ข่าวเด็กกดเติมเงินในเกมสุดฮิตอย่าง LINE Cookie Run ไปจำนวนกว่า 30,000 บาทโดยที่ผู้ปกครองไม่รู้ตัวนั้นหลายๆ คนได้ฟังแล้วอาจจะตกใจ แต่ผมรับรองว่าคุณต้องช็อกกว่าเดิม เพราะอีกกรณีนึงนั้นเด็กกดเติมเงินไปกว่า 180,000 บาท และยอดล่าสุดนั้นทะลุไปถึง 300,000 บาทแล้ว
ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับอีกหลายๆ คน วันนี้ผมมีวิธีการตั้งรหัสผ่านหรือให้ android ของท่านถามหา password ก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะมีการเก็บเงินหรือชาร์จค่าบริการเพิ่มเติมจากทาง Google Play มาฝากกัน
วิธีการตั้งรหัสผ่านหรือ password นั้นก็ไม่ได้ยากเลยครับ ใช้เวลาไม่นานและมีแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้นเอง โดยเริ่มจากเข้าไปที่ส่วนการตั้งค่า (Settings) ของ Google Play Store กันซะก่อน
จากนั้นให้เลือก “ต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อสั่งซื้อ” ถ้าเมนูภาษาอังกฤษจะเขียนว่า “Require password for purchases”
จากนั้นก็เลือกเปิดให้ทุกการสั่งซื้อนั้นต้องใช้รหัสผ่าน และทำการใส่รหัส gmail ของเราเข้าไป เพียงเท่านี้ไม่ว่าลูกๆ หลานๆ หรือใครจะเอามือถือของเราไปเล่น ทุกครั้งที่จะพยายามกดเติมเงินหรือซื้อของก็จะมีการถามหารหัสผ่านตลอด จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะไปกดซื้อคริสตัลในเกม LINE Cookie Run หรือเกมอื่นๆ ที่ต้องซื้อของซื้อไอเทมเยอะๆ แล้วมาปวดหัวกับบิลค่าโทรศัพท์ตอนสิ้นเดือนเหมือนที่เป็นข่าวกันครับ
แต่ไม่ใช่ว่าตั้งค่าแล้ว ก็ไปบอกรหัสผ่านให้ลูกๆ หลานๆ รู้นะครับ งานนี้ตัวใครตัวมัน 😀
like ^_^
ผมไม่ต้องตั้งป้องกันเด็กๆ… แต่ตั้งเพื่อเตือนสติตัวเอง ว่าซื้อ หรือ ไม่ซื้อ 55555+
OK ครับ จัดไป
-0- แล้ว ต้องจ่ายมั้ยหละนั่น 3แสนนี่บางคนต้องขายรถมาจ่ายเลยนะ
มันยังไม่ป้องกัน Clear Data นะสิครับ
จริงๆ เหมือนผมเคยใส่ไปแล้วนะ ตั้งนานละ ก่อนที่ Play store จะอัพมา version ใหม่นี้นานมากๆ ละ …. โดนหลานกดซื้อของในเกมเฉย …. เอาบัตรออกแทบไม่ทัน (คือ mail ผมออนหลาย device น่ะ :v แบ่งกะน้า/พี่ใช้ด้วย พอดีซื้อเกมไว้เยอะ อันนี้ลูกน้ากด -*-)
ถ้าผมเป็นเด็ก จะ กด ลบแคช ลบดาต้า playstore อิอิ ไม่รู้เข้าได้มั๊ย ลองทำดูเผื่อได้ อิอิ
ถ้าผมเป็นเด็ก จะ กด ลบแคช ลบดาต้า playstore อิอิ ไม่รู้เข้าได้มั๊ย ลองทำดูเผื่อได้ อิอิ
ใช้เติมเงินก็ จบ ไม่ใช้รายเดือนมาสามชาติแล้ว อิอิ
เดี๋ยวนี้รายเดือนมันซื้อได้แล้วเหรอโดยไม่ผ่านบัตรเหรอ เรียกเก็บโดยผู้ให้บริการโทรเลยเหรอ
ได้มาระยะหนึ่งแล้วครับ หลายเดือนแล้ว ของ AIS อะครับ ส่วนอีกค่ายคือ dtac เห็นบอกจะให้บริการนี้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ให้บริการรึยัง?
ถ้าเป็นรายเดือนก็จะบวกค่าใช้จ่ายคอนเทนท์รวมกับค่าบริการไปเรื่อยๆเลย หากกดซื้อ แล้วไปเก็บรอบเดียวตอนสิ้นรอบบิล
ข้อดีก็ซื้อได้เรื่อยๆ ไม่ต้องไปผูกบัญชีกับบัตรเครดิต ข้อเสียหากซื้อโดยไม่คำนึงหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เป็นแบบในข่าวละครับ บิลช็อค – -"
ถ้าเป็นเติมเงิน เวลาซื้อก็จะหักจากเงินระบบเลยครับ
ข้อดีเหมือนแบบรายเดือนเลย ข้อเสียก็คือ หากยอดเงินหมด มันก็ซื้อไม่ได้ (ระบบนี้ผมว่าคุมการใช้เงินได้ดีนะ)
กรณีตามข่าว การใช้งานเน็ตคงเป็นแบบ Mobile Data ด้วยนะ ถ้าใช้ WiFi ข่าวบิลช็อคคงไม่เกิด เหอๆ
แต่จะว่าไปท่างผู้ให้บริการน่าจะมีระบบจำกัดเพดานการใช้จ่ายนะ ป้องกันเผื่อเกิดแบบกรณีนี้ เช่น ซื้อได้ไม่เกิน 5000 บาท หลังจากนั้น หากอยากใช้มากกว่าเพดาน ก็ต้องแจ้งขอปลด ให้ใช้มากกว่า 5000 ได้เป็นต้นครับ
ผมก็คิดว่านะครับ…แสนแปดมันเหลือเชื่อนะครับ ผมว่าไม่น่าจะมีเพดาน เพราะปรกติถ้าเราใช้เกินวงเงิน ระบบจะตัดอัตโนมัติ หรือจนกว่าเราจะจ่าย หรือโทรเข้าแจ้งขยายวงเงิน
บริการพวกนี้ปิดที่โอเปอเรเตอร์เลยได้หรือเปล่าครับ
ปกติเขามีลิมิตยอกค่าใช้จ่ายไม่ใช่เหรอกครับว่าค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินเท่าไหร่ แบบนี้ก็ไม่ต้องจ่ายก็ได้นี่ครับ ให้ทาง AIS จ่ายให้เนื่องจาก ไม่ตัดยอดเอง (จริงไม่จริง รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ)
AIS ถ้าเป็นลูกค้าที่ใช้มานานวงเงินจะไม่มีลิมิตครับ ยกเว้นเราไปทำเรื่องกำหนดวงเงิน
เคยโดนมาแล้วเหมือนกัน แต่ผมหลักหมื่นต้นๆ คืนไม่ได้ด้วย
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378412440/
บทสรุป AIS ต้องรับไปเองนะครับ เพราะทำระบบมาไม่ดีเองไม่มีการป้องกัน
เอาไว้ยับยั้งชั่งใจตัวเองก่อนซื้อได้ดีเหมือนกันนะครับเนี่ยะ
แต่ก็โดนไปไม่น้อย
ขอถามนะคะ เราก็ตั้งรหัสแล้ว แต่ทำไมพอโหลด app ไม่เห็นให้ใส่ pwd เลยค่ะ แอบงงค่ะ
เฉพาะกับแอพที่เสียเงินครับ ถึงจะมีให้ใส่รหัสที่ตั้งไว้…
ถ้าเป็นแอพฟรี สามารถโหลดได้เลย โดยที่ไม่ต้องใส่รหัส แม้จะตั้งรหัสไว้ก็ตามครับ