USB Type-A to Type-C

  • Adaptor สำหรับชาร์จ รองรับระบบ PE+ Quick Charge

  • เข็มจิ้มถาดซิม

  • คู่มือการใช้งาน

จะเห็นว่าขาดตัวหูฟังไปครับ ต้องไปหาซื้อเพิ่มเอง หรือใช้หูฟังที่เราใช้ประจำกันอยู่แล้วแทน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้กันอะนะ

umi-super-review-unbox03.jpg

 

ตัว Adaptor ที่รองรับ PE+ Quick Charge นั้นจะมีการปล่อยไฟอยู่ 2 ระดับคือ

  1. 2.5A/1.67A(5V/7V/9V)

  2. 1.25A(12V)

umi-super-review-unbox04.jpg

 

งานออกแบบ Hardware

หลังจากแกะกล่องแล้วก็มาดูตัวเครื่องกัยชัดๆ โดยสัมผัสแรกของ UMi Super นั้นต้องบอกว่าดูแข็งแรงและบึกบึนมาก สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือ น้ำหนักของตัวเครื่องนั้นมีมากพอสมควร ก็แน่นอน 185 กรัมนี่มันเกือบ 2 ขีดเลยนะ สาเหตุน่าจะมาจากวัสดุโลหะพรีเมียมที่ทาง UMi บอกว่าใช้งานการผลิตอากาศยานเลยทีเดียว รวมไปถึงแบตเตอรี่ใหญ่ขนาด 4000mAh ทำให้มือถือรุ่นนี้หนาถึง 8.5 มิลลิเมตรเลยล่ะครับ

umi-super-review-hardware01.jpg

 

ด้านหน้าของ UMi Super เป็นกระจกโค้ง 2.5D Gorilla Glass 3 ทำให้มือถือรุ่นนี้ดูพรีเมียมเกินราคาค่าตัวอยู่เหมือนกัน โดยหน้าจอ Sharp LTPS ขนาด 5.5 นิ้วให้ภาพที่คมชัด สวยงามดี ความละเอียด Full HD 1080p นั้นถือว่ากำลังพอดี ถ้าเราไม่ได้เอามือถือไปเล่น VR

umi-super-review-hardware02.jpg

 

สำหรับหน้าจอของ UMi Super นั้นรองรับการสัมผัสได้สูงสุด 5 จุด ครับ

umi-super-review-hardware02-1.jpg

 

ส่วนบนของหน้าจอจะเป็นลำโพงสนทนากับกล้องหน้า และมีเซ็นเซอร์ต่างๆอยู่ทางซ้าย

umi-super-review-hardware03.jpg

 

ส่วนล่างของหน้าจอมีไฟ Notification เป็นวงกลมอยู่ ซึ่งตรงนี้จริงๆจะมีปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive ซ่อนอยู่ด้วย 3 ปุ่มคือ Menu, Home และ Back โดยเราสามารถเปิดใช้งานปุ่มนี้ได้ใน Settings -> Buttons ซึ่งตัวปุ่มจะไม่มีไฟ backlight ให้เราเห็นนะครับ ต้องเล็งเอาเอง

umi-super-review-hardware04.jpg

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องถาดซิมและปุ่ม Shortcut ที่สามารถตั้งค่าให้เปิด App แอปที่ต้องการได้เวลากดปุ่ม

umi-super-review-hardware05.jpg

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง ทางซ้ายเป็นไมโครโฟนสนทนาและทางขวาเป็นลำโพงเดี่ยวสำหรับเสียงแจ้งเตือนและฟังเพลง

umi-super-review-hardware06.jpg

 

ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียงและปุ่ม Power ซึ่งทำมาโลหะเหมือนกับตัวเครื่องเลย

umi-super-review-hardware07.jpg

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงแค่รูเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรเพียงอย่างเดียว

umi-super-review-hardware08.jpg

 

พลิกมาดูด้านหลังเครื่องกันบ้าง ตรงนี้เราจะเห็นสีตัวเครื่องชัดเจนมาก สีน้ำเงินเตะตาสุดๆ บนสุดรูเล็กๆคือ ไมค์ตัดเสียงรบกวน ถัดลงมาเป็นกล้องหลัง, ไฟแฟลช Dual-LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่เคลมว่าเร็วถึง 0.1 วินาทีเลยทีเดียว ตอนใช้จริงก็ถือว่าเร็วจริง แต่พลาดบ่อยเหมือนกันครับ

umi-super-review-hardware09.jpg

 

สำหรับถาดซิมของรุ่นนี้เป็นแบบ Hybrid คือต้องเลือกเอาว่าจะใส่ 2 ซิมหรือจะใส่ 1 ซิมกับ microSD โดยซิมที่รองรับเป็น Micro SIM ครับ

umi-super-review-hardware10.jpg

 

โดยรวมตัวเครื่องของ UMi Super นั้นงานประกอบดีมาก วัสดุที่ใช้ก็มีพรีเมียมเกินราคา จะติดก็แต่ความหนานั้นค่อนข้างจะมากไปสักนิด และน้ำหนักก็เอาเรื่องเหมือนกัน แต่สิ่งที่ได้มาคือแบตเตอรี่ 4000mAh ผมว่าก็หยวนๆกันได้นะ

umi-super-review-hardware11.jpg

 

 

ระบบซอฟต์แวร์ Pure Android

UMi Super นั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow เรียบร้อยและไม่มีการปรับแต่งหน้าตาอะไรเพิ่มเติม ดังนั้นมันจึงเป็น Pure Android แท้ 100% หน้าตา Launcher ก็เป็นแบบมาตรฐาน Launcher3 ไม่มี Google Now Launcher ด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่อยากใช้ Google Now ก็สามารถ download จาก Play Store ได้อยู่แล้ว ดังนั้นความพิเศษของมือถือรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่ software แต่ที่อยู่ที่ Hardware เสริมที่เพิ่มเข้ามาเป็นฟีเจอร์พิเศษต่างหาก

umi-super-review-software01.jpg

 

MiraVision เป็นระบบปรับสีสันและความคมชัดของหน้าจอที่มาพร้อมกับเครื่องที่ใช้ CPU MediaTek โดยเราสามารถปรับสีสันของภาพได้ตามใจชอบ รวมไปถึง Contrast และความสว่างด้วย

umi-super-review-software02.jpg

 

Harlequin LED Notification ระบบไฟแจ้งเตือนที่มีชื่อเรียกว่า Skylight เป็นวงกลมด้านล่างหน้าจอ โดยเป็นไฟ LED 7 สี มณี 7 แสง ได้แก่ แดง, เขียว, น้ำเงิน, เหลือง, คราม, ม่วง และขาว เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้สีไหนเป็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับ เช่น Missed Call เป็นสีแดง, Facebook เป็นสีเหลือง เป็นต้น

umi-super-review-software03.jpg

 

Shortcut button หรือ ปุ่มลัด ที่เคยพูดไปแล้วในส่วนของ Hardware โดยปุ่มนี้เราสามารถตั้งให้เปิดแอปที่ต้องใช้บ่อยๆได้ เช่น Camera เมื่อเรากดปุ่มก็จะเข้าไปที่กล้องถ่ายรูปเลย สามารถถ่ายรูปได้ทันท่วงที

umi-super-review-software04.jpg

 

Buttons คือการตั้งค่าปุ่ม Navigation 3 ปุ่มมาตรฐาน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ปุ่มจริง (Physical) หรือปุ่มเสมือน (Virtual) บนหน้าจอ โดยถ้าเลือกปุ่มเสมือนก็สามารถตั้งค่าสลับปุ่ม Back กับ Recents ได้ด้วย

umi-super-review-software05.jpg

 

 

ระบบอัพเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA

สำหรับ UMi Super นั้นตั้งแต่วางจำหน่ายมาก็มี OTA มา 4 ครั้งแล้วครับ ถือว่ามีการอัพเดตบ่อยพอสมควร โดยเวอร์ชันล่าสุดเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนั้นทาง UMi เองก็ออกมายืนยันว่า UMi Super จะได้อัพเดตเป็น Android 7.0 Nougat แน่นอนภายในเดือนธันวาคมปีนี้

umi-super-review-software06.jpg

 

ระบบเสียง Hi-Fi

UMi Super นั้นใส่ชิปเสียง AW8738 มาเพื่อรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Fi โดยจากการทดสองฟังเพลงทางหูฟังนั้นต้องบอกว่า เสียงดีสมกับที่มีชิปเสียงมาให้ ซึ่งเสียงกลางและแหลมจะค่อนข้างชัดใส ส่วนเบสนั้นพอมีแต่ไม่มาก สำหรับเสียงจากลำโพงก็มีความชัดเจนดีถึงแม้จะมีลำโพงแค่อันเดียวก็ตาม มือถือราคาระดับนี้หาที่ใส่ชิปเสียง Hi-Fi มาให้ด้วยไม่ค่อยเยอะมากนะเท่าไหร่นะ ซึ่งระบบจะมีซอฟต์แวร์มาช่วยปรับเสียงให้ดีขึ้นอีก แต่ถ้าไม่ชอบก็สามารถปิดได้เช่นกัน

umi-super-review-software07.jpg

 

 

ประสิทธิภาพของ UMi Super

UMi Super มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Helio P10 Octa-core คู่กับ GPU Mali-T860 และให้ RAM มาถึง 4GB ต้องบอกว่าสเปกนั้นรองรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย มีความลื่นไหลมาก ไม่มีอาการสะดุดให้เห็น ส่วนการเล่นเกมนั้นถือว่าเล่นได้ดี ผมลองเล่น Asphalt 8 และ Modern Combat Blackout ก็สามารถเล่นได้ ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นสักเท่าไหร่ โดยการทดสอบ benchmark ของมือถือรุ่นนี้ได้คะแนนออกมาดังรูป

umi-super-review-performance01.jpg

Antutu Benchmark

 

umi-super-review-performance02.jpg

Geekbench 4

 

จากคะแนนของ Antutu ได้ 50358 คะแนน ถือว่ามีประสิทธิภทพอยู่ระหว่าง Xiaomi Mi4S และ Meizu M3 Note ส่วน Geekbench ได้คะแนน Single-core ค่อนข้างน้อย ส่วน Multi-core นั้นอยู่ระหว่าง Nexus 6 และ OnePlus One ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยล่ะนะ สำหรับมือถือราคานี้ แถมการใช้งานจริงก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

ความอึดของแบตเตอรี่

แน่นอนว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของมือถือรุ่นนี้คือ แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ที่ให้มาถือว่าสูงเลยทีเดียว และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะจากการใช้งานในหนึ่งวันปกติของผมที่เล่น Social และถ่ายรูปเป็นหลัก สามารถใช้งานได้ 1 วันแบบสบายๆ ตั้งแต่เช้าประมาณ 8.00 จนกลับถึงบ้าน ผมลองเช็ค Battery Usage ดูพบว่าเหลือ 44% และเป็น Screen-on time ถึง 3 ชั่วโมง 39 นาที ต้องบอกว่าค่อนข้างประทับใจกับความอึด แบบนี้น่าจะใช้งานได้ 1 วันครึ่งถึง 2 วันเลยต่อ 1 การชาร์จ นอกจากแบตอึดแล้วยังมีระบบชาร์จเร็ว PE+ Quick Charge มาให้ด้วย โดยสามารถชาร์จถึง 75% ได้ภายในเวลา 30 นาที ส่วนการชาร์จให้เต็ม 100% ใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง 40 ครับ

umi-super-review-batttery01.jpg

 

กล้องถ่ายรูป

UMi Super มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลของ Panasonic โดยตามสเปกบอกว่าสามารถเปิดกล้องได้เร็ว 0.5 วินาที, โฟกัสได้เร็ว 0.3 วินาที และ Zero shutter lag คือกดปุ๊บถ่ายปั๊บ ซึ่งจากที่ลองใช้งานก็ถือว่าเร็วจริง แต่ความเร็วโฟกัสจะเร็วตอนแสงปกติเท่านั้น ถ้าแสงน้อยก็โฟกัสนานเหมือนเดิม

 

สำหรับหน้าตา UI ของกล้องเป็นแบบใหม่ตามมาตรฐานของ MediaTek โดยมีการจัดปุ่มเปิดปิด HDR และแฟลชไว้ทางด้านซ้าย ด้านขวาไล่จากบนลงล่างได้แก่ปุ่มสลับกล้อง, ปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มพรีวิวรูป ถัดเข้ามาทางขวาเป็นการเลือกโหมดถ่ายรูป เช่น Pro-photo และ Panorama

umi-super-review-camera01.jpg

 

ถ้าเอานิ้วลากจากตรงกลางจอขึ้นมาก็จะเป็น Realtime Filter ให้ถ่ายเก๋ๆ

umi-super-review-camera02.jpg

 

โหมด Pro ก็มีให้ใช้แล้ว โดยสามารถปรับได้ 6 อย่างคือ Saturation, Brightness, Contrast, Exposure, IAO และ WB

umi-super-review-camera03.jpg

 

สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายจัดว่า ธรรมดามาก ไม่มีอะไรพิเศษ แต่คุณภาพจะแย่ลงตอนถ่ายในที่แสงน้อย ที่จริงก็ไม่ได้หวังอะไรมากกับกล้องของมือถือราคาระดับนี้ แต่เข้าใจว่าเอาเซ็นเซอร์ Panasonic มาโปรโมทมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ได้แต่หวังว่าอัพเดตต่อไปจะทำได้ดีขึ้น

 

บทสรุป

UMi Super เป็นมือถือที่จัดว่ามีคุณภาพคุ้มค่าในระดับหนึ่งสำหรับราคา 7,990 บาท โดยจุดเด่นอยู่ที่งานประกอบและวัสดุที่ใช้นั้นจัดได้ว่าเข้าขั้นมือถือพรีเมียมรุ่นหนึ่งเลย แถมยังให้แบตเตอรี่มากถึง 4000mAh ซึ่งใช้งานได้อึดสมความจุแบตจริงๆ แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือความหนาและน้ำหนักของตัวเครื่องเกือบ 2 ขีด ที่ต้องใช้เวลาอยู่กับมันสักพักถึงจะชิน สำหรับสเปกนั้นก็ถือว่าคุ้มอีกเช่นกันกับชิปเซต Helio P10 พร้อม RAM 4GB และยังใส่ชิปเสียง Hi-Fi มาให้สำหรับคนรักในเสียงเพลงอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม มือถือรุ่นนี้ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอยู่ ทั้งเรื่องกล้องที่ธรรมดามาก ค่อนไปทางน่าผิดหวัง คิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่คิดว่าคงแก้ไขได้ด้วยอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันถัดไป เพราะมือถือรุ่นนี้มี OTA มาเรื่อยๆ และทาง UMi เองก็ยืนยันว่าได้ไปต่อกับ Android 7.0 Nougat แน่นอนภายในปีนี้ วันนี้ขออนุญาตจบการรีวิวเพียงเท่านี้ โอกาสหน้าเจอกันใหม่ สวัสดีครับ

umi-super-review-end.jpg