หลายๆ ครั้งที่ผมมักเห็นสื่อหรือผู้ใหญ่ในบ้านเรามอง “เกม” เป็นเรื่องในแง่ลบเสมอ หนักกว่านั้นมองว่าเกมเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายราวกับเป็นสิ่งเสพติดอะไรยังงั้น มีเหตุการไม่ดีเกิดขึ้นกับเด็กเมื่อไหร่ ก็โยงไปที่เกมอยู่บ่อยๆ แต่อีกด้านนีงในต่างประเทศ (รวมถึงบ้านเราที่กำลังเริ่มต้นแบบช้าๆ) สิ่งที่สื่อหรือผู้ใหญ่มองในแง่ลบทุกวันนี้มันกลายเป็น ธุรกิจขนาดใหญ่ มีเงินรางวัลที่เทียบเท่ากีฬาระดับโลก มีคนดูการแข่งขันมากกว่า 100 ล้านคน สิ่งนั้นก็คือ “E-Sports” E-Sports เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่
จริงๆ ผมก็เกิดไม่ทันยุคแรกๆ เหมือนกันแต่ตามข้อมูลของ Wiki E-sports การแข่งขัน E-sports นั้นเริ่มแข่งขันกันในช่วงปี 1972 ที่มหาวิทลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเกมที่จัดแข่งขั้นในครั้งนั้นก็คือเกม Spacewar เป็นการแข่งขันภายในมหาวิทลัยกันเอง และอีก 9 ปีต่อมา บริษัท Atari (Wiki Atari) ที่ตอนนี้ทนกระแสกาลเวลาไม่ไหวปิดตัวไปแล้ว ได้เคยจัดการแข่งขันเกม Space Invaders ซึ่งตอนนั้นมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 5,000 คนจากทั่วสหรัฐอเมริกากันเลย
เข้าสู่ยุค Internet ช่วง 1990 – 1999
จากนั้นโลกก็เข้าสู่ยุคจุดเริ่มต้นแห่ง Internet ที่ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับมนุษย์ ในช่วงนั้น Internet เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากกับเกม เพราะมันช่วยให้เราแข่งหรือเล่นกันในระบบ Online Multiplayer และก่อกำเนิดเกมอย่างเช่น Quake , Conuter-Srtike และ Starcraft ทั้ง 3 เกมก่อให้เกิดแรงจุดเริ่มต้นของคำว่า E-Sports หรือ Eletronic Sports หรือเรียกแบบภาษาไทยคือ เกมการแข่งขันที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ มีอุปกรณ์การแข่งขันประกอบด้วย เมาส์ หูฟัง คีย์บอร์ด แผ่นรองเม้าส์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เปรียบได้กับรองเท้าของนักฟุตบอล รองเท้าวิ่ง หรืออุปกรณ์ของกีฬาทั่วไปที่ใช้แข่งขันกัน ส่วนคอมพิวเตอร์และเกมก็คือชนิดของกีฬา
การแข่งขัน The International 2014
สู่จุดเริ่มต้นของ E-sports 2000-2015
หลังจากมีเชื้อเพลิงแล้ว ไฟของ E-sports ก็ลุกอย่างต่อเนื่อง ในสหรัฐอเมริกามีการจัดตั้งองค์กร E-Sports อย่าง Major League Gaming หรือ MLG ที่ตั้งชื่อ Logo ขององค์กร รวมถึงการจัดการคล้ายๆ กับ Major League Baseball หรือ MLB และ Major League Soccer หรือ MLS ฟากเกาหลีใต้ที่นิยมชมชอบเกม Starcraf ถึงขั้นมีมหาลัยหลักสูตร Starcraft ก็ตั้งองค์กร Korea e-Sports Association ( KeSPA ) ขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขต กติกาของการแข่งขัน E-sport ขึ้นโดยมีรัฐบาลเกาหลีใต้สนับสนุนเต็มที่
เมื่อองค์กร KeSPA ตั้งขึ้นและเริ่มมีการแข่งขัน สปอนเซอร์ต่างๆ ก็เริ่มตื่นตัวกับธุรกิจตัวนี้ ก็ได้มีเจ้าของธรุกิจชั้นนำของเกาหลีเริ่มหันมามองมากขึ้น อาทิ สถานีโทรทัศน์ KT , บริษัท CJ Group , ธุรกิจเครือข่ายมือถือ SK Telecom , บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung เป็นต้น ฟากสหรัฐอเมริกา MLG ก็มีสปอนเซอร์มาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ต่อส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่าง Ben-Q , Logitech
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันรายการใหญ่ของโลกอย่าง WCG หรือ World Cyber Games , IEM หรือ Intel Extreme Masters เกิดขึ้นด้วย
การแข่งขัน World Championship League of Legends 2014 จัดขึ้นที่สนาม Seoul World Cup Stadium ด้วยจำนวนผู้ชมในสนามมากกว่า 50,000 ชีวิต ผมเองก็มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศที่สนามแห่งนี้ด้วย
เล่นเกมมันได้เยอะขนาดนั้นเชียวหรอ ?
คงเป็นคำถามที่หลายๆ ที่คนทั่วๆ ไปสงสัยกันมากว่า เกมมันสามารถเลี้ยงครอบครัวหรือตัวเองได้ขนาดนั้นเลยหรอ จากข้อมูลของ E-Sports Earnings ถึงมูลค่าเงินรางวัลรวมทั้งหมด (รวมทุกอันดับที่ให้รางวัล) จากการแข่งขัน E-sports อันดับ 1 ตอนนี้คือการแข่งขัน The International 2014 ที่มีเงินรางวัลรวมสูงกว่า $10,000,000 ( ราวๆ 350,000,000 บาทไทย O_O ) ซึ่งของปีนี้ The International 2015 มียอดเงินรางวัลสูงกว่า $15,000,000 แล้ว ทำให้รายการแข่งขันนี้จะเป็นรายการที่มีเงินรางวัลเกือบเทียบเท่าเกมกีฬาฟุตบอลเลยทีเดียว
จำนวนเงินรางวัลรวมของแต่ละเกม
หลายๆ คนก็คงมีคำถามต่อไปอีกกว่า นั้นเป็นเงินรางวัลทีม แล้วผู้เล่นคนเดียวละไม่ได้เยอะแบบนั้นหรอก จาก E-Sports Earnings ผู้เล่นคนเดียวที่ได้เงินจากการเล่นเกมสูงสุดอยู่คือ Hao ( Chen Zhihao อายุ 24 ปี จาก ทีม Dota 2 ) เงินรางวัลที่ได้คือ $1,249,642 ( กว่า 42,230,434 บาทไทย )
แล้ว E-sports ในบ้านเราหละ ?
ในบ้านเราเริ่มตื่นตัวในช่วงปี 2007 ซึ่งตอนนั้นในบ้านเราต้องบอกว่าอยู่ในช่วงบุกเบิกอย่างแท้จริง เพราะเงินรางวัล ผู้สนับสนุน การแข่งขัน รวมถึงจำนวนผู้เล่น การจัดการล้วนแต่ไม่เป็นมาตราฐาน มาพีคจริงๆ ในช่วงที่ Garena เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการเกม กับการดันเกม HON ในคุ้นหูชาวไทย , นำเกมระดับโลกอย่าง LoL เข้ามาตีตลาด หรือบริษัท EXL ก็ได้เตรียมจัดการแข่งขัน DOTA 2 ในบ้านเราอย่างเป็นทางการและยิ่งใหญ่ ล่าสุดกว่านั้นคือ E-Sports เริ่มมีบทบาทบนเกมมือถือมากขึ้นเรื่ยๆ เริ่มมีการจากแข่งขันขึ้นแล้ว
แต่ทั้งหมดทั้งปวง ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในบ้านเรายังไม่เป็นที่ยอมรับจากคนหมู่มาก ยังจำกัดอยู่แค่กลุ่มคนเล็กๆ เท่านั้น แต่ทุกฝ่ายในวงการนี้ก็พยายามผลักดันให้คนทั่วไปเข้าใจ E-Sports มากขึ้น อยากให้มีการช่วยสนับสนุนมากขึ้น ผมก็ขอเป็นหนี่งเสียงเล็กๆ ที่อยากช่วยให้วงการเกมในบ้านเราเป็นที่ยอมรับมากขึ้น หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจคำว่า E-Sports กันมากขึ้นนะครับ ส่วนในบทความหน้า ผมจะเขียนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของนักกีฬา E-Sports การจัดการ และอนาคตของพวกเขากัน เจอกันบทความหน้า สวัสดีครับ (-/-)
ปล. ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นไม่ได้จะส่งเสริมให้เด็กๆ มาทางด้านนี้ทั้งหมดนะครับ แต่อยากแนะนำให้รู้จักกับ E-Sports ซะมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีสิ่งที่เรียกว่าด้านมืดเอาไว้ผมจะเขียนเพิ่มเติมในบทความตอนต่อๆ ไปนะครับ
ในไทยยังยากเรื่อง หาสปอนเซอร์…
ใช่ครับ ยังอีกห่างไกลมากนัก
โอเคนะมันได้เงินเยอะ รายได้ดี งั้นเอางี้ไหม เลิกเรียน เลิกทำงาน หันมาเล่นเกมส์กัน!!! มันไม่ใช่!!!
แค่หารายได้ได้เยอะมันไม่ใช่ข้อสรุป ถ้างั้นขายยาเสพติดมันก็รายได้ดี ไปทำสิ!!! ต้องยอมรับว่าเล่นเกมมันมีส่วนทำให้คนเสพติด ไม่ได้ทำให้สุขภาพดี ไม่ได้สร้างความเจริญให้ประเทศ คนที่เจริญคือบริษัทเกมส์ไม่ใช่คนเล่น คนเล่นก็เป็นแค่เครื่องมือให้หลงไปกับสิ่งมอมเมา
เล่นแค่พอคลายเครียดก็เป็นสิ่งดี ผมเองก็เล่นบ้าง แต่มาพยายามโฆษณาชวนกันไปติดเกมแบบนี้ผมไม่เห็นด้วย เพราะเท่าที่อ่านๆมาก็เห็นจะมีแต่พยายามบอกว่ามันได้เงินเยอะซึ่งก็เหมือนจะเป็นข้อดีเพียงข้อเดียวที่มี(และอาจจะเป็นดาบสองคมด้วยซ้ำ)
คนที่เขาเล่นกีฬากันจริงๆเพราะว่ามันเป็นสิ่งดี สุขภาพคุณดี ร่างกายแข็งแรง แถมได้เงิน อันนี้น่าสนับสนุน แต่เล่นเกมส์แล้วมาสถาปนาตนเองว่าเป็น"กีฬา"อันนี้ผมว่าไม่ใช่ละ แล้วยังมาโฆษณาจูงใจเด็กๆด้วย"เงิน" อันนี้ไม่ต่างอะไรกับการมอมเมานะผมว่า เพราะจะมีไม่กี่คนเท่านั้นแหละ(ไม่ถึง 2%)ที่จะสามารถหัดได้ไปจนเก่งถึงขั้นหาเงินได้ขนาดนั้น ส่วนที่เหลือ…. ก็กลายเป็นแค่เด็กติดเกมส์ เป็นปัญหาของสังคม เพราะการที่คนเราจะหัดทำอะไรสักอย่างให้เก่งสุดๆได้นั้นมันต้องใช้เวลา คนเล่นกีฬาจริงๆถึงจะใช้เวลาไปมากและสุดท้ายไม่ได้เป็นนักกีฬาโอลิมปิก อย่างน้อยก็ได้สุขภาพ แต่เสียเวลาหลายปีไปหัดเล่นเกมส์แล้วไปไม่ถึงฝัน จะได้อะไรครับ????
แค่มุมมองนะครับ ต้องขออภัยด้วยถ้าเขียนแล้วมุมมองมันกลายเป็นซะแบบนั้น TT แต่ว่าทุกอย่างมันก็มี 2 ด้านนั้นแหละครับ จะมีต่อนะครับ ไม่ใช่ผมจะเขียนแต่ข้อดี ข้อเสียของพวกนี้ก็มีเช่นกัน อยากให้ลองติดตามดูก่อนนะครับ ขอบคุณที่วิจารณ์ครับผม (*/\*)
ต้องขออภัยด้วยเช่นกันครับหากว่าคำพูดของผมมันจะแรงไป
ต้องบอกไว้เลยว่า ผมเองก็ไม่ค้านถ้าเด็กจะเล่นเกมส์ เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าเล่นอย่างมีขีดจำกัดและเป็นเกมส์ที่เหมาะสมมันจะช่วยให้สมองเด็กพัฒนา โดยเฉพาะทางด้าน Logic การคิดและแก้ปัญหา ซึ่งผมเองก็เล่น และตอนเด็กๆก็เคยติดเกมส์มาก่อน เคยถึงขั้นไปนอนบ้านเพื่อนแล้วก็เล่นเกมส์กันข้ามวันข้ามคืน ซึ่งพอได้สติก็รู้เลยว่านั่นมันเกินไปแล้ว มันเกินขอบเขตที่เหมาะสมไปแล้ว และจากนั้นผมก็ไม่ทำแบบนั้นอีกเลย(แต่กำหนดเวลาเล่นเอา ไม่เลิกเล่นหรอก อิอิ)
ผมอยากให้ช่วยเขียน Blog ให้คนอ่านไม่เกิดความคิดที่จะไปเล่นเกมส์อย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็กๆได้อ่าน แบบนี้ก็เข้าทางกันเลยทีเดียว แล้วก็จะไปเถียงพ่อเถียงแม่อีกแล้วก็จะเป็นปัญหาใหญ่นะครับ
ขอบคุณครับ
ในบทความต่อไปนะครับ จะมีพูดถึงส่วนนี้ อันนี้แค่แนะนำนะครับ ยังไง ลองอ่านบทความต่อๆ ไปดูนะครับน่าจะช่วยให้เรา 2 คนเข้าใจกันง่ายขึ้น 555 ขอบคุนครับ
เกมที่เล่นคนเดียว กับเกมที่ใช้แข่งขันไม่เหมือนกันนะครับ ยกตัวอย่าง Starcraft กับพวก moba LoL,Dota2ละกัน
ทั้ง2แนวนี้ต้องใช้การวางแผน การคิด วิเคราะห์เยอะ ในตัวเกมมันมีหลายๆอย่าง ที่เอามาคิดในมุมมองอื่นที่เป็นประโยชน์ได้
ส่วนเรื่องส่งเสริมการเล่นเกม ผมว่าเอาให้มันพอเหมาะก็พอ แต่ขอให้คนส่วนใหญ่มองดีขึ้นกว่านี้ว่ามันเป็นทางนึงในยุคนี้ที่สามารถทำรายได้ พอหาเลี้ยงชีพได้
ส่วนประโยคที่บอกว่า " อันนี้ไม่ต่างอะไรกับการมอมเมานะผมว่า เพราะจะมีไม่กี่คนเท่านั้นแหละ(ไม่ถึง 2%)ที่จะสามารถหัดได้ไปจนเก่งถึงขั้นหาเงินได้ขนาดนั้น ส่วนที่เหลือ…. ก็กลายเป็นแค่เด็กติดเกมส์ เป็นปัญหาของสังคม"
2% ที่ว่าก็ไม่ต่างกับอาชีพอื่นเลยนะ นักกีฬาที่ดังๆ ทำรายได้เยอะ ก็มีแค่ประมาณนั้น นักธุรกิจที่ทำรายได้สูงๆ คิดจำนวนคนเป็น% คงไม่ห่างกันเท่าไหร่
เรื่องจะกลายเป็นเด็กติดเกมไหม ส่วนนึงมาจากการเลี้ยงดูด้วย ไม่ใช่เกิดจากเด็ก หรือ เกมเพียงอย่างเดียว
ยิ่งE-Sport นี่ผมว่า แข่งไม่กี่ที ถ้าไม่ผ่านรอบลึกๆ เด็กคงไม่หวังว่าจะทำเป็นอาชีพแน่ๆ คู่แข่งเยอะมาก
ปล.จำไม่ได้ในจีนหรือเกาหลี คนที่ไปแข่งระดับโลกบอก E-Sport ทำให้เค้าเป็นที่รู้จักของสังคม เทียบเท่านักกีฬาดังๆในบ้านเค้าได้เลย
เพราะมันมีการแข่งขันกันมันเลยเป็นกีฬาได้ไงครับ การเล่นมันเป็นการใช้สมองแก้ปัญหาเหมือนกันครับ
ไม่ได้มีไว้เล่นแค่มอมเมาอย่างเดียว
คล้ายๆกับการแข่งหมากรุกนั่นแหละ อันนั้นก็กีฬาเหมือนกัน
คำว่ากีฬาไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่ต้ิงออกกำลังกายเสมอไปนะครับ
เรื่องคำว่า "กีฬา" อันนี้คงเถียงกันไม่จบ ซึ่งผมไม่คิดว่าเพียงเหตุผลที่ว่ามีการแข่งกันก็จะเรียกว่า "กีฬา" ได้แล้ว มันไม่พอครับ
สำหรับผมนั้นผมว่าต้องแยกคำว่า "กีฬา", "การละเล่น", "เกมส์", "โชว์" และ "ประกวด" ออกจากกันให้ได้นะครับ เพราะมันไม่เหมือนกัน
ถ้าแค่ว่ามันมีการแข่งขันแล้วจะเรียกว่า"กีฬา"งั้นเพียบครับ ทุกอย่างรอบตัวก็กลายเป็นกีฬาไปหมด งี้ Olympic คงแข่งทั้งปีไม่จบครับ
จริงๆ เรื่องนี้ต่างประเทศก็มีการเถียงกันอยู่พอสมควรเลยครับ
สำหรับผมนั้นผมว่าต้องแยกคำว่า "กีฬา", "การละเล่น", "เกมส์", "โชว์" และ "ประกวด" ออกจากกันให้ได้นะครับ เพราะมันไม่เหมือนกัน
งั้นช่วยแยกให้ผมดูหน่อยครับ แล้วเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้เรียกว่า "กีฬา" คืออะไรครับ ขอถามแบบ งงๆ
http://i.imgur.com/BEYb6WT.png
ก็ลองดูประเภทกีฬาที่คนทั้งโลกเขายอมรับกันว่าเป็นกีฬาแท้ๆ ลองดูตัวอย่างของชนิดกีฬาใน Olympic ทั้ง Summer และ Winter ดูก็ได้ครับ ก็ยังพอแยกออกได้
ส่วนรูปที่คุณเอาให้ดู ก็เพราะคนไทยไปนิยามมันแบบนั้นไง ก็เลยมีกีฬาแปลกๆโผล่มาในกีฬาแห่งชาติบ้านเราเยอะแยะ เช่นพวกหมากทั้งหลาย พวกไพ่ทั้งหลาย แม้แต่เครื่องบินบังคับก็มีในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ TT ผมว่ามันไม่ถูกเรื่องนะ
ถ้าจะให้ผมนิยามคำว่า"กีฬา"
1.เหนื่อย 2.แข็งแรง 3.มีกฎที่ตัดสินอย่างชันเจนโดยไม่ต้องใช้ความรู้สึกของคนเป็นสิ่งตัดสิน 4.ใช้ทั้งสมองและกำลังกายทำงานไปด้วยกันไม่ใช่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
สมัยก่อนที่เราจะเรียกมันว่ากีฬา สิ่งพวกนี้มันก็เกิดจากการเล่นเพื่อผ่อนคลายทั้งแหละครับ แต่ต่างกันที่ สมัยก่อนเราจะใช้ในเรื่องของพละกำลังกันเพียงอย่างเดียว จนมาปรับใช้ ของเรื่องกลยุทธ การวางแผน การใช้สมองควบคู่กันไป มันถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องหลายปีครับ จะเอามาเทียบกับ กีฬาสมัยนี้ ที่พึ่งเกิดก็คงจะไม่ได้ ……….. ขี่ม้าก็เป็นกีฬา แข่งรถก็เป็นกีฬา ทั้ง 4 ล้อ 2 ล้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกนิยามว่าเป็นกีฬาก็จริง … แต่คนทั่วไปก็ยังคิดว่าเป็นกีฬา ยังรู้สึกสนุกกับการแข่งขันไปกับมันได้ไม่ใช่หรอครับแย่ไปกว่านั้น เด็กแว๊นก็มีให้เห็นทุกวัน ผ่านมากี่ปีแล้ว ยังเป็นปัญหาสังคมไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง …. แล้วอย่างการแข่งขันด้านเกม E-sport กลับถูกมองให้เป็นแพะ ถึงขั้นเป็นปัญหาสังคม ภาระ ไม่ทำให้ชาติเจริญ .. แปลกดีครับ
ถ้าแบบนั้น
1. เหนื่อย + 2. แข็งแรง -> ถ้าเอาเรื่องนี้ก็นับเกมได้เลยครับ ผมว่าเกมใช้แรงและความเหนื่อยไม่แพ้ยิงปืนครับ
3. มีกฎที่ตัดสินอย่างชันเจนโดยไม่ต้องใช้ความรู้สึกของคนเป็นสิ่งตัดสิน -> เกมมีกฏชัดเจนไม่มีความรู้สึกแน่นอน แต่ยิมนาสติกนี่คงไม่ใช่กีฬาสินะครับ ระบำใต้น้ำก็ด้วยสินะ
4.ใช้ทั้งสมองและกำลังกายทำงานไปด้วยกันไม่ใช่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง -> เหมือน 1+2 ถ้ายิงปืนใช่ เกมก็ใช่ครับ
เอาให้ครบทั้ง 4 ข้อสิครับ อย่าแยกข้อ
และใช่ครับ ผมไม่คิดว่ายิมนาสติกควรเป็นกีฬาที่ตัดสินชีวิตเหมือนทุกวันนี้ เพราะผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับกายกรรม มันควรจะเป็นแค่โชว์เพื่อหารายได้อะไรแบบนั้น
อ่านดี ๆ ครับ ผมบอกหมดแล้วว่าเกมมันใช่ทุกข้อ แล้วก็ถ้าคุณไม่ยอมรับยิมนาสติก งั้น มวย กับ เทควันโด ก็คงไม่ใช่ เพราะสองอย่างนี้ก็ตัดสินด้วยตาเหมือนกัน แย่จังเลยนะครับ ที่เกมมีสิ่งที่คุณว่าครบ แต่กีฬาโิอลิมปิคแท้ ๆ บางชนิดกลับไม่มีสิ่งที่คุณบอก
ยิมนาสติก, วูซู, ระบำใต้น้ำ คุณเอามาเทียบกับกีฬาที่เขาต่อสู้กันจริงๆได้อย่างไร? มวย, เทควันโด เป็นการที่คน 2 คนมาสู้กัน มีการเจ็บตัว มีการเพลี่ยงพล้ำหรือได้เปรียบแตกต่างชัดเจน แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดของเวลาจึงไม่สามารถรอให้ผลการแข่งขันจบลงที่ Knock-out ได้ เพราะถ้ารอคงควบคุมเวลาเริ่มและจบไม่ได้ จึงได้มีกรรมการขึ้นมาตัดสิน
แต่ ยิมนาสติก, วูซู, ระบำใต้น้ำ แข่งที่ละคนหรือทีละทีม ไม่มีการเปรียบเทียบซึ่งๆหน้า ใช้ความเห็นของกรรมการ 100% ในการตัดสิน ซึ่งแน่นอนผมไม่เห็นด้วยกับการบรรจุกีฬาเหล่านี้ลงในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่อย่าง Olympic ถ้าจะจัดเป็นโชว์ชิงแชมป์โลกของตัวเองไป อันนี้เข้าใจ
ซึ่ง เกมส์คอมฯ, เกมส์กระดานทั้งหลาย ก็เช่นกัน มันไม่ควรเป็นกีฬา มันควรจะเป็นแค่เกมส์ ซึ่งด้วยเหตุผลด้านเงินทองและธุระกิจ ผมคงหยุดคนที่จะดันให้มันเป็นไปตามสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้ ผมก็เข้าใจและยอมรับ แต่การที่มันเป็นอยู่โดยคนพยายามให้มันเป็น มันไม่ได้แปลว่าเป็นสิ่งถูกต้องใช่ไหมครับ
แล้วเบตอง โดดเชือก โยคะ ไม่ใช่กีฬาใช่ไหมครับ
หมากรุก
หมากล้อม
ครอสเวิร์ด
ไพ่บริดจ์
ก็มีลีกแข่งขันระดับโลกนะครับ
นักกีฬามากมายที่ฝึกหัดทุ่มเท แต่ไปไม่ถึงฝัน สุขภาพดี ไม่มีจะกินเยอะแยะไปครับ ทำอะไรก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นครับ ถ้าจะเลือกทางนี้ก็ต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ไปด้วย
อันนี้ผมมองว่าทัศนคติคุณออกแนวเชิงอคติมากกว่านะครับ จริงอยู่ที่ว่า เกมมันเหมือนดาบ 2 คม ในแต่ต่างประเทศ สิ่งที่เรียกว่า E-sport ของพวกเขาไปไกลกว่าบ้านเราเยอะครับ
"โอเคนะมันได้เงินเยอะ รายได้ดี งั้นเอางี้ไหม เลิกเรียน เลิกทำงาน หันมาเล่นเกมส์กัน!!! มันไม่ใช่!!!"
-มีหลายคนนะครับ ที่เขา เลิกเรียนโดยเฉพาะในกลุ่มของที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ มหาลัย เลิกทำงาน หันมาสร้างรายได้จากการเล่นเกมส์อย่างจริงจัง … คนเหล่านี้เขารู้ตัวเองครับ ว่าเขาทำอะไรอยู่ เขามีความฝัน ความตั้งใจ เขารู้ตัวเองว่ามีฝีมือพอที่จะสามารถแข่งขันได้ เขาตัดสินใจที่จะเลิกเรียน เลิกทำงาน ไม่แปลกครับ ในต่างประเทศเขาทำกันเยอะครับ แต่แปลกตรงที่ คนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถยอมรับอะไรแบบนี้ได้ และไม่มีการสนับสนุนจากผู้ใหญ่อย่างจริงจัง กีฬา E-sport เลยยังเป็นความเสี่ยงอยู่สำหรับประเทศที่พึ่งจะรู้จักคำว่า E-sport ในต่างประเทศยกระดับ E-sport ไปถึงขั้น เปิดโรงเรียนสอนด้านการแข่งขันกีฬา E-sport ด้วยซ้ำไปครับ ในต่างประเทศจะเห็นว่ามีเยอะมาก ประเทศไทยเราเองก็มี เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมครับ เพราะอะไร.. เพราะมันมีการแข่งขันกันตลอดเวลา แล้วตลอดการแข่งขัน จะมีแบ่งย่อย ๆ ซึ่งได้เงินรางวัลพอสมควร + สปอนเซอร์อีกมากมาย และการแข่งขันใหญ่ มีเงินรางวัลมหาศาล ที่มาพร้อมชื่อเสียงที่สามารถเอาไปต่อยอดให้ตัวเองได้อยู่ตลอด ถึงแม้คุณจะแพ้การแข่งขันไปไม่ถึงฝันแต่คุณก็ยังสามารถกลับบ้านไปพร้อมชื่อเสียง เปิดคอม นั่งเล่นเกม ถ่ายทอดสดให้คนทั่วไปได้ชม ฝีมือคุณอยู่ตลอด อย่างเวป streaming ดัง ๆ อย่าง twich , azubu พวกการถ่ายทอดสด ทั้งหลายของพวกเด็กติดเกมที่คุณว่าเนี่ย เขาสร้างรายได้กันจริงจังนะครับซึ่งแต่ละครั้งที่คุณสตรีมคุณมีโอกาสได้เงินมากกว่า การเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ เป็นเด็กเสริฟอีกด้วยซ้ำ และถึงคุณจะไม่ได้ไปแข่งอะไรก็ตาม แต่คุณมีฝีมืออยู่พอสมควรก็มีคนติดตามคุณแล้วครับเพราะงั้นจึงไม่น่าแปลกครับ ที่คนเหล่านี้เลือกที่จะ เลิกเรียน เลิกทำงานประจำหันมาเอาดีทางด้านเล่นเกมแทน
"ไม่ได้ทำให้สุขภาพดี ไม่ได้สร้างความเจริญให้ประเทศ คนที่เจริญคือบริษัทเกมส์ไม่ใช่คนเล่น คนเล่นก็เป็นแค่เครื่องมือให้หลงไปกับสิ่งมอมเมา"
-สุขภาพดี หรือ ไม่ดี มันไม่เกี่ยวหรอกครับ นั่งทำงานหน้าคอมก็สุขภาพดีไหมละครับ หรือ ทำงานก่อสร้าง แบกปูน เข็นของ อาชีพพวกนี้ก็ไม่ได้ทำให้สุขภาพดีเท่าไหร่หรอกครับ แต่เราสามารถเลือกได้ว่า จะแบ่งเวลาไปทำอะไรเพื่อสุขภาพของเราหรือเปล่า นักกีฬา E-sport เขาก็ไม่ได้วัน ๆ เล่นแต่เกมหรอกนะครับ อาหารการกิน ก็สำคัญไม่แพ้กับพวกนักกีฬา ถ้าคุณอยู่ในสังกัดของค่าย เขาจะแบ่งเวลาในการซ้อมเล่นเกม และการออกกำลังกายด้วยครับ ไม่ใช่เอะอะจะเล่นเกมอย่างเดียว 24 ชม ไม่หลับไม่นอน เป็นไปไม่ได้ครับ ส่วนไอที่ตาย ๆ กัน มันไม่ใช่นักกีฬา e-sport ครับ มันพวกติดเกมจนขาดสติ เอามาวัดกันไม่ได้ครับ ส่วนประเทศที่จะเจริญ หรือ ไม่เจริญ อยู่ที่การสนับสนุนของพวกผู้ใหญ่ครับ อย่ามองแต่ในประเทศเราดิครับ ประเทศเรามันแค่พึงรู้จัก ได้ไม่นาน หันไปมองต่างประเทศทีครับ อย่าง เกาหลี จีน อเมกา เขาไปถึงไหนแล้วครับ นักกีฬา E-sport เกาหลี กับ จีน นี่ดังพอ ๆ กับดาราเลยครับ จริงที่บริษัทเกมจะร่ำรวย แต่ ผู้เล่นก็สามารถสร้างรายได้ ไปกับสิ่งเหล่านี้ด้วยได้ ไม่ใช่หรอครับ ไม่ใช่เอะอะจะเล่นเกมอย่างเดียว เสียแต่เงิน เสียเวลา เสียอนาคต อันนี้เรียกว่าโง่ครับ อีกส่วนนึงเขาเล่นไปด้วย พัฒนาฝีมือ จนสามารถสร้างอาชีพ สร้างชื่อเสียงกลับมา …. 2เปอเซ็นที่ว่านี่ ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ อย่างที่ผมบอกขั้นต้น ในต่างประเทศ เขาพัฒนา E-sport จนเป็นที่ยอมรับ ทุกวันนี้ผมไม่แปลกใจเลยครับ ว่าทำไม E-sport บ้านเราถึงไม่พัฒนาไปถึงไหน ทั้ง ๆ ที่ผู้ใหญ่หลายคน พยายามผลักดันด้านนี้ไปอย่างจริงจัง…แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะยังมีคนแบบนี้อยู่ยังไงครับ ที่อคติเป็นอย่างเดียว ไม่คิดจะไปมองอย่างอื่นเลย เอะอะก็บอกมอมเมา ขอโทษนะครับ ลองหาข้อมูลในต่างประเทศทีครับ เกมดัง ๆ หลายเกม เขาเล่นเป็นอาชีพกันเยอะครับ csgo/ lol / dota / fifa /……. อื่น ๆ อีกเยอะครับ ต้องบอกตรง ๆ นะครับ เราอยู่กับยุคที่ปัจจุบันหันไปไหนก็มีแต่ เกม คุณเกิดในยุคที่ สมัยก่อนมีกีฬาที่เน้นใช้พละกำลังเป็นหลัก ความสามารถ ความพยายาม แต่นี้ปี 2015 ครับ เด็กเกิดมามันก็จับ Ipad Iphone กันแล้ว มันเข้าถึงง่ายครับใคร ๆ ก็รู้จัก เล่นได้ กีฬาที่ใช้กำลังก็ไม่ได้แย่ครับ กีฬาที่ใช้สมองก็ไม่ได้แย่ครับ อยู่ที่เลือกที่จะมอง และในอนาคต เกมที่คุณว่า มอมเมานี่แหละครับจะฮิตยิ่งกว่า เตรียมตัวให้ดีครับ
เท่าที่ผมอ่านที่คุณเขียนมา สุดท้ายมันก็ลงแค่ เงินๆๆๆๆๆ ผมว่าถ้าจะไม่หัวโบรานแล้วมองแต่ เงินๆๆๆ อย่างเดียวแล้วมองว่า เงิน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างแบบนี้ ผมขอเป็นคนหัวโบรานที่มองอะไรที่มากกว่าแค่ เงิน ดีกว่าครับ
ใช่ครับ ผมโตมากับยุคที่ไม่มีคอมฯ แต่ผมก็จบวิทย์คอมฯ มีเทคโนโลยีเต็มตัว เป็นคนเขียนโปรแกรมอีกต่างหาก แต่อีกด้านนึงผมก็ทำงานเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาทีมชาติ และเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติมาก่อน ผมว่าจากทุกๆอย่างในตัวผม ผมไม่ได้มองด้านเดียวหรืออตินะครับ และถ้าคุณอ่านข้อความของผมจริงๆผมนั้นได้ติเรื่องของการที่ผู้เขียนได้สนับสนุนให้คนหันมาเล่นเกมส์เกินเหตุ
ผมไม่สนหรอกว่าสุดท้ายแล้วเกมส์มันจะดังแค่ไหน หรือจะฮิตแค่ไหน มันไม่สำคัญเลย ผมเป็นคนที่พยายามอยู่ตรงกลางระหว่างความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการออกกำลังกายดูแลตัวเอง และพยายามทำให้มันเกื้อหนุดกันไปให้มากที่สุด
และที่น่าเศร้าก็คือเหมือนที่คุณบอก "เด็กเดี๋ยวนี้มันโตขึ้นมากับ iPhone iPad" ผมว่าก็มีหนังหลายๆเรื่องที่ให้เราได้ดูถึงหายนะของการที่เราโตมากับเทคโนโลยีเกินไปนะครับ มันไม่ได้แสดงถึงความคิดของผมคนเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่คนทั้งโลกกำลังเป็นห่วงอยู่เช่นกัน
วงการกีฬา มีประเภทไหนบ้างครับที่ใครก็เล่นได้ ได้เป็นอาชีพหาเงินได้ ทั้งหมดที่เราเห็นก็เป็นแค่คนจำนวนเล็ก ๆ บนโลกทั้งนั้นครับ บอกว่าเล่นกีฬาแล้วได้สุขภาพ อันนั้นเค้าเรียกว่าเล่นเพื่อสุขภาพ ไม่ได้จะเป็นอาชีพครับ วงการมืออาชีพมันไม่ง่ายนะครับ กีฬาบางประเภทเล่นไปอายุก็อาจสั้นลง ยกตัวอย่างเช่น มวย เป็นต้นครับ หรืออย่างฟุตบอล เล่นไปขาหัก เข่าพัง มีปัญหาตลอดชีวิตก็มีเยอะแยะครับ ขนาดกีฬาที่ไม่ปะทะกับใครอย่างยิมนาสติกยังมีคนข้อเท้า ข้อเข่าพังกันเยอะแยะเลยครับ ทุกอย่างบนโลกมันดาบสองคมทั้งนั้นแหละครับ อะไรที่มากเกินไปมันก็แย่ทั้งนั้น คุณมันก็แค่คนที่หัวโบราณ มองอะไรด้านเดียว ไม่ต่างกับสิ่งที่คุณว่าคนอื่นแหละครับ
ลองมองกลับกันครับ ถ้าเขาหาเงินด้วย E-sport ได้ 15000-20000 แต่มีหลายอาชีพที่รายได้มากกว่า ก็ย่อมโดนหาว่าไม่มีอนาคต ติดเกมส์บ้าง ไม่มีความรู้บ้าง ดูขี้เกียจ มันก็ไม่ใช่ป่ะ !!!!
" แต่เสียเวลาหลายปีไปหัดเล่นเกมส์แล้วไปไม่ถึงฝัน จะได้อะไรครับ???? "
เล่นเกมก็ยังได้ฝึกสมองครับ
เกมมีทั้งแบบสนุกสนานผ่อนคลาย และแบบต้องใช้ขบคิดวางแผน ส่วนใหญ่เกมที่นำมาแข่ง มักจะอยู่ในประเภทหลังครับ
สมองคนเราก็ต้องได้รับการฝึกฝนให้ใช้ความคิดเหมือนกันนะครับ
ถ้าไม่ใช้ฝึกใช้ความคิดบ้าง มันก็จะเหมือนกับคนที่อ่านหนังสือตลกขำขันอย่างเดียว ก็ย่อมต่างกับคนที่อ่านหนังสือที่มีสาระประโยชน์มากๆอยู่แล้ว
ถึงแม้จะเล่นเกมแบบผ่อนคลาย ก็ยังให้ประโยชน์ได้นะครับ
อย่างน้อยก็ฝึกภาษาได้
ไม่อย่างนั้นเด็กที่เคยเกลียดภาษาอังกฤษ สอบตกแทบทุกครั้งแบบผม คงไม่สามารถคุยกับเพื่อนๆต่างชาติได้อย่างทุกวันนี้
การที่คุณพยามบอกว่า การเล่นเกมมันไม่ได้อะไรเลย มันก็เป็นการมองคับแคบไม่เปิดกว้าง เสนอด้านเดียวจากฝั่งตรงข้าม ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย
หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ มันมีอยู่ จะมากจะน้อยก็ต่างกันไป แต่ไม่ยอมรับมัน แล้วมาบอกว่ามันไม่มีมันไม่ใช่
KSI … แคสจนรวย
พูดแล้วมันเจ็บ
ไอ่เราก็เล่นนะทำไม ไม่เก่งเท่าเค้าซักที อยากเป็น นักกีฬาบ้าง ได้เงินเดือนแบบนี้บ้าง = =
ถ้าเป็นไปได้อยากให้ เกมส์แจกจองประกวดย่อยบ่อย ระดับ น่อยลงมาอีกเยอะเยอะ ให้พ่อแม่ไม่มองว่ามันเป็นสิ่งเลวร้ายขนาดนั้น จะว่าไปคนรู้จักไปได้เงินมาเป็นแสนก็มีนะ แต่เราก็ยังมองไกลตัวอยู่ดี ไกลมากมากด้วย
เนี่ย อยากให้มีวิธีการจัดการแข่งขันเกมส์ที่แบบัดคนมาเล่นต้อง เป็นเด็กดี ต้องดล่นกีฬาด้วยอะไรก็ว่าไป สร้างค่านิยมว่า พวกเล่นแต่เกมส์อยากเดียวมันดูแย่ แต่ะวกที่ทำอย่างอื่นดีดีไปด้วยและเกมส์ก็เล่น สมควรได้รางวัล
ความคิดเห็นนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ถ้าคิดจะเล่นเกมส์อย่างจริงจังควรคัดกรองคุณภาพของเด็กด้วย เด็กๆจะได้มีแรงแรงบันดาลใจในการทำดีด้วย
อะไรคือคุณภาพที่คุณบอก การทำดี? เด็กอยากเป็นนักบอลอาชีพต้องคัดคุณภาพรึเปล่า เด็กอยากเป็นหมอต้องคัดคุณภาพด้วยมั้ย แต่ละวงการก็มีวิธีในแบบของเค้านะครับ
คัดกรองแน่นอนครับ 100%
ไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีแต่ชอบดู
https://www.youtube.com/watch?v=E8qm96m7YOs
เกมไม่ใช่สิ่งให้โทษถ้าเล่นแค่พอเหมาะและรู้จักควบคุมตนเอง แต่เกมจะเป็นสิ่งให้โทษถ้าไม่รู้จักควบคุมตนเอง เกมเป็นดาบ 2 คมให้ทั้งความผ่อนคลายและความเลวร้าย
ข้อเสียที่เห็นแน่ๆเลย
1 นิสัยเปลียน หงุดหงิดง่ายเจ้าอารมณ์ ใครขัดไม่ได้ระหว่างเล่นเกม โดยเฉพาะเกมที่มีการแข่งขันอย่าง dota lol hon คนเล่นอาจจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นแต่คนรอบข้างจะรู้ดี
2 เสียสุขภาพถ้าติดงอมแงมไม่ออกกำลังกายเล่นแต่เกม
3 เสียการงานถ้าไม่รู้จักแบงเวลา
ข้อดี
1 ได้ผ่อนคลาย
2 ได้ความรู้ภาษาถ้าตั้งใจจะศึกษา
3 มีการคิดวิเคราะห์และวางแผน พัฒนาการสมองสำหรับบางเกม
ข้อเสียของเกมผมบอกเลยว่าเป็นได้ทุกคน ผมก็เคยเป็นอยู่ช่วงตอน dota ออกมาใหม่ๆช่วงนั้นจะขี้หงุดหงิดมาก เสียงานเสียการ และคนรอบตัวผมก็ยังเป็นอยู่ในตอนนี้
แต่ถ้าเราแบ่งเวลาเล่นเกมให้ดีรู้จักควบคุมตนเองผมก็ไม่เห็นว่าการเล่นเกมจะเป็นผลเสียยังไง
ปล. เม้นข้างบนๆยาวมากและอ่านยากมาก อ่านได้ไม่ถึง 3 บรรทัดอ่ะครับบอกเลยแบ่งบรรทัดหน่อยก็ดีครับ
อ่านแล้วนึกถึง ทีมไทยที่ได้แชมป์โลกเกม fifa เมื่อปีก่อนเลย
**งดดราม่า อ่านแล้วปวดหัว**
เงินๆ สุดท้ายแล้วก็เงินๆ ที่ตั้งใจเรียนอยากมีงานดี ไม่ใช่เพราะเงิน เหรอครับ ที่ตั้งใจทำงาน อยากได้ทำแหน่งการงานที่ดี ไม่ใช่เพราะเงินเหรอครับ พูดเหมือนเงินไม่จำเป็นในการดำรงชีวิตเลยนะครับ ถึงมันไม่ใช่ทั้งหมดแต่มันก็ขาดไม่ได้ E-sport มันก็เป็นเหมือนอาชีพนึงที่หาเงินได้ ไม่ได้ไปปล้นจี้หรือบังคับใคร แต่กว่าจะถึงจุดที่หาเงินได้นั้นมันยากมากครับ แต่ก็ใช่ว่าจะไปถึงไม่ได้ ลองคิดดูครับประเทศไทยมีนักคนเล่นบอลกี่คน แต่มีกี่ % ที่ประสบความสำเร็จ E-sport ยกตัวอย่างเช่น dota2 มืออาชีพเค้าซ้อมกันวันละ 8 ชั่วโมง ต้องมานั่งดู replay วิเคราะห์แผนแต่ละทีม วิเคราะห์ตัวผู้เล่น วางแผน ซ้อม teamwork ในแต่ละแผน แต่กว่าจะมาถึงขั้นต้องลงทุนลงแรงไปมาก บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ต้องล้มเลิกกันไป คุณอาจจะมองว่าไม่เป็นการกีฬา ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะมันเป็นอาชีพ ที่หาเงินได้ครับ แล้วในอาชีพของคุณมีคนประสบความสำเร็จเยอะมั้ยครับ? แล้วมีกี่คนที่หาเงินได้เยอะครับ?
ปล.ลองดูที่จีนE-sport เค้าหาเงินได้ แถมมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ยอมรับ แล้วคุณคิดว่าในไทยทำอาชีพอะไรครับที่ได้เงินแถมมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก?
มันก็%ประสบความสำเร็จน้อยเช่นกัน?