หลังจากกระแส #ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ ที่บูมมากๆ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ก็มีชาว Twitter หลายท่านอพยพข้ามน้ำข้ามทะเลหนีไปเล่นแอปทางเลือกใหม่ไฟแรงที่มีชื่อว่า Minds กัน แต่ก็พบความยากลำบากเนื่องจากตัวแอป (และหน้าเว็บ) ของ Minds ต่างแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด สร้างความงุนงนต่อผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก Twitter แต่ล่าสุด Minds ได้ออกมาประกาศเองว่าพวกเขารองรับการใช้งานภาษาไทยแล้วเรียบร้อย

โดย Minds ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ผ่านบัญชีทางการของพวกเขาว่าตอนนี้ ผู้ใช้งาน Minds ทุกท่าน สามารถเลือกตั้งค่าให้แอป และหน้าเว็บแสดงผลเป็นแบบภาษาไทยได้แล้ว และในอนาคตอาจจะมีภาษาอื่นๆ เข้ามาอีก พร้อมกับติดแฮชแท็ก #MindsTH ที่เคยขึ้นเทรนด์อันดับต้นๆ ของ Twitter ประเทศไทยด้วย

 

ไล่เลียงเหตุการณ์เป็นไงมาไง ทำไมอยู่ดีๆ คนถึงย้ายไปเล่น Minds

จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อ Twitter ได้เปิดตัวบัญชีทางการใหม่สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่าง @TwitterThailand ซึ่งดูเผินๆ อาจจะไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติที่ Twitter จะออกมาเปิดบัญชีให้กับประเทศนั้นๆ เพราะเอาเข้าจริง ผู้ใช้งาน Twitter ในประเทศไทย ก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร

แต่แล้วชาว Twitter (หรือชาวทวิตภพ) ก็ดันไปขุดเจอกับข้อความที่แสดงให้เห็นว่า Twitter นั้นได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทย พร้อมกับกระแสว่าสาเหตุที่พวกเขาเปิดตัว Twitter Thailand ก็อาจจะมีเผื่อเข้ามาปิดกั้นเสรีภาพบางอย่างไม่ให้ชาวทวิตภพนั้นเคลื่อนไหว อย่างเช่น เข้ามาแบนแฮชแท็ก นอกจากนี้ โลโก้ของ Twitter Thailand ดันไปมีความคล้ายคลึงกับโลโก้ของพรรคการเมืองหนึ่งอีกด้วย ทั้งหมดนี้เลยทำให้ชาวทวิตภพไม่พอใจ จนเกิดแฮชแท็ก #ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ ขึ้นมา (แต่เอาเข้าจริงโลโก้ของบัญชีทางการของ Twitter ประเทศอื่นๆ ก็แบบนี้นะ..)

“Minds, ฉันเลือกนาย!”

และแน่นอนว่าเมื่อชาวทวิตภพสัมผัสได้ว่า Twitter เป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เนื่องจากเกรงว่าพวกเขาอาจจะได้รับการเดือดร้อน จากการพูดหรือทวีตข้อความอะไรบางอย่างออกไป ทำให้พวกเขาได้พยายามหาโซเชียลตัวแทนของ Twitter จนหวยมาตกที่ Minds เนื่องจากรูปแบบการใช้งานต่างๆ มีลักษณะที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Twitter อยู่พอสมควร

แถม CEO ของ Minds เองอย่าง Bill Ottman ก็ดูเหมือนจะอินเทรนด์กับเขาซะด้วย เพราะหลังจากมีกระแสต่อต้านทวิตเตอร์ ตัวเขาเองก็โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มในทำนองนี้เชิญชวนชาวทวิตภพให้หันมาใช้งาน Minds ดีกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าตัว Minds เอง ไม่ใช่ spy app และไม่มีนโยบายแชร์ข้อมูลให้กับคนอื่น อิสระเรื่องการออกความเห็น Freedom of Speech อย่างแท้จริง แถมนาย Bill เองก็ทิ้งท้ายด้วยแฮชแท็กสุดกินใจ #MindsTH ด้วยนะ เผื่อใครไม่รู้ TH นี่หมายถึง Thailand เรานี่แหละ..แหม อ่อยสุดๆ

ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เกิดกระแสแฮชแท็ก #MindsTH ไปติดอันดับต้นๆ ของ Twitter อีกครั้ง โดยภายในแท็ก ส่วนมากจะเป็นชาวทวิตภพคนไทยทั้งหลาย ที่เข้าไปโปรโมทบัญชี Minds ของตัวเอง หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไปเล่น เพื่อในที่สุดจะได้สละเรือจาก Twitter แบบเต็มตัว ไม่ต้องคอยระแวงอีกต่อไปว่าจะทวีตอะไร แล้วมีคนมาคอยสอดแนม หรือโดนดำเนินคดีเพราะออกความเห็นมากเกินไปหรือเปล่า

โดยในส่วนนี้ทาง Minds เองก็ออกมาเปิดเผยข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจผ่านบทสัมภาษณ์กับ Coconut.co ว่า ตอนช่วงกระแส #ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ กำลังบูมๆ พวกเขามียอดผู้ใช้งานชาวไทยแห่เข้ามาเปิดบัญชีมากถึงราวๆ 100,000 คน จนทำให้เว็บล่มกันเลยทีเดียว ซึ่งใครที่สนใจอยากอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ สามารถอ่านได้ที่ Coconut ต้นทางเลยครับ

แต่โซเชียลก็ยังเป็นโซเชียลอยู่วันยังค่ำ

ทั้งนี้ทั้งนั้น โซเชียลก็ยังเป็นโซเชียลอยู่วันยังค่ำนะครับ ถ้าอยากจะเอาชัวร์ ผมแนะนำให้ลองเข้าไปอ่าน Privacy Policy ของตัว Minds แบบเต็มๆ ดูดีกว่า อย่างเช่นกฎข้อนี้ของ Minds สรุปได้แบบง่ายๆ คือ พวกเขาสามารถที่จะเข้าถึง, เก็บ และแชร์ข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้งานทุกคนให้กับรัฐบาล, เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเอกชนต่างๆ หากพวกเขาเห็นชอบและเห็นควร โดยที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม (without your consents) จากผู้ใช้งาน Minds ก่อน 

ยังไงก็อย่าลืมใช้งานโซเชียลกันอย่างมีสตินะครับ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลไหน Facebook, Twitter, Reddit หรือ Minds เอง ก็ต้องคอย Double Check ข้อมูลข่าวสารต่างๆ อยู่เสมอ เพราะสมัยนี้ Fake News มันมาหลากหลายรูปแบบจริงๆ วิธีแก้คือต้องคอยเช็คข้อมูลอยู่ตลอดเวลา อย่าปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ