แอบหนีไปสิงคโปร์มา 2 วัน 1 คืน (แต่เวลาที่อยู่นั่นรวมแล้วแค่ 24 ชั่วโมง) เพื่อไปทำข่าวงานเปิดตัว Samsung Galaxy S ถือเป็นทริปต่างประเทศที่ใช้เวลาน้อยที่สุดตั้งแต่เคยไปมา เรียกว่ากลับถึงไทยแล้วจำไม่ได้เลยทีเดียวว่าไปสิงคโปร์มา -_-
::คำเตือนก่อนอ่านต่อ::
– Blog นี้ยาวมาก
– Blog นี้ภาพเยอะมาก
– Blog นี้ขอเขียนแบบพาไปเที่ยวจะได้ได้บรรยากาศงานเปิดตัวแบบจริงจัง
– Blog นี้คนเขียนหน้าตาดีมาก
… เอาหละถ้ารับได้ทุกข้อก็อ่านต่อกันได้… อ๊ากกกกก อย่าเพิ่งปิด!! ยกเว้นข้อสุดท้ายให้ข้อนึงก็ได้ T T
อ่ะ ต่อๆ ไปครั้งนี้ได้ความประทับใจมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศงาน ความเป็นกันเองของคนใน Samsung รวมถึงได้เพื่อนใหม่หลายต่อหลายคน 🙂
เริ่มต้นทริปด้วยความเหนื่อยล้าจากการไม่ได้นอน (เพราะถ้านอนคงไม่มีปัญญาตื่น ตกเครื่องแหงม) แถมอุตส่าห์เผื่อเวลามากมาย ออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆ รถก็ติดราวกับ ราวกับ ราวกับ… เอ่อ เปรียบไม่ถูก เอาเป็นว่าติดโคดดดดดดละกัน ตอนแรกนึกว่าจะตกเครื่องละแต่สุดท้ายก็รอดไป ถึงสนามบินราวๆ 9 โมง ถือเป็นคนกลางๆไม่เลทและไม่เร็วเกินไป
จากนั้นรอจนคนคบ เอ้ย! คนครบ ทั้งหมด 20 ชีวิตจาก 18 สื่อ ก็พากันเข้าไปรอที่ Gate
… รอจนหลับกันไปเลยทีเดียวเพราะฝนตกหนักมากกกกก Flight เลย Delay ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ … แต่ก็ไม่ได้นานมากเพราะจริงๆเราไม่ได้หลับ เม้าท์แตกอยู่ตรงนั้นแหละ!! ๕๕๕ ระหว่างเม้าท์ก็มีแบรนด์ Samsung มาประกอบฉากด้วยนะ
สุดท้ายก็ได้ขึ้นเครื่องกันไป โดยคราวนี้ฝากชีวิตไว้กับ TG ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปี ไม่ได้ใช้บริการสายการบินนี้มานานมาก
(หลับน้ำลายยืดกันไป… ต่อไปขอตัดภาพไปที่สิงคโปร์!!!)
พอถึงสนามบินก็ทำทุกอย่างตามชีวิตปกติ แล้วก็ขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่โรงแรม อย่างแรกที่ประทับใจตั้งแต่ไปถึงเลยก็คงเป็นโรงแรม Ritz Carlton ที่พักสุดหรูที่ Samsung เตรียมไว้ให้ ห้องใหญ่และวิวสวยมาก
ไม่รู้ว่าเป็นความซวยหรือความโชคดีเพราะเราได้นอนคนเดียวในขณะที่คนอื่นนอนสองคนกันหมดเนื่องจากเหตุผลบางประการ -_-
นั่งพักได้ไม่นานก็ต้องออกเร่ร่อนออกไปงานเปิดตัวแล้ว (เนื่องจาก Flight Delay) สำหรับงานนี้จัดที่ Suntec ศูนย์ช็อปปิ้งขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของสิงคโปร์
ถึงงานก็ Register ทันที (Pretty งานนี้สวยและน่ารักมากทุกคนเลย แต่สู้คนไทยไม่ได้ แฮ่)
ชื่อเว็บแอบผิด -_-
คนเยอะมาก
จากนี้ก็หยิบกล้องวีดีโอขึ้นมาเป็นอาวุธประจำกายทันทีเพราะว่ากล้องคงเก็บภาพอะไรได้ไม่หมด ก็เลยอัดทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้มาให้ทุกคนชมกัน ไปดูกันเล้ยยยย เยอะหน่อยน้า ถ้าขยันก็ดูให้หมดนะ อิอิ (ใช้เวลาอัพโหลดไปครึ่งวัน)
Part 1
Part 2
Part 3 – ถ่ายไม่จบเพราะว่ากล้องแบตหมด ฮืออออ แต่ก็ใกล้จบแล้วหละ ^ ^
S Life Show – เหมือนที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ คราวนี้ได้เห็นของจริงกันเลย แต่ขอโทษทีที่ถ่ายไม่จบเพราะว่า Memory หมด 🙁 [หมายเหตุ: คลิปนี้ใช้กล้อง Samsung Wave ถ่าย ชัดมะะะ] (ปล. ระหว่างยืนถ่ายอยู่ด้านหลังก็สังเกตเห็นว่าคนไทยเกือบทุกคนยกกล้อง+มือถือขึ้นมาถ่ายในขณะที่ชาติอื่นนั่งดูเฉยๆ ฮ่าๆๆ)
Galaxy S Short Demo – มาดูความไว (ถ่ายมาได้ไม่เยอะเพราะคนต่อคิวจะเอามีดปาดคอแล้ว)
โดยสรุปแล้วสิ่งที่ทาง Samsung นำเสนอก็คือ
– การผนวกควบรวมกับ Google Service ไว้อย่างเพียบพร้อม (ก็มัน Android นี่นา)
– ตัว Software นำเสนอแค่ความเป็น Android ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมต่างๆก็เป็นของ Google ล้วนเพราะเค้าบอกว่าแอนดรอยด์มีความดีของมันอยู่แล้ว ตรงนี้กลับทำให้น่าผิดหวังบางประการเพราะทำให้ OS ดูไม่มีอะไรแตกต่างจาก ทั้งๆที่จริงๆแล้วมีอะไรที่แตกต่างจาก Android Standard เยอะอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะ UI (ลองไปดูรีวิวเพิ่มเติมของพี่ natz ได้เลยจ้า)
– นำเสนอการนำ Galaxy S ไปใช้ในชีวิตประจำวันแบบ S Life ซึ่งหลังจากดูแล้ว… มันก็ Android App ที่มีอยู่แล้วทั้งหมดนั่นเอง ไม่ค่อยหวือหวากว่า Android ทั่วไปแต่ถ้าเทียบกับที่มีอยู่ในโลกแล้วก็ถือว่าหวือหวาอยู่เช่น Google Goggles (ถ่ายรูปเพื่อ Recognize วัตถุ), Keyboard แบบ Swype ที่พิมพ์ภาษาอังกฤษเร็วได้ใจรวมถึง Layar ซึ่งเป็น App Augment Reality (AR) ชื่อดัง แต่ที่เด็ดๆเลยก็คงตรงการนำเสนอนี่แหละ เอาใจเราไปเลยยยย
– สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกว่า Android ทั่วไปคือเล่น DivX ได้ (จริงๆ Android เครื่องอื่นก็เล่นได้แค่ไม่มี License แต่ Samsung มีมาเลย)
– Hardware นำเสนอตัว Super AMOLED 4 นิ้ว ที่ยังไม่มีใครเทียบได้ในขณะนี้
– CPU 1 GHz ไวปานจรวด
– Bluetooth 3.0 ที่มีอยู่ไม่กี่รุ่นที่ทำได้
– ถ่ายวีดีโอแบบ 720p ที่ 30 fps ซึ่งทำมาได้ดีและชัดมาก หากทำเรื่อง Optical Zoom ได้ผมคงจะโยนกล้องวีดีโอทิ้งไปแล้ว
– WiFi 802.11n เร็วได้ใจ แต่เอาเข้าจริงก็คอขวดอยู่ที่ Modem/Router/Provider อยู่ดี ฮ่าๆๆๆ
– แบตมีถึง 1500 mAh นอกจากนั้นถ้าแบตหมดยังชาร์จด้วย USB มาตรฐานได้ด้วย ไม่เหมือนแบรนด์ผลไม้ที่ต้องพกพายุ่งยาก (กัด)
หลังจากงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการจบก็มีแอบหนีไปเที่ยวกันบ้างตามยถากรรมคนไม่มีเวลา เรียกว่าข้าวเขิ้วไม่กิน ฮ่าๆๆ โดยได้ไปเดิน Suntec แป๊บนึงแล้วก็ไปเดินต่อมุสตาฟาตอนเที่ยงคืน (เนื่องจากจบงาน Orchard ก็ปิดแล้ว)
ส่วนวันถัดไปทาง Samsung ก็พาไปหลั่นล้าที่ Universal Studio ซึ่งเป็นสวนสนุกเปิดใหม่ในเซนโตซ่ากัน
ตรงนี้ทาง Samsung ได้แจก Galaxy S มาเล่นกันคู่ละ 1 เครื่องเพื่อให้ลองใช้จริงใน Universal Studio ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือจอ Super AMOLED ของ Galaxy S ทนแสงได้ดีมาก (หมายเหตุ: แดดวันนั้นแรงแสรดดดดด ไม่เกรงอกเกรงใจกันบ้างเลย)
ข้างใน Universal Studio ค่อนข้างใหญ่ สร้างเป็นเมืองเมืองนึงเลยทีเดียว ทำมาได้หรูและประณีตละเอียดอ่อนมากกกก
ที่นี่เป็นระเบียบมาก ขนาดถ่ายรูปยังมีต่อคิว
ห้องน้ำยังหรู
แต่ด้วยความไม่ถูกกับเครื่องเล่นใดๆเลยเนื่องจากความฝังใจในวัยเด็ก อย่างเดียวที่เราไปเล่นก็เลยคือโรงหนัง Shrek 4D เป็นหนังที่ทำมาได้น่ารักดี เห็นคนกรี้ดด้วย อิอิ
ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ติดภารกิจที่กรุงเทพฯก็เลยต้องขอตัวกลับก่อนล่วงหน้า 1 วัน ก็เลยพลาดกิจกรรมหลังจากนี้ไป 🙁 ซึ่งตรงนี้คงต้องขอให้ลองติดตามจากสื่ออื่นๆดู เห็นว่ามี Galaxy S @ Orchard ด้วย ^ ^
::My Opinion::
ส่วนตัวโดยรวมถือว่ามีทั้งส่วนชอบและยังไม่โดนเจ้า Galaxy S
ส่วนที่ชอบ
– หน้าจอใหญ่ดี แต่สำหรับบางคนอาจจะใหญ่ไป
– จอชัดมว๊ากกกกกกก
– ถ่ายภาพดีมาก แต่ไม่รู้ว่าจอหลอกรึเปล่า ต้องลองโอนลงคอมพ์ (ซึ่งยังไม่ได้ลอง)
– ลื่น… แต่ก็ยังไม่ติดนิ้ว (ตามสไตล์ Android)
– ไอคอนและ UI โดยรวมเกือบจะเหมือน Wave เวอร์ชั่นแอนดรอยด์ ชอบที่มัน Consistency กัน
– ปุ่มเป็นแบบ Touch Sensitive กดง่ายดีนะ แต่ต้องทำตัวให้ชินก่อน
– จะบางไปไหน
– ทนดี ทำหล่นไปหลายรอบไม่เห็นเป็นอะไร ฮ่าๆๆๆ (อุ๊บส์)
ส่วนที่ไม่่ชอบ
– จอใหญ่ไปอ่ะ ไม่ตรงจริตสิทธิพล
– กล้องดั๊นนนไม่มี Flash
– วัสดุด้านหลังเป็นพลาสติกถึงจะสกรีนมาสวยแต่กรอบแกรบไปนิด
– ไอคอนดูโบราณไปหน่อยนึง…
– ยังเป็น 2.1 อยู่ แต่ 2.2 คงจะตามมาในอนาคตอันสั้น เวลานั้นคงเร็วปรี้ด เร็วปรี้ด
::สุดท้าย::
– ขอบคุณทาง Samsung Thailand ที่เชิญไปนะครับ เป็นทริปสั้นๆแต่มีความสุขมาก 🙂
– PR รั่วมาก (คำชมนะก๊ะคำชม อิอิ)
– ฮาตลอดทริป
– ถึง Samsung จะเชิญไปและออกเงินให้ทุกอย่าง แต่ไม่ขอเขียนอวยนะครับ ตรงไปตรงมาเน้อ 🙂 (แต่ยังไงมันก็มีดีมากมายอยู่แล้ว เขียนตรงไปตรงมาก็เกือบจะเหมือนอวย แต่ไม่ได้อวยนะคร้าบบบบ คอนเฟิร์ม!!)
– ราคายังบอกไม่ได้แต่เหมือนจะรู้กันแล้วป่ะ อิอิ ส่วนที่ยืนยันแน่แล้วก็คือขาย Exclusive กับ AIS แน่นอน
– ขอบคุณเพื่อนทุกคนในทริปนะครับ อบอุ่นเฮฮาเป็นกันเองมากเลย หลายคนเป็นคนดังก็ไม่มีความหยิ่งเลยแม้แต่น้อย รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ^ ^
– ภาพเพิ่มเติมไปดูได้ที่ Facebook จ้า
– mk จากเว็บ Blognone เขียนไว้ด้วย ลองไปดูอีกมุมดูครับ 🙂
อยากได้ทั้ง Samsung Galaxy S แล้วก็อยากไปเที่ยวด้วย ^^
ไหนบอกคนเขียน blog หล่อ แต่ไม่ยักกะมีรูปเลย . . คุคุ
(แต่คุณ C สวยจังเยย)
แอบสนใจ galaxy s แต่ไหงมันขาดๆเกินๆแบบนี้หนอ
แหนะ แหนะ แหนะ แหนะ
มีรูปนะคับ ในวิดีโอแรกเลย โชว์หน้าตาแต่เริ่ม
นึกว่าทอม ครูซ 555
เหยๆๆๆ เดี๋ยวหาฟีเจอร์กด Like Comment มาใส่ก่อนนะ!!
ใครอยากเห็นหน้าคนตั้ง blog ไปดูต่อได้ที่ Facebook หุหุ ราคาก็คงพอทราบกันแล้วมั้ง
วันที่ 2 มิ.ย เปิดจอง ใครสนก็รอควักเงินกันได้
คนอ่าน blog นี้หน้าตาดีครับ ^^ ขอบคุณหลายๆสำหรับบทความเเละภาพบรรยายการศครับผท
เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
ขอรูป Pretty ด้วยครับ 🙂
แม้ Blog นี้คนเขียนหน้าตาดีมาก
แต่คนอ่านก็หน้าตาดีมากกว่า…จริงไหม ผู้อ่านทุกท่าน 5555
ตกลงเท่าไหร่กันแน่อะครับ ผมเคยไปถาม ผู้จัดการ samsung สาขาปิ่นเกล้าบอก 23990 รวม vat แต่เหนบางท่านบอก 22900 16gb รวม vat แต่ผมกะรอไปซักพัก.. เพราะปกติเครื่องล็อตแรกมักมีปานหา(แบบ5800 เก่าของผม = = )
ถ้าเน้นที่ Body แข็งแรง ออกแบบดี เลือกอะไรดีครับ
HTC Desire
Nexus One
Galaxy S
กำลังคิดมวากกกกกก
ปล.ทำไม HTC ที่เป็น Android มันหน้าตาแย่กว่าตัวที่เป็น Windows TwT
ตอน Chrek 4D คงจะชอบตอนแมงมุมตกลงมา แน่ๆเลย ฮ่าา ผมช๊อบชอบ
ว่าแต่ ถ้าให้เลือก HTC Evo กับ Galaxy S เนี่ย ตัวไหนเด็ดกว่ากันครับ
หูยยย อยากไปด้วยยย