ตอนนี้มีข่าวหนาหู Samsung บิ๊กเบิ้มของวงการสมาร์ทโฟน เตรียมเจรจาขอเข้าซื้อหุ้นจาก ARM เพื่อหวังว่าจะลดค่า Royalty Payments หรือค่าตอบแทนในการเข้าถึงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิปเซ็ตของ ARM นั่นเอง

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า จุดประสงค์ในการขอซื้อหุ้นจาก ARM ของ Samsung ในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายในส่วน Royalty Payments สำหรับการเข้าใช้เทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิปเซ็ตต่างๆ ที่ ARM ถือสิทธิบัตร โดยปัจจุบันชิป Exynos ของทาง Samsung ก็ถือว่ายังถูกพัฒนาบนพื้นฐานของ CPU Cortex และ GPU Mali ของ ARM อยู่

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่า Apple เตรียมจะยื่นซื้อหุ้นจาก ARM เช่นเดียวกัน คาดว่าจุดประสงค์ก็น่าจะคล้ายๆ กับทาง Samsung หลังจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน ได้เปลี่ยนมาใช้ CPU ที่อยู่บนพื้นฐาน ARM จากเดิมที่ใช้ของ Intel มาโดยตลอด 

 

แหล่งข่าวรายงานว่า Samsung มีความสนใจซื้อหุ้นจาก ARM เพียงแค่ราวๆ 3% – 5% เท่านั้น ทั้งนี้สาเหตุอาจจะเพราะว่า หาก Samsung (หรือ Apple และ Nvidia) ต้องการจะฮุบกิจการ ARM แบบ 100% จริงๆ น่าจะถูกกีดกั้นจากเบื้องบน เนื่องจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันแทบจะทุกรุ่น ต่างมาพร้อมกับชิปเซ็ตที่มีพื้นฐานสถาปัตยกรรมจาก ARM ด้วยกันทั้งสิ้น โดยหาก Samsung ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของ ARM แบบเต็มตัวเจ้าเดียว อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดประเด็นผูกขาดการตลาด หรือ Antitrust ได้

ก่อนหน้านี้ทาง DroidSans ก็เพิ่งเขียนบทความเจาะประเด็นร้อนเมื่อ CEO ชื่อดังของ Tech Giants ถูกเรียกไต่สวนข้อหาผูกขาดการค้าไปแล้วทีนึง ใครสนใจ ลองกดเข้าไปอ่านกันได้คร้าบบ~ 😆

จับประเด็นร้อน เมื่อซีอีโอของ Amazon – Apple – Facebook – Google ถูกเรียกไต่สวนข้อหาผูกขาดการค้า (Antitrust)

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 หรือ 8 ปีที่แล้ว Samsung ก็เคยทำแบบนี้มาแล้วรอบนึง โดยครั้งนั้นพวกเขาได้ขอซื้อหุ้นจาก ASML บริษัทเดียวบนโลกสัญชาติฮอลแลนด์ที่ผลิตเทคโนโลยีสำหรับใช้ในชิป Extreme UltraViolet (EUV) แต่ซื้อมาเพียงแค่ 3% เท่านั้น แต่มูลค่าการซื้อขายก็มีถึง $642 ล้าน หรือประมาณเกือบๆ 2 หมื่นล้านบาท

 

ที่มา: GSMArena