หลังจากเปิดตัว Fire Phone เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะคาดไม่ถึง (เงิบ) ไม่คิดว่าราคาของ Fire Phone จะสูงขนาดนี้ (ราคา $649 เทียบเท่า flag ship แบรนอื่นๆ ที่ขายในอเมริกา) ผิดกับภาพลักษณ์เก่าๆ ที่เราเห็นใน Kindle Fire แท็บแล็ตจาก Amazon ที่เน้นราคาถูกแล้วไปหารายได้จาก Content แทน 

แต่ราคาที่แพงของ Fire Phone นี้มีที่มาที่ไปซึ่งจะกล่าวถึงในภายหลัง โดยเราจะพูดถึง 4 ฟีเจอร์เด็ดของ Fire Phone กันก่อนว่ามันมีดีพอแค่ไหนที่จะมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศอเมริกาที่ Apple และ Samsung ครองมายาวนาน

Dynamic Perspective (มุมมองแบบไดนามิก)

จะเห็นได้ว่าทั้งสี่มุมของ Fire Phone จะมีกล้องหน้าฝังอยู่ด้วยกัน 4 ตัว  ซึ่งกล้องทั้ง 4 ตัวนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อถ่าย selfie หรือถ่ายรูปออกมาเป็น 3 มิติ แต่มีไว้เพื่อเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวใบหน้าและหัวของผู้ใช้ เพื่อทำให้ Fire Phone สามารถแสดงข้อมูลออกมาในรูปแบบกึ่ง 3 มิติ (2.5 มิติ: pseudo-3D) หรือแบบไดนามิกได้ ซึ่ง Amazon เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Dynamic Perspective หรือมุมมองแบบไดนามิก

เช่นดังรูปด้านบน กล้องทั้งสี่จะตรวจจับใบหน้าและหัวของผู้ใช้ ถ้ามันตรวจพบว่าเรามีการเลื่อนหน้าหรือเอียงโทรศัพท์ หน้าจอก็อาจจะแสดงผลข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งในรูปด้านบนก็แสดงให้เห็นถึงแผนที่ เมื่อเราเปลี่ยนมุมในการมองโทรศัพท์ หน้าจอก็จะแสดงรีวิวของร้านอาหาร เป็นต้น ถ้ายังเห็นภาพไม่ชัดลองดูวิดีโอจาก CNET ที่แสดงตัวอย่างของ Dynamic Perspective ในรูปแบบของเกม live wallpaper เป็นต้น

Play video

Firefly

เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายๆ กับแอพ Google Goggles ที่ใช้ภาพถ่ายจากกล้องหลังค้นหาข้อมูลจาก Google แต่ Firefly นอกจากจะไว้ใช้หาข้อมูลแล้ว ยังจำแนกข้อมูลออกมาเป็น URL เบอร์โทรศัพท์ หรือ email ให้เราเลือกได้ว่าจะจดบันทึกไว้หรือจะโทรออก ส่ง email หรือจะเข้าเว็บตาม URL นั้น นอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายแล้ว Firefly ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเสียงเพื่อค้นหาเพลงจากเสียงเพลงหรือค้นหาภาพยนต์จากบทสนทนาในภาพยนต์ได้ 

แต่การค้นหาข้อมูลของ Firefly จะเป็นการค้นหาในฐานข้อมูลจาก Amazon เช่นจำพวกสินค้า เพลง หนังสือ หรือภาพยนต์ ดูวิดีโอเพิ่มเติมจาก CNet ได้ด้านล่าง

Play video

Mayday

Mayday เป็นผู้ช่วยส่วนตัวจากคนจริงๆ ที่จะคอยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการหรือแท็บแล็ตและสมาร์ทโฟนของ Amazon ผ่านทางวิดีโอคอลตลอด 24 ชม.

Play video

โดยฟีเจอร์นี้มีมาก่อนบนแท็บแล็ต Kindle Fire HDX ซึ่งผู้ใช้กว่า 75% ต่างก็เคยทดลองใช้บริการนี้ โดย Mayday นอกจากจะไขข้อข้องใจหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการของ Amazon แล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องจิปาถะด้วย เช่น ช่วยผ่านด่าน Angry Bird หรือแม้กระทั่งการขอเดทกับพนักงาน รวมไปถึงการขอแต่งงานด้วย!!! – blognone

Amazon Prime

เป็นบริการเช่าดูภาพยนต์และรายการทีวีแบบบุฟเฟ่ต์จาก Amazon ซึ่ง Amazon ให้ผู้ที่ซื้อ Fire Phone ใช้ฟรี 12 เดือน โดยบริการนี้ปกติต้องจ่ายรายเดือน $99 ต่อเดือน นอกจากนี้ยัง Amazon ยังให้เนื่อที่บนกลุ่มเมฆ (Cloud) แบบไม่จำกัดสำหรับเก็บรูปภาพอีกด้วย

และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Fire Phone ถึงแพง เพราะเหมือนเหมารวมค่าบริการ Amazon Prime ฟรี 12 เดือนลงในค่าโทรศัพท์แล้ว ซึ่งในไทยดูเหมือนว่าบริการหลายๆ อย่างของ Amazon จะยังใช้ไม่ได้ นั่นก็รวมไปถึง Amazon Prime ด้วย (ถ้าจะใช้จริงต้องทำ VPN) กอรปกับ Content ส่วนใหญ่ใน Amazon เป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ ถ้าหากซื้อมาใช้ที่ไทยแล้วคงจะไม่คุ้มซักเท่าไร 

ปิดท้ายด้วยวิดีโอ Hand-on จาก Android Central

Play video

ที่มา Amazon

อ่านสเปกเพิ่มเติมได้ที่ https://droidsans.com/amazon-annouced-fire-phone