วันนี้ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของ AIS ที่เชิญ Partner สื่อและแขก VIP ร่วม 1,500 ชีวิต มาร่วมฟังวิสัยทัศน์ของทาง AIS ตลอดปี 2013 นี้
ซึ่งผู้คนที่มาร่วมงานนี้เยอะจริงๆ ประกอบด้วยพนักงานราวๆครึ่งนึงเห็นจะได้ – – (ล้อเล่นนะ แต่เยอะจริงๆแหละ)
เนื่องจากคนเยอะมาก ห้องประกาศวิสัยทัศน์ (Royal Hall Paragon) ก็เลยจัดเต็มด้วยจอ 3 จอ ให้เห็นโดยทั่วถึงกันทุกมุมมอง
งานนี้เท่ตรงที่ไม่มีพิธีกร ท่านผู้บริหารทุกคนลุยเองหมด การเปิดงานก็ทำมาได้เท่ด้วยการเล่นกับเลเซอร์อย่างสวยงาม
และก็ถึงเวลาเริ่ม คุณสมประสงค์ขึ้นเป็นคนแรก ขึ้นมากล่าวเทรนด์โลก
ปีที่ผ่านมา คนเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างผ่านมือถือ ไม่น่าเชื่อว่ามีคนดาวน์โหลดเพลงถึง 20 ล้านครั้งเมื่อปีที่แล้ว มีข่าวกว่า 24 ล้านข่าวถูกส่งไปให้ผู้คนอ่านในมือถือต่อวัน มีหนังสือถูกโหลดกว่า 200,000 ครั้งต่อเดือน
จากนั้นก็พูดทำนองนี้ ใจความสำคัญที่น่าสนใจไม่ค่อยมีในช่วงนี้ จึงขอข้ามไป เริ่มมาตื่นเต้นอีกทีก็ตอนที่ประธานกสทช.มาทดสอบ 3G คลื่น 2100 MHz แบบสดๆบนเวที ตัวเลขที่ขึ้นมาทำให้ทุกคนฮือฮามาก “32 Mbps”
จากนั้นก็มาทดสอบเรื่อง Video Call กันให้ดู พอภาพขึ้นทุกคนก็ปรบมือฮือฮาราวกับตอนที่สตีฟ จ็อบส์เปิดตัวไอโฟน … ทำให้ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าทำไมประเทศเราถึงน่าเศร้าเยี่ยงนี้นะ มีสักกี่ประเทศกันที่ปรบมือเกรียวกราวว่า Video Call ใช้งานได้แล้วในปี 2013 … แต่ก็เอาน่า ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทย
คราวนี้คุณวิเชียรขึ้นเวทีเพื่อกล่าวแนวทางเกี่ยวกับเครือข่าย โดยทางคุณวิเชียรออกมายอมรับว่าเครือข่ายของ AIS มีปัญหาจริง
“เราเคยเป็นที่หนึ่ง … ตอนนี้เรายังเป็นเบอร์หนึ่งอยู่
แต่สำหรับเนตเวอร์ค 2G 3G เราไม่กล้าพูดว่าเป็นเบอร์หนึ่งหรือไม่
แต่นั่นคือสิ่งที่เราพยายามจะเป็น”‘
อาจจะฟังดูเศร้า แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมรัก AIS ขึ้นมาอีกสองขีด (หลังจากเกลียดเข้าไส้เพราะเล่นเนตไม่ได้ โทรก็ไม่ติด) เพราะเขาไม่ได้โกหกเพื่อจะขายของไปวันๆ เขายอมรับและเขามีเป้าหมายที่จะทำมันให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน … โดยอย่างแรกเขาจะขยายเสาสัญญาณให้สามารถโทรและเล่น Data ได้เพิ่มขึ้น 300%
และอย่างที่บอก เขาพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นอยู่
จากนั้นมาสู่ช่วงแอพฯที่ AIS เตรียม Solution ไว้รองรับชีวิตยุคที่ทุกอย่างอยู่บนมือถือ เริ่มจาก myCloud ที่คล้ายๆ iCloud เอาไว้เก็บข้อมูลทุกอย่างของตัวเองไว้บน Cloud สนับสนุนบนทุกแพลตฟอร์ม
อันต่อมา Calling Post ที่เอาไว้ตั้ง Status และแชร์ให้คนอื่นทราบได้ผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ตอนรับสาย เริ่มปล่อยให้ใช้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ รับวันวาเลนไทน์
อันนี้เด็ด AIS จับมือ Happy Home Entertainment จัด AIS Movie Store ให้สามารถซื้อและหนังจากสหมงคลฟิล์มและ GTH ผ่านทางมือถือ/Tablet iOS และ Android ได้เลย ! และดูจากโฆษณา เหมือนจะมีหนังสากลเก่าใหม่ด้วยเหมือนกัน ยังไม่เปิดตัว แต่ตอนนี้มีแอพฯให้โหลดใน Store แล้ว
mPAY ยังคงเป็นสิ่งที่ AIS ดันอย่างเต็มที่ ปีนี้พร้อมพลิกโฉม Mobile Wallet ในเมืองไทยด้วยการจับมือกับ MasterCard ทำระบบ Mobile Payment ให้เราสามารถซื้อของจากร้านที่รับเงินจาก mPAY แล้วจ่ายเงินผ่านมือถือได้ทันที เปิดตัว Q2 ปีนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักในเมืองไทย แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
สุดท้ายเป็นสิ่งที่ “เด็ดมาก” เพราะ AIS จับมือถือ Rabbit ใช้มือถือแทนบัตร Rabbit ได้อย่างสมบูรณ์ (ด้วย NFC ของมือถือหรือซิมการ์ดไม่แน่ใจ) นั่นแปลว่าคุณสามารถเข้า BTS หรือซื้อของได้ด้วยการแตะมือถือ ! อันนี้ต้องบอกว่าเด็ดกว่า MasterCard อีก ดูท่าจะได้ใช้จริงจริงๆ
และอันนี้น่าจะทำให้นักพัฒนายิ้มแฉ่งได้ เพราะ AIS ปีนี้ยังคงมุ่งหน้าไปด้านการดัน Startup อยู่ มี VC เข้าร่วมเยอะมากครับ คาดว่าปีนี้จะได้เห็นผลงานเจ๋งๆของคนไทยเพิ่มอีกแยะแน่นอน
คร่าวๆก็ประมาณนี้ครับสำหรับงาน AIS VISION 2013 วันนี้ รอดูวันที่ 3G 2100 MHz เกิด ว่า AIS จะกลับมาเวอร์คอีกครั้งหรือไม่ครับ
สวัสดีครับ
รออยู่นะ 2100 MHz มาซะทีเถอะ
มาถึงจุดนี้ถ้าแถเรื่อง 2-3G ก็ไม่รู้ว่าไงละ ห่วยแบบไม่น่าให้อภัยจริงๆ
เป็นแนวทางที่ดี แต่มีข้อสงสัยอยู่นิ๊ดหน่อย อย่าง Calling Post ดูแล้วน่ามันน่าจะใช้ได้เฉพาะ Smart Phone
ส่วน Rabbit นั้นดูแล้วน่าจะเวิร์ค แต่ !! ไม่รู้ว่าแนวคิดของ ais เกี่ยวกับเจ้า rabbit นี่ ทาง ais จะใช้ฟังค์ชั่นนี้ กับซิมของ ais เอง หรือกับเครื่องที่มี nfc เพราะเอาเข้าจริงๆ ลูกค้าที่มีกำลังในการใช้ส่วนนี้ ส่วนหนึ่งไม่ได้ถือโทรศัพท์ที่มี nfc ฝังมาโดยกำเนิด (เช่น iPhone หรือโทรศัพท์ธรรมดาที่ไม่ใช่ smart phone) เท่ากับว่าถ้าจะทำให้มันครอบคลุมในกลุ่มผู้ที่ใช้ เครือข่ายของ ais ก็ต้องยัดลงซิมอย่างเดียว อันนี้ก็รอดูกันต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคนนึงหล่ะที่จะไปขุด Nokia 8850 มาใช้แตะขึ้นรถไฟฟ้า แนวดี อีกอย่าง กลัวมิจฉาชีพด้วยไม่อยากควักโทรศัพท์แพงๆ ออกมาในที่คนพลุกพล่านมากด้วย
คงเป็น app ไหนสักตัวหนึ่งนั่นแหละ smart phone เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ video call ของ 3G ไม่ได้แล้วนี่
sim ก็อาจจะเป็นได้ แต่คงต้องมี app บ้านๆเพื่อรองรับ โทรศัพท์รุ่นเก่าๆ
สำหรับมือถือที่มี NFC ก็เป็นได้เช่นกัน ง่ายด้วย แค่มี pllication ของ Rabit ก็จบ
ไม่ต้องอะไรเยอะแค่เอาเสาขึ้น 3G ให้ได้ทั่วประเทศก่อนเหอะ จัหวัดผมเค้าจะย้ายค่ายหนีหมดละ แค่นั้นจบม่ะ
3g แรงๆ
ใต้ป้าย เครือข่าย3G AIS หน้านิคมอมตะนคร ยังไม่มี 3G ใช้เล้ย เอามาติดได้ไงล่ะนั่น ขำดี
รออยู่นะครับ 2100 เนี่ย รีบๆเลย ไม่งั้นจาย้ายค่ายแร้ว
จัดมาไวไวครับ เพราะตอนนี้มีแต่คนบ่นระบบ network ของ AIS
Rabbit x BTS มันประกอบด้วยทั้ง Sim และมือถือครับ
1. ซิม Rabbit ทำหน้าที่เป็นบัตร ใช้เก็บข้อมูลต่างๆ
2. มือถือ NFC ที่มี Single Wire Protocol (SWP) ที่ทำให้สามาใช้ Sim ใช้ NFC Antenna ได้ เพื่อเป็นตัวรับส่งสัญญาณ
คำถามคือมีมือถือรุ่นไหนมี NFC + SWP บ้าง เท่าที่รู้มามี
1. Galaxy S 3
2. Galaxy Note 2
ส่วน Nokia/HTC และ BB มี model ที่รองรับเหมือนกัน แต่เหมือนกับไม่ใช่ variant ที่ขายในเมืองไทย
แล้วก็ขอแสดงความเสียใจกับคนถือ Nexus S/Galaxy Nexus/Nexus 4 ด้วยนะครับ เพราะไม่ได้ใช้ SWP 😉
sony xs ก็มีครับ
http://www.atosworldline.com/ext/download/Portfolio/EN//Expertise/ExpertiseNFC-Transport-EN_LD.pdf
ที่ต่างประเทศ เหมือนจะเป็น app ที่ทำงานร่วมกับ NFC มากกว่านะครับ แถมเครื่องดับก้อยังใช้ได้อีก ผมว่าใช้ได้หมดทุกเครื่องแหละครับที่มี NFC
จากวีดีโอตัวอย่างในเวบ ก้อเห็นๆว่าเป็น Nexus นี่ครับ ถ้าทำมาแล้วมัไม่ Commonly ขนาดนั้นก้ออย่าทำมันเลย
After having downloaded and installed the dedicated mobile application, the user may buy and credit their travel pass, which will be encrypted in the Secure Element provided with the NFC enabled phone. The pass can directly be used to access public transportation and is routed to the Secure Element using the TSM functionality.
The pass remains usable even if the phone is switched off or runs out of battery.
รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้มีเกือบหมดแล้วนะคับ NFC
ที่ได้ยินมา ต้องใช้ซิม ais ร่วมกับ nfc ถ้าไม่มี nfc ก็หมดสิทธิ์ ( nfc iphone 5 ไม่มีนี่หว่า…..555)
ตอบคุณ toonza
NFC Phone โดยปรกติจะมีสิ่งที่เรียกว่า Secure Element หรือเอาง่ายๆก็คือส่วนพื้นที่เก็บข้อมูล
ซึ่งตรงนี้สามารถนำไปใช้กับ App ต่างๆได้ตามที่ @toonza บอก โดยส่วนเก็บข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ติดกับ Phone มาเลยไม่เกี่ยวกับ Sim
ส่วนการนำมาทำแบบ BTS x Rabbit ไม่น่าทำได้ เพราะส่วน Secure Element ไม่น่าจะสามารถนำมา Emulate เป็นส่วนเก็บข้อมูลของบัตรโดยสารได้ และไม่มี API อ่านเขียนข้อมูลตามมาตราฐานของ NXP
ถ้าจะเอา Secure Element มาใช้ จะต้อง Emulate API และ Structure ทั้งหมดของบัตรของ NXP ให้ได้ โดยที่ผู้ผลิตโทรศัพท์น่าจะต้องทำมาพร้อมกับผู้ทำ OS ของโทรศัพท์ ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่มาตราฐานเพียงพอที่จะทำนะครับ
ขึ้นรถไม่ทันแล้ว
รอสอย 190
เอ๊ะ ไม่ใช่กระดานข่าวหุ้นเหรอนี่
เจ๋งๆ ตรง BTS เนี่ยละ หึหึ
รู้ตัวก้ดี อันที่จริงไครๆก้รู้แหละ
ประเทศไหนเขาแยกค่ายมือถือกันมั่งเนี่่ย
แต่เรื่อง BTS เนี่ยขอชื่นชมครับ รอติดตาม
หากทุกอย่างที่ปราศรัย(??) ในงานนี้เป็นจริง
ผมว่ามันมีผลให้หลายๆคนสนใจย้ายค่ายไป AIS รวมทั้งผมด้วยนะ
ยังไม่คาดหวังอะไรมาก กลัวจะใช้บัตรกระต่ายได้แต่แบบเติมเงินค่าโดยสารที่ตัดเงินตามระยะทางหน่ะสิ
ว้ายย…. ผมเพิ่งย้ายออกมา
ทำได้ทั้งหมดก็ดีครับ ทุกวันนี้เวลาพ่อผมโทรหาใครไม่ติดก็โทษมือถืออย่างเดียวเลย แอบเซ็งเล็กๆ
Calling Post เจ๋งดีครับ ^^
nfc ตั้งแต่ galaxy nexus เป็นต้นมา รู้สึก android จะมีหมดครับ NFC + SWP sony ก็มีครับแต่ต้องรุ่นพวก t,tx,v ขึ้นไปอะ
เจ๋งตรงใช้ NFC กับ ระบบ BTS นี่แหละ ถ้าทำได้อย่างที่ว่าจริงๆจะสุดยอดและทันสมัยมากๆเลย แต่ก็ต้องมีประสิทธิภาพด้วยนะ