สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน มาพบกันอีกแล้วกับบทความรีวิวมือถือ ที่คราวนี้ผมภูมิใจนำเสนอมากกับเจ้า vivo V3Max สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ระดับ Super Mid-range ที่จัดเต็มมาทั้งสเปก, งานออกแบบที่สวยหรู และ Package ที่เพียบพร้อมอุปกรณ์เสริมครบครัน ด้วยราคาสุดคุ้มค่าเพียง 12,990 บาทเท่านั้น โดยมือถือรุ่นนี้ยังใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 ตัวใหม่ วางจำหน่ายเป็นรุ่นแรกในประเทศไทยด้วย นอกจากนั้นรุ่นนี้มีดีอะไรอีกบ้าง เรามาดูรายละเอียดกันเลย

  

vivo เป็นบริษัทผู้ผลิตมือถือจากประเทศจีนที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนานพอสมควรแล้ว โดยจุดเด่นของมือถือ vivo คือ “เสียงดี ราคาคุ้มค่า” เพราะมีการใส่ชิปเสียงระดับท็อปเข้ามาอยู่เสมอ และสำหรับ vivo V3Max ก็เป็นอีกรุ่นที่ยังคงอยู่ในแนวทางนี้ รวมไปถึงงานออกแบบตัวเครื่องที่สวยงามตามแบบพิมพ์นิยม และสเปกที่อัดแน่นมาเรียกว่าเกินราคาค่าตัวไปพอสมควรเลยล่ะครับ

 

แกะกล่อง vivo V3Max

เริ่มต้นเรามาแกะกล่อง Package ของ vivo V3Max กันก่อน โดยกล่องเป็นกระดาษแข็งแบบฝาครอบเปิดในแนวนอน มีโลโก้ V3Max สีเงินเหลือบทองตัวเบ้อเริ่มอยู่ตรงกลาง

vivo-v3max-review-unbox01.jpg

 

เปิดฝาออกมาก็เจอ vivo V3Max นอนรออยู่ในพลาสติกสีขุ่น มีตัวหนังสือหยุบหยับ

vivo-v3max-review-unbox02.jpg

 

ตัวหนังสือที่อยู่บนพลาสติกจะบอกวิธีใส่ SIM ก่อนเปิดใช้งาน โดยรุ่นนี้เป็นถาด SIM แบบ Hybrid ใช้ได้ 2 SIM หรือ 1 SIM + 1 MicroSD card

vivo-v3max-review-unbox03.jpg

 

และนี่ก็คืออุปกรณ์ที่จัดเรียงกันอยู่ในกล่อง เดี๋ยวเรามาดูกันว่าใน Package มีอะไรบ้าง

vivo-v3max-review-unbox04.jpg

 

ในกล่อง Package ของ vivo V3Max จะมีของมาให้ดังนี้

  • มือถือ vivo V3Max

  • เข็มจิ้มถาดซิม

  • สาย USB

  • Adaptor สำหรับชาร์จ รองรับระบบ Dual-Chip Flash-Charging

  • หูฟัง Smalltalk

  • สาย OTG

  • เคสซิลิโคนใส

vivo-v3max-review-unbox05.jpg

 

แต่สำหรับ Package ที่ขายจริงผมเห็นว่าจะมีของแถม Gift Pack เป็นกล่องให้ด้วยนะครับ ประกอบด้วย ไม้เซลฟี่,​ฟิล์มกระจก และเคส ให้ลองเช็คดูอีกที

 

vivo-v3max-review-unbox06.jpg

Adapter จ่ายไฟ 2 ระดับคือ 5V 2A และ 9V 2A สำหรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Chip Flash-Charging

 

vivo-v3max-review-unbox07.jpg

สาย OTG แถมมาเลย ไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม

 

vivo-v3max-review-unbox08.jpg

เคสซิลิโคนใสตรงรุ่น เว้นช่องไว้เป๊ะๆ ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

 

vivo-v3max-review-unbox09.jpg

เครื่องรีวิวติดฟิล์มกระจกมาให้แล้ว

 

เป็นไงบ้างครับสำหรับ Package ของ vivo V3Max เรียกว่าจัดของแถมมาให้ครบทุกอย่าง ไม่ต้องซื้อมาใช้เองเพิ่มเติมแล้ว

 

สเปกของ vivo V3Max

vivo-v3max-review-spec.jpg

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : vivo v3Max

  • สัดส่วน : 153.9 × 77.1 × 7.58 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก : 168 กรัม

  • หน้าจอ : IPS LCD 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1920×1080 พิกเซล

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G : LTE 850 / 900 / 1800 / 2100 / 2600

    • 3G : WCDMA 850 / 900 / 2100

    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900

  • SIM : 2 SIM แบบ Nano-SIM (Dual standby)

  • CPU : Qualcomm Snapdragon 652 1.8GHz Octa-core 64bit

  • GPU : Adreno 510

  • RAM : 4GB

  • หน่วยความจำภายใน : 32GB รองรับ SD card สูงสุดที่ 128GB

  • กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล

  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสแบบ PDAF และ LED flash

  • แบตเตอรี่ : 3000mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

  • OS : Funtouch OS 2.6 บน Android 5.1 Lollipop

  • NFC : ไม่มี

  • OTG : มี

  • ไฟแจ้งเตือน : มี

  • ชิปเสียง : AKM AK4375 Hi-Fi

  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

    • A-GPS, GLONASS, Beidou, Digital compass

    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n dual band

    • Bluetooth 4.1 LE, A2DP

    • microUSB 2.0

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    • Accelerometer, Proximity, Light, Gyrometer

 

สเปกของ vivo V3Max นั้นจัดอยู่ในระดับ Super Mid-range เลย ถือว่าจัดมาให้อย่างเต็มที่ของมือถือระดับนี้ ทั้งหน่วยประมวล Snapdragon 652 และ GPU Adreno 510 รุ่นใหม่ของปี 2016 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกของประเทศไทยเลย นอกจากนั้นยังให้ RAM มาถึง 4GB และ ROM อีก 32GB เรียกว่าเหลือเฟือมาก

ในส่วนของชิปเสียงที่เป็นจุดเด่นของมือถือ vivo อยู่แล้วก็ให้มาเป็น AKM AK4375 เพื่อให้เสียงระดับ Hi-Fi สำหรับการฟังเพลงผ่านหูฟัง ถ้าคุณเป็นคนฟังเพลงผ่านมือถืออยู่แล้ว คุณจะไม่ผิดหวังกับเสียงของรุ่นนี้แน่นอน

 

งานออกแบบ Hardware

vivo V3Max ยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมาๆไม่เสื่อมคลาย และต้นแบบคงไม่ใช่มือถือรุ่นไหนนอกจาก iPhone 6 ที่ถือว่าเป็น “พิมพ์นิยม” สำหรับมือถือหลายรุ่นในปัจจุบัน โดยเฉพาะมือถือจากผู้ผลิตจีนนั้นจะมาทรงนี้กันซะเยอะ วัสดุโลหะที่ใช้ทำตัวเครื่อง, กระจกหน้าจอ 2.5D และงานประกอบที่แน่นหนา คืองานออกแบบระดับพรีเมียมที่การันตีว่าโดนและขายได้แน่นอน โดย V3Max จะมีการเคลือบสารแบบพิเศษให้ตัวเครื่องดูหรูและแวววาวเหมือนโลหะมากขึ้น อ้อ ส่วนบนและล่างนั่นเป็นพลาสติกนะครับ มีไว้เพื่อให้รับสัญญาณมือถือได้

vivo-v3max-review-design01.jpg

 

การจับถือในมือนั้นถือว่า vivo V3Max เป็นมือถือที่ใหญ่นิดๆ และตัวเครื่องที่ค่อนข้างบาง ทำให้อาจจะหลุดมือได้ง่าย ต้องระวังกันสักหน่อย ผิวสัมผัสตัวเครื่องนั้นลื่นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ได้ความเรียบหรูและความรู้สึกแบบพรีเมียมมาแทน

ส่วนตำแหน่งของ “เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ” ที่อยู่ด้านหลังเครื่อง ก็เพื่อให้ตรงกับนิ้วชี้เวลาถือโทรศัพท์อยู่ในมือพอดิบพอดี และสามารถปลดล็อคเครื่องได้ไวมากเพียง 0.5 วินาทีเท่านั้น แถมยังมีฟีเจอร์แสกนลายนิ้วมือแบบ 360 องศา เรียกว่าถือเครื่องกลับหัวอยู่ก็ปลดล็อคได้ อันนี้ผมชอบมากเลย

 

รอบตัวเครื่อง

ด้านล่างจะมีรูเสียบสาย USB อยู่ตรงกลาง ส่วนทางซ้ายเป็นลำโพงที่ต้องบอกว่า เสียงดีและดังพอสมควร สมกับเป็นมือถือ Hi-Fi เลยครับ ส่วนทางขวาเป็นรูไมค์สนทนา

vivo-v3max-review-design02.jpg

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นช่องถาดซิมต้องใช้เข็มจิ้มออกมา

vivo-v3max-review-design03.jpg

 

จิ้มถาดซิมออกมาดูกันสักหน่อย

vivo-v3max-review-design03-1.jpg

 

ถาดซิมของ vivo V3Max เป็นแบบ hybrid ใส่ได้พร้อมกัน 2 ซิม โดย SIM1 เป็น MicroSIM และ SIM2 เป็น NanoSIM หรือจะใส่แบบ SIM1 กับใส่ microSD card ในช่อง SIM2 ก็ได้

vivo-v3max-review-design03-2.jpg

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงรูเสียบหูฟัง 3.5 มม.เท่านั้น แต่ก็ถือเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม

vivo-v3max-review-design04.jpg

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเสียงแบบ Volumn Rockr และปุ่ม Power อยู่ถัดลงไป ตามมาตรฐานของมือถือ Android ทั่วไป

vivo-v3max-review-design05.jpg

 

มาดูด้านหน้าตัวเครื่องกันบ้าง ส่วนบนจะลำโพงสนทนาอยู่ตรงกลาง ทางซ้ายคือกล้องหน้า และทางขวาคือช่องเซ็นเซอร์ Proximity และเซ็นเซอร์วัดแสง

vivo-v3max-review-design06.jpg

 

ส่วนล่างของด้านหน้าเป็นปุ่มสัมผัสแบบ capacitive มี 3 ปุ่มคือ Menu, Home และ Back 

vivo-v3max-review-design07.jpg

 

อ้อ มือถือรุ่นนี้มีไฟแจ้งเตือนหรือ Notification LED ด้วยนะครับ เป็นสีเขียวสีเดียว

vivo-v3max-review-design08.jpg

 

ด้านหลังของเครื่องประกอบด้วย กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและไฟแฟลชอยู่มุมซ้ายบน ถัดลงมาตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และโลโก้ vivo ตรงกลางเครื่องเลย

vivo-v3max-review-design09.jpg

 

โดยรวมงานออกแบบของ vivo V3Max ยังถือว่า play-safe ไม่เอามีอะไรใหม่มากนัก ยังคงสืบทอดเอกลักษณ์มากจากรุ่นก่อนหน้าเหมือนเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนส่วนใหญ่ยังคงชอบงานดีไซน์แบบนี้อยู่อย่างที่บอกไป มือถือรุ่นนี้จึงจัดเป็นมือถือพรีเมียมอีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่มีราคาเพียง 12,990 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยครับ

 

ระบบปฎิบัติการ Funtouch OS

vivo-v3max-review-software01.jpg

vivo V3Max มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS เวอร์ชัน 2.6 ที่พัฒนาบน Android 5.1 Lollipop ซึ่งถือว่าเก่าไปนิดสำหรับมือถือในปี 2016 ที่ควรจะเป็น Android 6.0 Marshmallow ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม Funtouch OS ก็เปลี่ยนโฉมหน้าของ Android มาตรฐานไปจนจำไม่ได้อยู่แล้ว

 

Homescreen

vivo-v3max-review-software02.jpg

Homescreen หรือ Launcher ของ Funtouch OS จะไม่มี App Drawer ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของมือถือจากประเทศจีนที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว โดยแอพทุกตัวจะวางเรียงอยู่บนหน้า Home ทั้งหมด ดังนั้นการลบแอพออกจากหน้าจอคือ uninstall แอพออกจากเครื่อง สำหรับ Homescreen นั้นมีได้ทั้งหมด 9 หน้าและเราสามารถจัดเรียงลำดับหน้าได้เอง ซึ่งหน้าที่อยู่ซ้ายบนสุดคือ หน้าแรกที่เวลากดปุ่ม Home จะกลับมาหน้านี้เสมอ นอกจากนั้นเรายังสามารถสร้าง folder และเพิ่ม Widget บนหน้าจอได้ตามปกติ

 

Task manager และ Quick settings

Play video

สำหรับ Task manager และ Quick settings จะเข้าถึงได้ด้วยการลากนิ้วจากล่างขึ้นบน แบบเดียวกับของ iOS โดยด้านบนสุดคือ Task manager ที่จะมีรายการแอพที่เปิดอยู่ เราสามารถเอานิ้วปัดแอพทิ้งได้ เพื่อเป็นการปิดแอพนั้นจากหน่วยความจำ นอกจากนั้นเรายังจัดการ White list ซึ่งเป็นการล็อคแอพไว้ในหน่วยความจำไม่ให้โดนปิดโดยอัตโนมัติได้ วิธีการคือ แตะค้างที่แอพนั้นแล้วจะมีเมนูขึ้นมาให้เพิ่มหรือลบแอพออกจาก White list ได้

ด้านล่างสุดคือ Quick settings ที่จะมีปุ่มให้เราเลือกเปิด-ปิดฟีเจอร์ต่างๆได้ เช่น Wifi, ไฟฉาย, Data, Airplane mode เป็นต้น นอกจากนั้นเรายังสามารถจัดเรียง, เพิ่ม หรือลดปุ่มต่างๆนี้ได้เองด้วย

 

Super screenshot

Play video

สุดยอดฟีเจอร์หนึ่งของ Funtouch OS คือการจับภาพหน้าจอได้แบบอิสระ โดยเลือกส่วนของหน้าจอที่ต้องการจับภาพได้ จะจับภาพเป็นแบบสี่เหลี่ยมหรือรูปทรงอะไรก็ได้ตามสะดวก นอกจากนั้นยังมี Long screenshot ที่สามารถจับภาพหน้าจอได้ยาวเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเว็บไซต์หรือ chat log ที่คุยกันยาวเหยียดก็ไม่หวั่น มีประโยชน์มากๆครับ

 

Smart motion

vivo-v3max-review-software04.jpg

ฟีเจอร์นี้ใช้สำหรับตอนที่หน้าจอดับ เราสามารถวาดเส้นตรงขึ้นเพื่อปลดล็อคเครื่อง, วางลงเพื่อเปิดกล้อง หรือวาดตัวอักษรเพื่อเปิดแอพต่างๆได้ เช่น ตัว C จะเปิด dialer, ตัว e เปิด browser หรือ ตัว f เปิด Facebook เป็นต้น หรือถ้ายังไม่พอ เราสามารถเพิ่มลายเส้นหรือรูปแบบที่ต้องการเปิดแอพเพิ่มได้เองด้วย นอกจากนั้นยังมี Smart turn on/off screen ฟีเจอร์ที่หลายคนชื่นชอน มันคือ การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหรือปิดหน้าจอนั่นเอง

 

Smart Multi-screen

vivo-v3max-review-software05.jpg

เป็นฟีเจอร์แบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อเปิด 2 แอพพร้อมกันคล้ายๆกับ Multi-Window ของ Samsung แต่จะไม่เหมือนตรงที่เราไม่สามารถสั่งให้แบ่งหน้าจอตอนไหนก็ได้ ทำได้เฉพาะตอนดูแอพแบบเต็มจอ และรองรับแค่ 4 แอพเท่านั้น คือ Facebook, Line, Messages และ WhatsApp วิธีการใช้งานคือ

เมื่อเรากำลังเปิดแอพแบบเต็มหน้าจออยู่ แล้วมีการแจ้งเตือนจากแอพ เช่น Line ขึ้นมา มันจะมีไอคอน Line เล็กๆโผล่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ให้เราแตะที่ไอคอนเพื่อเปิด Line

vivo-v3max-review-software06.jpg

 

Line จะเปิดขึ้นมาเป็นครึ่งหน้าจอ แล้วเราก็ใช้งานได้ 2 แอพพร้อมกันเลยครับ

vivo-v3max-review-software07.jpg

 

One-handed

vivo-v3max-review-software08.jpg

เนื่องจากเป็นมือถือจอใหญ่ก็ต้องมีฟีเจอร์ใช้งานมือเดียว (One-handed) มาให้ด้วยเป็นเรื่องปกติ โดยเราสามารถย่อขนาดหน้าจอลงเพื่อรองรับการใช้งานมือเดียวได้ง่ายๆ ด้วยการลากนิ้วจากขอบจอเข้ามาแล้วลากกลับแบบเร็วๆ ทำได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา นอกจากนั้นยังปรับขนาดและเลื่อนตำแหน่งของหน้าจอเล็กได้อีกด้วย

 

Smart click

vivo-v3max-review-software09.jpg

คือการตั้งให้การปุ่มลดเสียงค้างไว้ ตอนที่หน้าจอดับอยู่ สามารถทำงานบางอย่างได้ เช่น เปิด-ปิดไฟฉาย, อัดเสียง หรือเปิดกล้อง เป็นต้น

 

i Theme

vivo-v3max-review-software10.jpg

เราสามารถเปลี่ยน Theme ในเครื่องได้หลากหลายรูปแบบ โดยสามารถ download มาเพิ่มเติมได้ มีทั้งแบบเปลี่ยนเฉพาะไอคอนกับ Wallpaper และแบบเปลี่ยนหน้าตาทุกส่วนของระบบเลย นอกจากนั้นยังเลือกเปลี่ยนเฉพาะ Wallpaper หรือเปลี่ยนเฉพาะ Lockscreen ก็ได้เช่นกัน

โดยรวมเรียกได้ว่า Funtouch OS คือระบบปฏิบัติการของ vivo เองโดยสมบูรณ์ ถึงแม้จะพัฒนาบนพื้นฐานของ Android แต่ก็ไม่เหลือเค้าหน้าตาของ Stock Android เลยสักนิด แถมยังมีฟีเจอร์อัดแน่นมาอย่างมากมาย ที่รีวิวนี้ก็ยังพูดไม่หมดก็อีกเยอะแยะเลยครับ เรียกว่าเล่นกันสนุกเหมือนชื่อ Funtouch เลยล่ะ

 

เรื่อง Software update

vivo-v3max-review-software11.jpg

มือถือของ vivo นั้นเป็นที่เลื่องลือกันในเรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆอยู่เสมอ เพราะทุกวันนี้เวลา Google ประกาศปล่อยอัพเดต Android เวอร์ชั่นใหม่ ผู้ใช้ก็จะเริ่มถามแล้วว่า มือถือตัวเองจะได้อัพเดตเมื่อไหร่? แต่สำหรับสาวก vivo จะเปลี่ยนคำถามเป็น มือถือตัวเองจะได้อัพเดตหรือเปล่า? เพราะต้องมาลุ้นกันรุ่นต่อรุ่นว่า vivo จะอัพให้หรือไม่ แต่จะให้ Fair ต้องบอกว่า มือถือ vivo มีการอัพเดตอยู่เสมอครับ อย่างเครื่อง V3Max นี่ระหว่างรีวิวก็มี OTA มาถึง 4 ครั้ง เป็นการอัพเดตแก้ปัญหาการใช้งานและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ vivo ไม่ได้ละเลยเรื่องประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ เพียงแต่การอัพเดตข้ามเวอร์ชัน Android นั้นเป็นอีกเรื่องที่แฟนๆอยากเห็น และจะทำให้มือถือ vivo สมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก

แต่สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องนี้ มือถือ vivo นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าระดับต้นๆของยุคนี้เลยทีเดียว วันแรกที่ซื้อมันทำงานได้ดียังไง ก็ยังคงจะทำงานได้อย่างนั้นต่อไปแน่นอนครับ

 

ประสิทธิภาพ, พิ้นที่หน่วยความจำ และความอึดของแบตเตอรี่

vivo จัดสเปกแบบเน้นหนักประสิทธิภาพมาให้กับ V3Max อยู่แล้ว เลือกใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 652 octa-core ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Cortex-A72 อัพเกรดมาจาก Cortex-A57 โดย 8 core ของ Snapdragon 652 แบ่งเป็น 4 Cortex-A72 ความเร็ว 1.8GHz และ 4 Cortex-A53 ความเร็ว 1.4GHz สำหรับ GPU ก็ไม่ธรรมดาเป็น Adreno 510 พร้อมทั้งให้ RAM มาถึง 4GB มากที่สุดในมือถือระดับ Mid-range เลย จัดเต็มมาให้ขนาดนี้ เรามาดูคะแนน benchmark กันครับ

vivo-v3max-review-performance01.jpg

Antutu Benchmark

 

vivo-v3max-review-performance02.jpg

Geekbench 3

 

จากคะแนน benchmark โดยรวมจะเห็นว่า vivo V3Max มีประสิทธิภาพจัดอยู่ในระดับมือถือเรือธงของปี 2015 เลยทีเดียว ถือว่า vivo เลือกไม่ผิดที่ใช้ CPU Snapdragon 652 ที่มาพร้อม GPU Adreno 510 ที่เล่นเกมส์ได้สบาย และการให้ RAM ถึง 4GB ก็ยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีก ในส่วนของ Funtouch OS ก็มีการปรับจูนเรื่องประสิทธิภาพมาดีมากๆ การใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่พบอาการกระตุกใดๆทั้งสื้น ถึงแม้จะเป็นแค่ Android 5.1.1 ก็ยังลื่น น่าสนใจว่าถ้าได้อัพเกรดเป็น Android 6.0 Marshmallow นี่จะขนาดไหน นอกจากนั้นเครื่องก็ไม่ร้อนเลย ถึงแม้จะใช้งานหนัก แค่อุ่นๆนิดหน่อย ถือว่า Qualcomm จัดการเรื่องระบายความร้อนได้ดีสำหรับ CPU รุ่นนี้

 

vivo-v3max-review-performance03.jpg

สำหรับเรื่องปัญหาการแบ่ง partition หน่วยความจำของมือถือ vivo ที่ขัดใจแฟนๆมาหลายรุ่น ตอนนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะ vivo V3Max รวม partition ให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวใช้งานกันเต็มที่เหมือนมือถือยี่ห้ออื่นเรียบร้อยครับ

 

vivo-v3max-review-performance04.jpg

แบตเตอรี่ขนาด 3000mAh ของ vivo V3Max นั้นถือว่าให้มาเพียงพอสำหรับการใช้งานได้เต็มวัน โดยผมสามารถถอดสายชาร์จตอนเช้าไปทำงาน เล่นเน็ต, เล่น social app, ดู YouTube และฟังเพลง กลับมาถึงบ้านแบตเตอรี่เหลือประมาณ 10% ก็สามารถชาร์จต่อได้ทันที ไม่มีปัญหาเรื่องแบตหมดไว นอกจากนั้น vivo V3Max ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว Dual-Chip Flash-Charging ที่สามารถชาร์จได้ไวขึ้น 2 เท่า ผมลองชาร์จทิ้งไว้ 30 นาทีจาก 10% ขึ้นไปเกือบ 80% รวดเร็วทันใจดีจริงๆครับ

 

กล้องถ่ายรูป

vivo V3Max มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมค่า aperture ของเลนส์ที่ f/2.0 โดยมีระบบโฟกัสแบบ PDAF (Phase-Detection Autofocus) ที่สามารถโฟกัสได้เร็วเพียง 0.2 วินาที และยังสามารถเปิดกล้องได้เร็วถึง 0.7 วินาทีเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ถ่ายรูป Ultra HD ความละเอียด 52 ล้านพิกเซลอีกด้วย

vivo-v3max-review-camera01.jpg

 

หน้าตา UI กล้องของ V3Max ดูเรียบง่ายใช้งานไม่อยาก ไม่ค่อยมีอะไรมาขวางการถ่ายรูปสักเท่าไหร่ โดยเราสามารถเข้าถึงโหมดพิเศษสำหรับการถ่ายรูปด้วยการกดปุ่ม … ที่มุมบนซ้าย ซึ่งจะมีโหมดเสริมให้ใช้อีกมากมาย โดยหลังจากโฟกัสแล้วเราสามารถปรับความสว่างได้เองด้วยการเลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงด้วยครับ

vivo-v3max-review-camera02.jpg

 

โหมดถ่ายรูปที่มีให้เล่นมากมายทั้ง Night, Motion track, Fast, Panorama, PPT, Slow, HDR, Ultra HD และ Professional

vivo-v3max-review-camera03.jpg

 

นอกจากนั้นยังมี Filter อีกมหาศาลให้เลือกใช้กันอย่างจุใจ แบ่งเป็นประเภทไว้หลายแบบทั้ง Portrait, Cate, Film, Time และ Style

vivo-v3max-review-camera04.jpg

 

โหมด Professional สำหรับท่านทั้งหลายที่ชอบปรับค่าเองในการถ่ายรูป สามารถปรับได้ทั้ง EV, ISO, Speed shutter และ White balance

vivo-v3max-review-camera05.jpg

Speed shutter ปรับได้ตั้งแต่ 1/5000 – 16 วินาที

 

vivo-v3max-review-camera06.jpg

ISO ปรับได้ตั้งแต่ 100 – 3200

 

คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องนั้นถือว่าทำได้ดีเกินกว่าระดับมือถือ Mid-range ทั่วไป เรียกว่าไม่เสียชื่อ vivo เลย รูปมีความคมชัดและสีที่ค่อนข้างเที่ยงตรง Dynamic range ก็ทำได้ดี โดยรวมถือว่าดีสำหรับมือถือราคาระดับนี้ เรามาดูตัวอย่างภาพดีกว่า

 

 

No HDR

 

HDR

 

Ultra HD

Normal

 

อัลบั้มเต็ม 

 

กล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด FullHD 1080p@30fps คุณภาพถือว่าธรรมดา ยังไม่ดีมาก และมีปัญหาเรื่อง focus หลุดเรื่อยๆในระหว่างถ่าย

Play video

Play video

 

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็ทำได้ดีสำหรับการถ่ายรูป Selfie แน่นอนว่ามีโหมด Face beauty มาให้คุณผู้หญิงได้ถ่ายรูปหน้าเนียนตอบกันเต็มที่ หรือจะเพิ่มเครื่องสำอางลงบนหน้าก็ยังได้ แถมยังให้เราเห็นผลแบบ realtime ไม่ต้องถ่ายแล้วค่อยดูเลยครับ

Normal

Face beauty

 

บทสรุป

vivo V3Max จัดเป็นมือถือที่มีความดีรอบด้านทั้งในเรื่องสเปก, งานประกอบ, ระบบเสียง, กล้อง และประสิทธิภาพความลื่นไหลในการใช้งาน ด้วยราคา 12,990 บาท แล้วได้มือถือสเปกระดับนี้ ประสิทธิภาพระดับนี้ ถือเป็นเรื่องไม่ลำบากใจสำหรับผม ที่จะแนะนำให้ใครสักคนซื้อมือถือรุ่นนี้ (จริงๆสเปกแบบนี้บางยี่ห้อตั้งราคาระดับเรือธงด้วยซ้ำไป) ชิปเสียงระบบ Hi-Fi คือความดีงามที่ทำให้คนชอบฟังเพลงตกหลุมรักมือถือรุ่นนี้ได้ไม่ยาก ผมขอสรุปจุดเด่นและจุดด้อยของมือถือรุ่นนี้ไว้ดังนี้

จุดเด่น

  • วัสดุพรีเมียม งามประกอบ

  • ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ตอบสนองรวดเร็ว

  • ระบบเสียงดีมากทั้งจากลำโพงและหูฟัง

  • สแกนนิ้วเร็วทันใจสุดๆ แถม 360 องศาได้ด้วย

  • ของแถมใน Package ครบครัน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

  • ราคาคุ้มค่า

จุดด้อย

  • งานออกแบบคล้ายของเดิม จุดต่างน้อย

  • Android 5.1.1 เก่าไปนิดสำหรับปี 2016

  • มีให้เลือกสีเดียวคือ สีทอง

  • ถ่ายวิดีโอมีปัญหา refocus บ่อย

หากคุณมองหามือถือดีๆสักรุ่นในราคาไม่แพงมาก แต่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมและการฟังเสียงที่สุนทรีย์สุดๆ vivo V3Max คือตัวเลือกระดับต้นๆที่คุณต้องพิจารณา แต่ถ้าคุณไม่สามารถมองข้ามเรื่องเวอร์ชั่นของ Android และอัพเดตที่จะตามมาในอนาคตได้ คุณก็ลองช่างน้ำหนักดูว่าคุณให้ความสำคัญกับมันขนาดไหน สำหรับคนไม่ซีเรียสเรื่องนี้ นี่คือมือถือที่คุณสามารถใช้งานได้ยาวๆอย่างน้อย 2 ปีเลยล่ะครับ อ้อ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ vivo V3Max คือมือถือของกัปตันอเมริกาด้วยนะครับ อิอิ วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ