พอดีใช้ SGT แล้วอยากรู้ว่าจำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องลง app ป้องกันไวรัส เนื่องจาก Android เป็นระบบเปิด ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีก็ได้ แต่ถ้าลง app ป้องกันไวรัสแล้วจะทำให้เครื่องช้าหรือไม่ ถามผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
จำเป็นหรือไม่ที่ Android จะต้องลง app ป้องกันไวรัส
แล้วถ้าต้องลงป้องกันไวรัส ใช้ app ตัวไหนดี ใครมีดีก็บอกกันบางนะครับ
ผมใช้ Lookout อะครับก็โอนะ
ไม่เคยใช้และไม่เคยเป็นอะไร
ข้อควรระวัง!
1. อย่าทะลึ่งไปต่อ wifi สาธารณะ ที่มีคนเค้าเปิดให้ใช้ฟรี
2. เมลล์นั้นถ้าเรากรองดีๆ อะไรที่น่าสงสัยก็อย่าไปเปิด
3. เวลาลงแอปให้ดูว่ามันขอสิทธิ์อะไรเราบ้าง ถ้าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ Account ก็อย่าไปลงมันเลย
4. แอปแปลกๆที่ไม่ได้โหลดจาก Market ความปลอดภัยย่อมต่ำ
5. แอปที่เป็นพวกสาวเซ๊กซี่ดูไม่น่าปลอดภัยอยู่แล้ว โหลดบิทดีกว่า อุ้ย!!! เผลอ 😛
ผมยิ่งต้องมี anti-virus เลยครับ เพราะปฎิบัติตามข้อ5 เป็นประจำ 555+
คือจริงๆแล้ว android ยังไม่ติด virus ครับ
ตัว anti virus ที่มี เอาไว้ scan app ว่าเป็น มัลแวร์ หรือเปล่า
มันจะ scan ตอน ติดตั้ง และบางเวลา
แต่ผมว่ามันบ่อยเกิน ทำให้เครื่องผมหน่วง เลยเอาออกไป
ก็ระวังเอาตอนติดตั้ง ถ้าแปลก ก็ไม่เอา
+1…ผมก็ไม่ลงนะ
+2 อิอิ
+100 *0*
+1,000,000 ^^
ผมไม่ได้ลงครับ
…ไม่ลงดีกว่า สบายใจ (เพราะเวลามี ก็ไม่รู้ ไม่เครียด)
เวลาลงแล้ว เตือนให้วุ่นวาย… คริคริ
ไม่ลงเหมือนกัน…. รอพวกเมพ ถ้าเค้าบอกว่ามันต้องลงเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
ขอบคุณทุกท่านมากครับ เป็นความรู้สำหรับมือใหม่ทุกคนที่ใช้ Android
ไม่ลงอีกคนครับ
เคยลงครับ
+1 ไม่ลงแล้วยังไม่จำเป็นตอนนี้ครับ
ขี้เกียจลงอ่า
555+
+1 ไม่ลงครับ เพราะ android เป็นระบบปฏิบัติการ ที่พัฒนามาจาก Linux
จริง พูดได้คำเดี่ยว
Antivirus ไม่ต้อง มิจำเป็นเลย
เพราะยังไม่มี Virus ตัวไหนบุกมาได้
ในความคิดส่วนตัวผมว่า ณ ปัจจุบันมันมีนะครับ เนื่องจากระบบ Android ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
และทาง google ยังกรอง app ที่เข้า market ไม่ดีเท่าที่ควร
จึงไม่แปลกที่จะมีคนต้องการสร้างความก่อกวนหรือล้วงข้อมูล
ที่ linux ไม่มี virus (หรือมีแต่ไม่รู้) เพราะคนไม่นิยมใช้แพร่หลายเหมือน windows นะครับ ^^
ปล. ผิดถูกยังไงขอ comment เพิ่มด้วยนะครับ
มันมีแน่นอนในแอปที่แคร็กมาบางแอป มันจะล้วงข้อมูลบัตรในมาร์เก็ต แล้วสั่งจ่ายเงินโดยเราไม่รู้
– ต่อ wifi สาธารณะ ประจำ (ก็มันฟรี)
– เมลล์เปิดหมด (มีแต่เมล์ขยะ)
– ลงแอปทุกแอปที่พอใจจะลง
– แอปแปลกๆก็โหลดมาใช้ หาตามเว๊ปโหลดทั่วไป
– แอปที่เป็นพวกสาวเซ๊กซี่ ก็มีนะ (แต่ดูเสร็จก็ลบและ)
สรุป ไม่จำเป็น ต้องมีครับ ถึงมีก็ทำอะไรกับระบบ Android ไม่ได้
เหมือนเอาแผ่น dvd ที่มีไวรัสไปเล่นกับเครื่องเล่น dvd ก็ไม่ทำให้เครื่องเล่น dvd ติดไวรัส
แต่หากเอาไปเล่นในคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ก็จะติดไวรัสครับ
แล้วถ้าผมทำแบบคุณ แต่ลงสแกนไวรัส มันจะทำให้เคร่ื่องหน่วงมากมั้ยครับ เพราะผมชอบโหลดแอปจาก pandaapp
อยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยกลัวแล้วตอนนี้เพราะเบื่อแล้ว
แต่อยากทำให้ปรีดดดด
ผมมันพวกวิตกจริต ลงไว้ครับเป็นคบชอบดาวน์โหลดสารพัด ของแบบนี้มันมาแบบไม่รู้ตัวล้อมคอกไว้ก่อนวัวหายครับผม
ผมก็ไม่ใชลงแลวเหมือเครืองอืดกับกินแบตมากขึ้น
มัลแวร์ (Malware) คืออะไร?Solutionมัลแวร์ (Malware) ย่อมาจาก “Malicious Software” ซึ่งหมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ที่บุกรุกเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ และสร้างความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์นั้นๆ และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่าย หรือระบบสื่อสารข้อมูล ไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน หรือเป็นคำที่ใช้เรียกโปรแกรมที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อ ระบบคอมพิวเตอร์ทุกชนิดแบบรวมๆ นั่นเอง โปรแกรมพวกนี้ก็เช่น Virus, Worm, Trojan, Adware, Spyware, Keylogger, hack tool, dialer, phishing, toolbar, BHO, Joke, etcแต่เนื่องจาก ไวรัส (Virus) คือ Malware ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลกนี้และอยู่มานาน ดังนั้นโดยทั่วไปตามข่าวหรือบทความต่างๆ ที่ไม่เน้นไป ในทางวิชาการมากเกินไป หรือเพื่อความง่าย ก็จะใช้คำว่า virus แทนคำว่า malware แต่ถ้าจะคิดถึงความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง เพราะ malware แต่ละชนิดไม่เหมือนกันครับคำอธิบายของ Malware แต่ละชนิด :Virus = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป แต่มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้องอาศัยไฟล์พาหะสิ่งที่มันทำคือ สร้างความเสียหายให้กับไฟล์Worm = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์, ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการหรือการเื่ชื่อมต่อที่ไม่มีการป้องกัน มันจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่นสิ่งที่มันทำคือ มักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย และระบบอินเทอร์เน็ตTrojan = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวน์โหลดเอาไปใส่เครื่องเอง หรือด้วยวิธีอื่นๆ สิ่งที่มันทำคือ เปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครื่องที่ติดเชื้อจากระยะไกล ซึ่งจะทำอะไรก็ได้ และโทรจันยังมีอีกหลายชนิดSpyware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวน์โหลดเอาไปใส่เครื่องเอง หรืออาศัยช่องโหว่ของ Web browser และระบบปฏิบัติการในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อสิ่งที่มันทำคือ รบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้Hybrid Malware/Blended Threats = คือ Malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกันPhishing = เป็นเทคนิคการทำ Social Engineer โดยใช้อีเมลล์เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ต เช่น บัตรเครดิต หรือพวก online bank accountZombie Network = เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมายKeylogger = โปรแกรมชนิดหนึ่งที่แฝงตัวเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเก็บข้อมูลการกดแป้นคีย์บอร์ด และดักเอารหัสผ่านต่างๆ เพื่อนำไปให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนำเอาไปใช้งานDialer = แอพพลิเคชั่นที่ทำงานโดยการสั่งให้โมเด็มคุณตัดการเชื่อมต่อจาก ISP ที่ใช้บริการ โดยหมุนหมายเลยไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ ทำให้มีค่าโทรศัพท์ที่สูงขึ้น สำหรับคนที่อยากใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่มีปัญหา ก็ควร ดูแลให้ถูกต้องตามขั้นตอนหลีกเลี่ยงพวกนี้ให้ไกล เพราะว่าไม่มีผลดีเลย
รู้แบบนี้ก็ควรจะมีantivirus ติดเครื่องกันไว้บ้างนะครับ เพราะตอนนี้ระบบปฎิบัติการandroidมีvirusเป็นอันดับ1ครับผม
Back
Top Android: เตือนภัย! แอพ Android ที่มีไวรัส มัลแวร์ เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 แอพในเดือนที่ผ่านมา! by ทีมงานTechXcite | 8 ก.ค. 2555 12:13 ☆ 2852 view
Android: เตือนภัย! แอพ Android ที่มีไวรัส มัลแวร์ เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 แอพในเดือนที่ผ่านมา!
ติดตามข่าว Android ที่น่าสนใจกับ เฮียณัฐ TechXcite ระบบปฏิบัติการ Android ถือเป็นระบบปฏิบิติการยอดฮิต ติดลมบน เพราะว่ามีเครื่องรองรับตั้งแต่เครื่องราคาไม่กี่พันบาท จนไปถึงหลายหมื่นก็มี จึงทำให้ OS นี้มีความนิยมครอบคลุมไปทุกตลาด แต่เมื่อมันฮิตขนาดนี้ จึงทำให้มีผู้ไม่หวังดี โรคจิตหวังจะทำลายมือถือของเพื่อนๆ โดยการปล่อยแอพที่เป็นอันตรายต่อมือถือของคุณ โดยในเดือนที่ผ่านมานี้มีการพบแอพ Android ที่อันตรายสูงถึง 20,000 แอพพลิเคชั่นทีเดียวข้อมูลนี้รายงานมาจากทาง Trend Micro นะครับ โดยผลสำรวจจากทาง TrendLabs ของบริษัทพบว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2012 มีแอพ Android ที่เป็นอันตรายอยู่ทั้งสิ้น 5,000 แอพ แต่พอมาในช่วงเดือนเมษายน ถึงมิถุนายนที่ผ่าน แอพมัลแวร์เหล่านั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 20,000 แอพเลยทีเดียวโดยแอพมัลแวร์เหล่านี้ กว่า 30% จะปลอมตัวเป็นแอพท็อปฮิตในการดาวน์โหลด และส่วนมากจะเป็นแอพฟรีครับ โดยเมื่อมันเข้ามาอาศัยอยู่ในมือถือของคุณแล้ว โดยมากแล้ววิธีการก่อกวนของมันคือ ทำให้คุณเสียตังเพิ่มขึ้น เช่น ส่งข้อความมั่ว, ส่งข้อความโฆษณามาให้คุณลำคาญบ่อยๆ, ใช้มือถือของคุณปล่อยไวรัสไปให้เพื่อนของคุณ, และที่ร้ายแรงที่สุด คือขโมยข้อมูลส่วนตัวบนมือถือของคุณ และเชื่อว่าในช่วงที่หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นวันสิ้นโลก ปลายปีนี้ จะมีแอพแบบนี้เพิ่มขึ้นถึง 129,000 แอพเลยทีเดียวแต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ เพราะว่าแอพมัลแวร์เหล่านี้มักจะอยู่ในแอพสโตร์เถื่อนครับ โดยที่ผ่านมา มีเพียง 17 แอพอันตรายเท่านั้นใน Google Play Store โดยมียอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 700,000 ครั้ง ก่อนที่จะถูกตรวจพบ และลบออกไปจาก Play Storeวิธีป้องกันแอพมัลแวร์อันตรายเหล่านี้ ก็ทำได้ไม่ยากครับ คือก่อนที่จะดาวน์โหลดแอพใดๆ ก็ตาม พยายามอ่านข้อมูลต่างๆ หรือความคิดเห็นให้ดีก่อนครับ หรือโหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น นอกจากนี้ก็ควรหาแอพพวกAnti-Virus มาลงไว้ที่เครื่องไว้บ้างก็ดีครับ ขอให้โชคดี ไม่มีไวรัสในโทรศัพท์นะครับby
อ้างอิงจาก http://www.techxcite.com/topic/10057.html
แนะนำantivirus ของavast!
http://m.avast.com/index
เพิ่มเติม
http://www.it-computertips.com/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5-app-android-%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/