หลังจากได้ทดลองใช้งาน LG PRADA มาประมาณสัปดาห์นิดๆ แล้ว ก็ขอมาเขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ไฮโซไฮซ้อให้เพื่อนๆ ฟังบ้าง ว่าชีวิตติดหรูนี่มันเป็นยังไง มีดีแค่หน้าตา วัสดุ และชื่อหรือไม่ (แต่จริงๆ ราคาก็แรงนิดๆ) ลองมาดูกันสิว่า มือถือ PRADA ที่ LG เคยทำยอดขายถล่มทลายเมื่อตอนช่วงที่มันเป็นแค่ Feature Phone ต๊อกต๋อย พอขยับมาขับเคลื่อนด้วยพลังหุ่นเขียว Android แล้ว จะทำได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่หนอ

อย่างแรกที่ต้องชาบูคือกล่องที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดูหรูหราทีเดียว และตัวเครื่องหน้าจอกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass ขนาด 4.3 นิ้ว ด้านหน้าเรียบหรู ไม่มีตัวหนังสือหรึอปุ่มใดๆ ให้รำคาญใจ แต่มีโลโก้ PRADA โชว์หราอยู่ด้านบน และกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพร้อมถ่าย VDO ได้แบบ HD 720p

ขอบรอบตัวเครื่องเป็นโครเมี่ยมเงาวับ ปุ่มต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยหมุดสีทองเหลือง ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม power หรือส่วนปิดช่อง microUSB และปุ่มเรียกใช้งานกล้องหน้าแบบเก๋ๆ ด้านบนตัวเครื่อง

ฝาหลังเป็นพลาสติกขึ้นรูปพิมพ์ลาย Saffiano เอกสิทธิ์ของ PRADA และยังมาพร้อมกล้องความละเอียด 8 ล้านถ่าย VDO ที่ Full HD 1080p และ LED Flash สำหรับถ่ายภาพในที่มืด

หูฟังหรูหราแปะนี่ห้อ PRADA ก็มีแถมมาในกล่องเช่นกัน

เชิญชมใน VDO Review

== == == LG PRADA VDO Review == == ==

Play video

== == == LG PRADA 8 Mpixel Main Camera Sample == == ==

ตัวอย่างภาพ 8 ล้านจากกล้องหลัก

click เพื่อไปดู Gallery ภาพถ่ายขนาด 8 ล้าน โดย LG PRADA แบบไม่ได้ตกแต่งจ้า ^ ^

== == == LG PRADA 1.3 Mpixel Front Camera Sample == == ==

ตัวอย่างภาพ 1.3 ล้านจากกล้องหน้า

== == == LG PRADA Camcorder Sample == == ==

Play video

จากกล้องหลัง ความละเอียด Full HD 1080p

Play video

จากกล้องหน้า ความละเอียด HD 720p

== == == ล้วง แคะ แกะ spec == == ==

1. UMTS HSDPA หรือ 3G ระดับ H
– LG PRADA รองรับ 3G เครือข่าย AIS และ TOT (900/1900/2100)

2. หน้าจอ Nova Display 4.3 นิ้ว
– LG PRADA ใช้หน้าจอ Nova Display ความละเอียด WVGA 800×480 ขนาด 4.3 นิ้ว ที่ชูจุดขายในเรื่องความสว่างที่มากกว่า และประหยัดพลังงานกว่าจอทั่วไป ให้ภาพคมชัดและสีสันค่อนข้่างตรง เป็นธรรมชาติ หน้าจอเป็น Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วน

3. หน่วยประมวลผล CPU TI-OMAP + GPU PowerVR 540
– LG PRADA ใช้ CPU จากค่าย TI-OMAP ความเร็ว 1 Ghz dual-core พร้อม GPU ของค่าย PowerVR 540 ความแรงไม่เป็น 2 รองใคร สามารถเล่นไฟล์ Full HD ได้สบายๆ ไม่มีกระตุก

4. RAM / Internal Memory
– RAM มีขนาด 1 GB เปิดเครื่องมาเหลือประมาณ 700 MB ได้ ส่วน ROM ขนาด 8 GB ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ System Memory สำหรับติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ประมาณ 2 GB และส่วนที่ใช้เป็น Storage สำหรับภาพเพลงหนังอีก 4 GB สามารถใส่ microSD เพิ่มได้

5. Wireless b/g/n + Bluetooth + NFC
– LG PRADA มี Bluetooth 3.0 ใช้งาน WiFi hotspot ได้ มี NFC สำหรับ tag ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและรองรับ Android Beam ใน ICS

6. GPS with AGPS
– จับสัญญาณได้เร็ว ไม่เกิน 2-3 นาทีถ้าใช้ร่วมกับ Wireless Location Service ด้วย แต่ถ้าเปิดแต่ GPS เฉยๆ นี่กินเวลาประมาณ 4-5 นาที (อยู่ในที่โล่ง ฟ้าเปิด เมฆน้อย)

7. ลำโพง และระบบเสียง
– ลำโพงภายนอกเสียงดัง ถ้าปรับสุดๆ แต่ไม่ถึงกับหูแตก เสียงออกมาจากลำโพงค่อนข้างดี ส่วนหูฟัง PRADA ที่แถมมานัั้นเสียงค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่แอบหนักนิดๆ เพราะเหมือนมันเป็นโลหะ

8. 8 Mpixel auto focus camera + 1.3 front-facing camera
– กล้องหลักความละเอียด 8 ล้าน ความเร็วในการโฟกัสปานกลาง ความเร็วชัตเตอร์ปานกลาง (ลองดูใน VDO รีวิว) สามารถถ่าย VDO ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ส่วนกล้องหน้า 1.3 ล้านยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ภาพออกมาขมุกขมัวไปนิด แต่ยังสามารถใช้กล้องหน้าถ่าย VDO ได้ที่ HD 720p

9. FM Radio
– มี ต้องเสียบ Smalltalk เป็นเสาอากาศ

10. Battery life
– แบตขนาด 1500 mAhm ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง

*ปรับความสว่างหน้าจอลงที่ประมาณ 30% ใช้งานโทรศัพท์ประมาณ 30 นาที เล่นเวบและโซเชียล 60 นาที ถ่ายรูปไปประมาณ 10 รูป เปิด data online ตลอดทั้งวัน สลับไปมาระหว่าง EDGE และ 3G ตามพื่นที่

== == == octopatr ทิ้งทวน == == ==

ต้องขอบอกว่า PRADA เป็นโทรศัพท์ Android เครืองแรกของ LG ที่เล่นแล้วรู้สึกว่ามันลื่น มันแรง ที่สุดของค่ายนี้ ก่อนหน้านี้เคยประทับใจ Optimus Black ในเรื่องของดีไซน์และการใช้งานทั่วๆ ไป และเจ้า LG PRADA นี่ก็นับเป็นตัวที่ 2 ที่ประทับใจ

ในด้านของวัสดุนั้น ผมว่าขึ้นชื่อว่า PRADA แล้ว น่าจะเลือกวัสดุมาให้มันดีกว่านี้ อยากได้ความเป็นหนังบ้างอะไรบ้าง แต่อันนี้มีแต่พลาสติก กับโลหะ แต่รวมๆ แล้วผมก็ว่ามันเรียบหรูดูดีพอสมควร

ถ้าเทียบกับ spec ที่ได้ ประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วปรื้ดๆ พร้อม NFC ที่รองรับ Android Beam ในอนาคตแล้ว ถือว่าเจ้า LG PRADA ที่เปิดตัวมาราคา 19,900 บาท ก็พอจะมีภาษีอยู่บ้าง หลายคนอาจจะมองว่า เอ้ย มันแพงยี่ห้อ หรือมองผ่านๆไป เพราะคิดว่ามันคือ Fashion Phone แล้วละก็ ขอบอกนิดนึงว่า Android ตัวนี้ไม่ธรรมดาครับ

จบแล้วจ้าสำหรับการรีวิว LG PRADA