จนถึงตอนนี้ Huawei ยังหาทางออกในการเจรจาคืนดีกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ ไม่ได้ซักที ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นต่อๆ ไปยังคงไม่สามารถใช้งานบริการของ Google ได้…แต่ล่าสุดก็ได้มีข่าวลือออกมาว่า Huawei เตรียมเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Huawei P40 และ P40 Pro ในช่วงต้นปี 2020 แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าตอนนั้นจะคืนดีกับสหรัฐอเมริกาได้รึยัง

ข้อมูลล่าสุดมาจากสำนักข่าว The Information ว่า Huawei เตรียมเปิดตัวมือถือเรือธงภาคต่ออย่าง Huawei P40 และ P40 Pro ในช่วงต้นปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเปิดตัวของมือถือซีรีส์ Huawei P ในปีที่ผ่านมา

ทำให้มือถือรุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์นี้ไม่สามารถเข้าถึงบริการจาก GMS ได้ เหมือนกับ Huawei Mate 30 และ Huawei Mate 30 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับสเปค+ฟีเจอร์ระดับเทพ ทว่ามือถือดังกล่าวกลับไม่ได้มียอดขายที่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก เนื่องจากเหตุการณ์สงครามการค้า (Trade War) ระหว่าง Huawei กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั่นเอง

Mate 30 Pro มือถือสุดเทพที่ไม่มี GMS

และแน่นอนว่ามือถือระดับเรือธงอย่าง Huawei P40 Pro ก็น่าจะประสบพบเจอกับปัญหาเดียวกันก็คือไม่สามารถใช้งานแอปและบริการต่างๆ ของ Google ได้ เนื่องจากจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี Trade War ออกมาเลย ว่าสุดท้ายแล้ว Huawei กับอเมริกาจะกลับมาควงแขนทำการตลาดกันได้เหมือนเดิมรึยัง

ทางออกของ Huawei กับการไม่มี Google Mobile Services

ตอนนี้มีหลายทฤษฎีมากๆ สำหรับอนาคตสมาร์ทโฟน Huawei กับ Google Mobile Services ว่าสุดท้ายแล้วจะมีแนวโน้มออกมาในทิศทางไหน บ้างก็เชื่อกันว่าเดี๋ยวช่วงต้นปีหน้า รัฐบาลสหรัฐฯ ก็อาจจะอ่อนข้อให้กับ Huawei พร้อมกับออกใบอนุญาตการใช้งานสินค้าบางอย่างจากสหรัฐได้ (ก็คือ Google Mobile Services นั่นเอง) ซึ่งช่วงเวลาต้นปีหน้า ก็จะไปตรงกับช่วงเวลาเดียวกันกับการเปิดตัวมือถือ Huawei P40 Pro พอดี

ซึ่งในส่วนนี้ Richard Yu ซีอีโอคนเก่งของ Huawei ออกมาชี้แจงว่า หากสามารถตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เมื่อไหร่ พวกเขาก็สามารถจับ Google Mobile Services ใส่กลับเข้าไปในเครื่อง Huawei Mate 30 series ได้ภายในช่วงเวลาข้ามคืนเท่านั้น

ช่องโหว่ของโทษแบนอาจทำให้ Huawei P40 Pro ใช้ Google Mobile Services ได้

อีกหนึ่งทฤษฎีที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ Huawei P40 Pro อาจเป็นมือถือรุ่นใหม่ ที่ใหม่แค่ชื่อ แต่สเปคด้านในยังเหมือนเดิมจาก Huawei P30 Pro ทุกประการ โดยเหตุผลที่ผมมองว่าทฤษฎีนี้น่าสนใจและมีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ น่าจะได้เห็น Honor 9x เปิดตัวกันไปแล้ว ซึ่งมือถือรุ่นนี้กลับใช้งาน GMS ได้ ทั้งๆ ที่เปิดตัวหลังจากกรณีพิพาทสงครามการค้า ซึ่งตามหลักแล้ว สมาร์ทโฟนของ Huawei และ Honor ที่เปิดตัวหลังเหตุการณ์นี้จะต้องใช้งานแอปและบริการ Google ไม่ได้

แต่เหตุผลจริงๆ ก็คือ Honor 9x ไม่ใช่มือถือรุ่นใหม่แต่อย่างใด จะมีเปลี่ยนใหม่ก็เพียงแค่ดีไซน์ภายนอกเท่านั้น เพราะสเปคและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ใช้ชิ้นส่วนของ Honor P Smart Z ที่เปิดตัวก่อนเหตุการณ์สงครามการค้าจะเกิดขึ้น ทำให้ Honor 9x ยังคงสามารถใช้งาน GMS ได้แบบไม่มีปัญหา

Honor 9X

อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ เลยก็คือ เวลาที่ Google จะออกใบอนุญาตการใช้งาน GMS ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องใดเครื่องหนึ่งนั่น พวกเขาจำเป็นต้องนำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวมาทำการทดสอบต่างๆ มากมาย ว่าผ่านมาตรฐานของพวกเขาหรือเปล่า แต่ดีไซน์รูปร่างภายนอกสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ซึ่งนั่นก็คือวิธีการช่องโหว่ที่ Huawei ทำมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังเห็นมือถือรุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์ Huawei อย่าง nova 5T และ Honor 9x ที่ยังสามารถใช้งาน GMS ได้ ทั้งๆ ที่เปิดตัวหลังเหตุการณ์พิพาทสงครามการค้า (เปลี่ยนดีไซน์ภายนอก สเปคด้านในเหมือนเดิม) ซึ่งก็ไม่แน่ว่า Huawei ก็อาจจะใช้ช่องว่างเหล่านี้มาใช้กับซีรีส์ P40 ก็เป็นได้

Huawei nova 5T ที่มีสเปคเดียวกับ Honor 20 ทั้งหมด เปลี่ยนแค่รูปร่างภายนอก

ดัน Huawei Mobile Services มาแทน GMS ซะเลย

ถ้าทุกทางออกที่กล่าวมาทั้งหมดไม่เวิร์ค Huawei ก็ยังมีไพ่ตายใบสุดท้ายอยู่ นั่นก็คือ Huawei Mobile Services (HMS) ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ ลักษณะการทำงานจะคล้ายกับ GMS ของ Google ทั้งหมด เพียงแต่จะไม่สามารถเข้าถึงพวกแอปยอดนิยมที่ใช้กันอย่างทั่วโลกทั้ง Gmail, Google Drive หรือ Google Photos ได้นั่นเอง ต้องอาศัยเหล่าแอปที่พัฒนาขึ้นมาใหม่

ซึ่งตอนนี้ Huawei ก็พยายามเชิญชวนนักพัฒนาทั่วโลกมาเขียนแอปลง HMS โดยมีค่าตอบแทนสูงมากๆ มายั่วยวน แต่อย่างไรก็ดี การที่จะสร้าง ecosystem หน้าาใหม่ให้แข็งแกร่งเท่ากับ Google ก็คงใช้เวลานานพอตัวเลยล่ะ..

ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับว่าสุดท้ายแล้ว Huawei P40 Pro จะสามารถใช้งาน GMS ได้รึเปล่า อีกทั้งหากใช้ได้จริง จะเป็นเพราะวิธีไหนกันแน่ หรือไม่แน่ว่าภายในระยะเวลาอีกราวๆ 3 – 4 เดือน ก่อนการเปิดตัว เราอาจจะได้ข่าวดีระหว่าง Huawei กับสหรัฐก็ได้นะ…ยังไงก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

 

ที่มา: AndroidAuthority, 2