วันนี้ทาง HTC ประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้สื่อและเวบไซต์ต่างๆ ได้ลองสัมผัสลูกพี่ลูกน้องของ One M9 อย่าง HTC One M9+ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น Special Edition ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยเปิดราคาที่ 24,990 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับช่วงงาน Thailand Mobile Expo พอดิบพอดี

จุดเด่นของ HTC One M9+ ที่เหนือกว่า One M9 นั้นก็มีทั้งเรื่องของหน้าจอ Quad HD หรือความละเอียดระดับ 2K, กล้องถึงแม้มีความละเอียด 20MP เท่ากัน แต่มี Duo camera มาให้ด้วย และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือปุ่ม fingerprint scan หรือเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่หน้าตาเหมือนปุ่ม Home โผล่มาแทรกช่องลำโพงด้านล่างของตัวเครื่องนั่นเอง

 

สเปค HTC One M9+

  • หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว Super LCD 3 ความละเอียด QHD (2560 x 1440)
  • ชิปประมวลผล MediaTek MT6795 Octa-core 2.2 GHz
  • RAM 3GB
  • ROM 32GB
  • รองรับ micro SD สูงสุด 2TB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
  • กล้องหลัง 20.7MP Duo-camera
  • กล้องหน้า UltraPixel 4MP
  • หน่วยความจำภายใน 32GB
  • รองรับ micro SD สูงสุด 2TB
  • รองรับ 4G LTE
  • ลำโพง BoomSound พร้อม Dolby Surrond
  • แบตเตอรี่ 2,840 mAh

 

HTC One M9+ นั้นจะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยหันทั้งหมด 3 สี โดย 2 สีแรกที่จะเข้ามาทำตลาดคือ Gold On Silver และ Gun Metal Grey ส่วนสีที่ 3 หรือ Gold On Gold นั้นจะเข้ามาวางขายเช่นกัน แต่อาจจะต้องรออีกสักหน่อย

วัสดุของ One M9+ นั้นยังคงใช้โลหะเป็นหลัก และยังคงดีไซน์เดิมจาก One M8 แบบดูเผินๆ นี่ไม่ได้ต่างกันเลย แต่บริเวณฝาหลังก็มีการเพิ่มมิติด้วยลายขัดบนโลหะ ที่เรียกว่า brushed metal ให้ดูมีมิติมากขึ้น ส่วนที่ขอบด้านข้างนั้นใช้การขัดให้ขึ้นเงา ไม่ว่าจะเป็นแถบสีทองของ Gold on Silver หรือ Gun Metal Grey

ปุ่มกดต่างๆ นั้นจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ซึ่งเห็นแล้วอาจจะงงๆ เพราะปุ่ม volumne rokr หรือปุ่มปรับเสียงนั้นแยกออกจากกัน ทำให้ดุเผินๆ แล้วงงว่าทำไมมีถึง 3 ปุ่ม สังเกตุดีๆ ปุ่ม power นั้นจะมีลายก้นหอยอยู่บนตัวปุ่ม เวลาเอานิ่้วไปแตะๆ ก็จะรู้สึกได้ ส่วนช่องบนสุดที่เห็นนั่นคือช่อง microSD ครับ ช่อง nano SIM จะอยู่อีกฝั่งนึง

ส่วนของกล้องถ่ายภาพ 20MP Duo Camera นั้น ทาง HTC เลือกใช้เซนเซอร์จากทาง Toshiba สำหรับกล้องหลัก และใช้ Sapphire glass เป็นตัวป้องกันรอยขีดข่วน เลนส์ที่ใช้เป็นเลนส์ไวด์ 27.8 มม. และมีค่า f/2.2 รองรับการบันทุกวิดีโอ 4K

กล้องหน้าของ One M9+ ทาง HTC เลือกใช้ Ultra Pixel Camera ที่มีจุดเด่นในเรื่องการรับแสงที่ดีกว่ากล้องหน้าทั่วไป มีค่า f/2.0 เลนส์กว้าง 26.8 มม. รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 1080p

ส่วน fingerprint scan ที่หน้าตาประหลาด (สาวก HTC หลายๆ คนบอกว่าไม่ได้ประหลาดแต่อุบาทว์เลยหละ) นั้นเป็นปุ่มแบบสัมผัสใช้สำหรับแตะเท่านั้น ไม่ใช่ปุ่มกด สังเกตุได้ว่ามันจะจมลงไปจากตัวเครืองเล็กน้อย และเป็นแบบ multi direction คือสามารถสัมผัสจากแนวไหนก็ได้ ตั้งนอน ทะแยง ตะแคง หรือกลับหัว ก็สามารถปลดล็อคเครื่องได้ และยังสามารถใช้เป็นปุ่ม Home กดกลับมาหน้าโฮมได้ด้วย แต่ถ้าอยากจะใช้เป็นปุ่มสำหรับเปิดเครื่องด้วยนั้น ต้องเปิดใช้ฟังก์ชั่น fingerprint scan ซะก่อน

 

HTC One M9+ นั้นนอกจากดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันแล้ว ว่ากันตามตรงก็มีจุดที่แตกต่างจาก One M9 หลายจุดอยู่เหมือนกัน รวมถึงมีคำถามเกี่ยวกับสมรรถนะของ CPU ที่เลือกใช้ Mediatek Helio X10 แทนที่ Snapdragon 810 อยู่ด้วย วันนี้ผมเลยถือโอกาสเอา One M9 มาลองเทียบขนาดและประสิทธิภาพของ CPU แบบคร่าวๆ ไปด้วย

ก่อนอื่นก็ลองมาดุขนาดและหน้าตาของ One M9+ เมื่อเทียบกับ One M8 และ One M9 ซะก่อน จะเห็นได้ชัดเลยว่า One M8 และ One M9 นั้นหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ แถมขนาดก็เท่าๆ กันอีกต่างหาก คือดูยังไงก็แทบจะไม่ต่างกัน

ส่วน One M9+ ถึงแม้ขนาดหน้าจอจะยัง 5.2 นิ้วเท่ากัน แต่ก็ต้องทำการดีไซน์และขยายขนาดขึ้นมานิดหน่อย ให้กับปุ่ม fingerprint scan ที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่องนั่นเอง 

ส่วนกล้องหลังของ One M9 และ One M9+ ถึงแม้จะมีความละเอียดเท่ากันที่ 20MP แต่ของ One M9+ มีการเพิ่ม Duo Camera เข้ามาสำหรับการถ่ายภาพแบบมีมิติเหมือนเมื่อตอน M8 ซึ่งทำให้กล้องของ One M9+ สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายภาพแบบ Hi Resolution หรือถ่ายแบบ Duo Camera 

ซึ่งตัวอย่างภาพถ่ายและโหมดกล้องนั้น ผมจะมาเพิ่มเติมให้อีกทีในช่วงประมาณเที่ยงๆ พรุ่งนี้นะครับ ขอเอาไปลองถ่ายหลายๆ แบบดูก่อน ^ ^

ส่วนฝั่งของ CPU นั้น ผมได้ลองใข้ Antutu ทดสอบประสิทธิภาพระหว่าง One M9 และ One M9+ ซึ่งผลออกมาก็พบว่า MediaTek Helio X10 นั้นก็ถือว่าทำคะแนนออกมาได้ดีเลยทีเดียว ซัดไป 54090 คะแนน ถือว่าใกล้เคียงกับ Snapdragon 810 บน One M9

ส่วนการทดสอบอื่นๆ นั้น เดี๋บวรออ่านในรีวิวฉบับเต็มของ HTC One M9+ ครับ คาดว่าคลอดก่อนงาน Thailand Mobile Expo ที่จะเริ่มวางจำหน่ายแน่นอน ^ ^