เห็นวันนี้ i-mobile IE 6010 เป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายเพราะความที่มันเป็นแอนดรอยด์ที่ค่าตัวถูกมาก เพียง 6650 บาท!! ทางเราเลยไม่รอช้า รีบไปสอยมาเพื่อรีวิว ตัดหน้างานเปิดตัวที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่เซ็นทรัลเวิร์ล เอาหละมาดูกันเลยว่าเป็นยังไงบ้าง!!

สเปค

– หน้าจอ Capacitive Touchscreen ขนาด 240×400 พิกเซล
– รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android 1.6 Donut
– CPU Intel XScale-V3 แต่ยังไม่ทราบความถี่
– RAM 64 120 MB
– ROM 300 MB ส่วนที่ใช้ได้ (Directory /data) มีพื้นที่เหลือประมาณ 96 MB (แต่ใน Task Manager บอกว่า 55 MB ชักจะงง)
– มี microSD แถมมาให้ 2 GB
– Tri Band GSM 900 / 1800 / 1900
– มี WiFi/Bluetooth/GPRS
– ไม่มี GPS
– กล้อง 3.2 ล้านพิกเซลพร้อม Auto Focus
– เชื่อมต่อกับ adb ได้
– แบตเตอรี่ 1200 mAh
ไม่มี Google Service ดังนั้นไม่มี Market ให้โหลดโปรแกรมนะจ๊ะ!

แกะกล่อง

อุปกรณ์ในกล่อง(และข้างกล่อง)มีไม่เยอะดังนี้

ซึ่งได้แก่ตัวเครื่อง, แบตเตอรี่, Small Talk, Wall Charge, สาย USB, ซองผ้า และ microSD Card 2GB แปะไว้ข้างกล่อง

ตัวเครื่องและวัสดุ

แว้บแรกที่ได้เห็นตัวเครื่อง รู้สึกว่ามันออกแบบมาได้น่ารักดีนะ (ถึงจะดูจีนไปหน่อยก็ตาม) วัสดุก็ทำออกมาได้ดี ไม่ดูราคาถูกไป

เอ้า!! ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ มาดูกันว่ารอบๆตัวหน้าตาเป็นยังไง






ดูจากภาพก็จะรู้ว่าด้านหน้าทำจากวัสดุใสทำให้รอยนิ้วมือติดง่ายมาก แค่ Touch หน้าจอหรือกดปุ่มก็เป็นรอยนิ้วมือแล้ว ต้องคอยเช็ดเรื่อยๆ

ความหนาแน่นของงานประกอบถือว่าอยู่ในระดับดี ไม่มีโคลงเคลงอะไร น้ำหนักถือดูแล้วน่าจะหนักสัก 100g นิดๆ

ปุ่มของเจ้า IE 6010 นี้ดูจะน้อยกว่าชาวบ้านนิดหน่อยขาดปุ่มวางสายและปุ่ม Home ไป แต่จริงๆแล้วฟีเจอร์ก็ครบนะโดยใช้ปุ่มโทรออกและปุ่ม Back แทนในการใช้งาน

การใช้งานและโปรแกรมในเครื่อง

พูดถึงหน้าจอก่อนละกันนะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า สัมผัสแรกที่ได้จิ้มจอนั้นถึงกับตกใจ มัน… ทำงานได้อืดมาก เรียกว่ามีดีเลย์จากการสัมผัสประมาณ 0.5-1 วินาทีเลยทีเดียว เป็นประสบการณ์ที่แย่กว่าตอนใช้ HTC Magic ที่บ่นนักบ่นหนาว่าระบบสัมผัสอืดอย่างแฮงเสียอีก แต่หลังจากใช้ได้สักพักนึง… เปล่า มันไม่ได้เร็วขึ้น แต่เริ่มชินขึ้น ซึ่งก็ถือว่ารับได้นะ 😉

ระบบปฏิบัติการเป็น Android จ๋าปกติ ไม่มี UI พิเศษอย่างค่ายดังๆค่ายอื่น แต่ก็มี Home Screen อยู่ถึง 7 หน้าให้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างหนำใจ (จริงๆคือเยอะเกิน)

แต่จริงๆแล้วถึงโครง UI จะเหมือนเดิมเกือบหมดแต่ก็มีบางส่วนถูกวางให้ต่างจาก Android มาตรฐานอยู่ซึ่งก็คือตรงส่วนด้านล่างถูกวางเป็น 4 ปุ่มเหมือน iPhone นั่นเอง

โปรแกรมที่มากับเจ้า 6010 ก็เป็นโปรแกรมมาตรฐานของ Android ล้วนๆ จะมีที่เพิ่มเติมและไม่คุ้นเคยก็คือ FileManager และ Fm Radio เท่านั้นเอง

น่าเสียดายที่เจ้า IE 6010 ไม่มี Google Service (สังเกตดูจากตัวเครื่องได้ว่าไม่มีโลโก้ with Google ติดอยู่) ดังนั้นเราจึงไม่สามารถใช้บริการใดๆของ Google ได้เลย ที่จะหนักหนาที่สุดก็คือไม่มี Market นี่แหละ เลยโหลดอะไรมาลองไม่ได้สักอย่าง แต่จริงๆก็สามารถลงโปรแกรมเองได้เหมือนกัน แต่ต้อง Advance นิดหน่อย (ลงจากเว็บ http://www.andappstore.com หรือ http://slideme.org/ ไม่ก็ลงด้วย adb เอง)

สิ่งหนึ่งที่ชอบในตัว 6010 นี้คือมันมาพร้อม Task Manager อยู่ในส่วน Notification Screen สามารถไล่ปิดได้ตามอัธยาศัยเลย

นอกจากนั้นเจ้า 6010 ก็ยังมาพร้อม Accelerometer อีกด้วย แน่นอน ฟีเจอร์ Auto Rotate ก็เลยใ้ช้งานบน 6010 ได้ด้วย และทำงานได้ค่อนข้างเนียนพริ้วทีเดียว สนับสนุนแทบทุกโปรแกรมเลยด้วย ^ ^

ข่าวร้ายสำหรับคอ Multi Touch เพราะโปรแกรม Browser ไม่ได้มาพร้อม Multi Touch แต่อย่างใด

สุดท้ายถ้าพูดถึงความเร็ว โดยรวม 6010 ทำงานได้เร็วทีเดียว ถือว่าน่าพอใจค่อนข้างมาก

พิเศษ!! แอบเอาโปรแกรม jibjib จาก @sugree มาเทสต์บน 6010 ดู มาดูกันว่าผลเป็นไงมั่ง :p

ใช้งานได้สมบูรณ์นะคร้าบบบบ ^0^

ภาษาไทย

ุIE 6010 มาพร้อมกับภาษาไทยสมบูรณ์ทั้งระบบพิมพ์และแสดงผล

ฟอนต์ที่ใช้เป็นฟอนต์ DroidSans ที่แจกในเว็บแห่งนี้นี่เอง ส่วนระบบการพิมพ์ คีย์บอร์ดที่มากับ 6010 ออกมาแบบไม่ดีนัก แค่พอพิมพ์ได้เท่านั้น ไม่มีระบบ Suggestion จะพิมพ์อะไรต้องพิมพ์เอง!! ปัญหาใหญ่คือหน้าจอดันเล็ก (240 พิกเซล) ก็เลยทำให้การพิมพ์ยากเข้าไปอีก จะพิมพ์ทีก็ต้องพลิกจอทีถึงจะพิมพ์แบบสะดวกๆได้

Google Service

… ไม่มี … เป็นอันจบ!!

กล้อง

IE 6010 มาพร้อมกล้อง 3.2 ล้านพิกเซล

กล้องค่อนข้างไวแต่ก็ไม่พริ้ว มี Auto Focus ที่ทำงานได้ดี คุณภาพของภาพยังไม่ได้ลองว่าดีแค่ไหน แต่เท่าที่ดูผ่านหน้าจอถือว่าชัดใช้ได้เลย ถ้ามีโอกาสได้ถ่ายจะอัพรูปมาให้ดูกันอีกทีจ้า

System Info

เอาหน้า About Phone มาให้ดูกัน

สรุป

ถ้าคุณมองหา Android Phone ราคาถูกและใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง i-mobile IE 6010 เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณกำลังมองหา Android ที่เป็น Android จริงๆแล้ว ก็ขอให้ลืมมันเสียเถิด เพราะการที่มันไม่มี Google Service ทำให้มันกลายเป็น Smartphone ด้อยค่าไปเลยทีเดียว เพราะต้องไปหาโหลดโปรแกรมเอง ไม่มี Market ให้เราโหลดอะไรแล้ว

แต่ถ้าให้พูดถึงความคุ้มค่า ด้วยราคาเพียง 6650 บาทแต่ได้ Android Capacitive Touchscreen มา ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากเลยหละ ^ ^

ปล. ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะรีวิวเพิ่มให้ใน Blog หน้าจ้า ดังนั้นมีอะไรก็โพสท์ถามมาได้เลย!!