Samsung Galaxy Tab S กับการกลับมาของหน้าจอ Super AMOLED บนแท็บเล็ตเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยนำมาใช้กับ Tab 7.7 เมื่อตอนปีโน้น (นานจนจำไม่ได้) ซึ่งรอบนี้ Samsung ขยับไลน์ขึ้นมาเป็นพรีเมี่ยมแท็บเล็ตด้วยการปรับดีไซน์ใหม่บางทั้งขอบจอ บางทั้งตัวเครื่องซึ่งมั่นใจว่าใครเห็นก็ต้องเดินเข้าไปดูและลองจับครับ พอยกขึ้นมาก็จะรู้ว่ามันเบาอีกต่างหาก ส่วนราคาเปิดตัวของ Tab S 8.4 นั้นอยู่ที่ 16,900 บาท 

รอบนี้ผมไม่ขออะไรมาก แกะกล่องเช็คของแบบเร็วๆ เดี๋ยวรอพรีวิวจากทีมงานอีกทีนะครับ เพราะมีภารกิจเครื่องอื่นรอคิวอยู่

 

ตัวกล่องของ Samsung ยังเป็นกระดาษลายไม้เหมือนเดิม แต่ที่พรีเมี่ยมขึ้นมาคือมีการใช้กระดาษสา (ใช่ไหมหว่า) หรือผ้าอะไรสักอย่างมาทำเป็นซองแทนที่จะใช้พลาสติกครับ

 

ภายในกล่องอันใหญ่โต เปิดมาดูของภายในแล้วรู้สึกแปลกๆ ตรงที่ของมันน้อยกว่าขนาดกล่อง ดูแล้วไม่สมประกอบยังไงไม่รู้ เหมือนมีคนมาหยิบของบางอย่างออกไป ทั้งๆ ที่มันก็มีครบ ทั้งหูฟัง จุกเปลี่ยน หม้อแปลง สาย USB ครบตามนั้น

หยิบเครื่องมาวางข้างๆ กล่อง ลองดูความหนาของมันสิครับ แค่ 6.6 มิลลิเมตรเท่านั้น 

มองจากภาพอาจจะรู้สึกเฉยๆ ลองเทียบกับนิ้วผมแล้วกัน เวลาจับขึ้นมาจะเห็นว่านิ้วผมดูใหญ่มากเลย ฝาผิดช่องใส่ซิมกับใส่ micro SD นี่มันจะเท่าขอบเครื่้องอยู่แล้ว ส่วนช่องดำๆ ถัดไปนั่นคือ IR Blaster หรือรีโมท Infrared นั่นเอง ถัดไปอีกก็ปุ่มปรับเสียง และสุดปลายเครื่องที่โดนกล้องละลายไปคือปุ่ม power

 

ลำโพงนั้นอยู่ที่หัวและท้ายเครื่องแยกเป็นซ้ายขวานะครับ ดูภาพประกอบบนและล่างคู่กันไปเลย ส่วนช่อง Micro USB นัั้นเป็นแบบปกติ ไม่ใช้ 3.0 แฮะ

 

กล้องหลังความละเอียด 8MP มาพร้อมกับ LED Flash เท่าที่ลองเปิดแอพกล้องดูมีโหมดถ่ายภาพครบเหมือนกับในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เลย ส่วนฝาหลังใช้ลวดลายแบบเดียวกับ S5 แต่ส่วนตัวผมไม่ชอบลายบน S5 เลย คือมันไม่สวย แต่พอมาอยู่บน Tablet S แล้วมันคนละแบบ คือดูสวยกว่า ไม่แน่ใจว่าเพราะลายและจุดมันต่างกันหรือเปล่า

 

ส่วนที่เป็นปุ่มกลมๆ หลายคนสงสัยว่ามันมีไว้ทำอะไร มันคือตัวล็อค Smart Cover ครับ

 

เปิดเครื่องมาแล้ว โอ้ว! จอสวยจริงๆ 2560 x 1600 ละเอียดเนียนกริ๊บ ใครที่ยังทนใช้ Tab 7.7 เพราะจอ Super AMOLED คงได้ฤกษ์เปลี่ยนเครื่องกันซะที งานนี้บอกเลยว่าฟิน อ้อ กล้องหน้าความละเอียด 2MP นะครับ

 

ด้วยความที่ขอบจอมันบางมาก ผมเลยสามารถถือ Tablet S 8.4 ใช้งานมือเดียวได้ประมาณนี้ คือยกขึ้นแนบหูโทรได้พอดี ซึ่งปกติจอ 8 นิ้วทั่วๆ ไปนี่ถือยากกว่านี้เยอะครับ

 

แอพพลิเคชั่นและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ Samsung มีในสมาร์ทโฟนตัวท็อปหรือ Note Pro เจ้านี้ก็มีหมด (ขาดก็แต่การรองรับ S Pen) มีทั้ง Smart Remote, Side Sync และ Hancom Office (แต่โดนลดสเปคเหลือแค่ Viewer อ่านได้อย่างเดียว ฮ่าๆ)  (ในเครื่องมาเป็น viewer แต่สามารถโหลดเวอร์ชั่นเต็มได้จาก Galaxy App Store)

 

หน่วยความจำ  16GB ในตัวเครื่องนั้นถูกแบ่งสันปันส่วนไปกับระบบ สุดท้านเหลือให้ใช้งานประมาณ 10 GB

เดี๋ยวก่อนๆ เหมือนผมจะเริ่มไปรุกล้ำงานคนอื่นซะแล้วครับ ลืมไปว่าบล็อกนี้แค่แกะกล่องเท่านั้น งั้นผมเองขอตัวเอาไว้เท่านี้ก่อน รอติดตาม พรีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 ได้เร็วๆ นี้ครับ