Nintendo Switch เริ่มวางขายไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2017 และได้รับความนิยมแบบสุดๆ จากทั้งความสนุกสนานและหลากหลายของเกม และยังสามารถในการพลิกแพลงรูปแบบการเล่นได้อีกมากมายทั้งการแยกคอนโทรลเลอร์เพื่อเล่น 2 คน, ต่อ TV เล่นแบบจอใหญ่, Labo ฯลฯ แต่ถ้าใครอยากได้เครื่องเกมเอาไว้เล่นแบบไม่ต้องมีลูกเล่นอะไรมากแถมยังมีราคาที่ย่อมเยากว่า ก็เตรียมตัวรอ Nintendo Switch Lite กันได้เลย
เป็นข่าวที่ร่ำลือกันมาได้ซักพักแล้วว่า Nintendo จะเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นเล็กอย่าง Nintendo Switch Lite ออกมา ซึ่งสุดท้ายก็ได้เปิดตัวออกมาจริงๆ โดยเครื่องเกมพกพารุ่นนี้มีคำว่า Lite พ่วงมา ก็แสดงว่ามันจะต้องโดนลดสเปค + ฟีเจอร์บางอย่างลงจากรุ่นพี่แน่นอน (รวมถึงราคาด้วย) ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่เล็กลงจาก 6.2 นิ้ว เหลือ 5.5 นิ้ว, ตัดระบบเชื่อมต่อกับ TV ด้วยสาย USB-C ออก, ตัดเซ็นเซอร์ IR Motion Camera ออก, ตัดระบบสั่นออก และคอนโทรลเลอร์ที่ไม่สามารถแยกออกจากตัวเครื่องเหมือนรุ่นแรกได้แล้ว
ดีไซน์ของ Nintendo Switch Lite เรียกว่าเหมาะกับการเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาสุดๆ ด้วยรูปร่างที่ผอมบาง พกพาง่าย (คล้ายๆ กับ PSP ของทาง Sony) และมีปุ่มต่างๆ ครบครัน วางอยู่ในตำแหน่งที่สามารถกดได้ง่ายๆ ถนัดมือ เหมือนกับคอนโทรลเลอร์เกมทั่วไป มีทั้งก้านโยก Analog 2 ฝั่ง ซ้ายขวา, ปุ่มทิศทาง, ปุ่ม Shoulder และปุ่ม Trigger ส่วนขนาดตัวเครื่องของ Switch Lite อยู่ที่ 91.1 x 208 x 13.9 มม. มีน้ำหนักอยู่ที่ 275 กรัม เทียบกับ Switch รุ่นปกติ 102 x 239 x 13.9 มม. น้ำหนัก 398 กรัม (รวมคอนโทรเลอร์)
และเนื่องจากฟีเจอร์ IR Motion Camera ที่โดนตัดออกไป ทำให้ Switch Lite เล่นได้เฉพาะเกมที่รองรับ Handheld Mode เท่านั้น ไม่สามารถเล่นพวกเกมที่ใช้ Motion Control ได้ แต่ถ้าใครอยากเล่นเกมแบบหลายคนในหน้าจอเดียวกัน อย่างเช่น Super Smash Bros, 1-2 Switch, Super Mario Party ก็สามารถซื้อ Joy-Con มาใช้ได้ด้วย
Switch Lite สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องอื่นๆ รวมถึง Switch รุ่นปกติ เพื่อเล่นเกมแบบ Local Multiplayer ได้สูงสุดถึง 8 เครื่อง หรือถ้าเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็จะสามารถเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ ทั่วโลกได้เลย
มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีเหลือง, สีเทา, สีเทอร์คอยซ์ และจะมีรุ่นพิเศษ Zacian and Zamazenta สำหรับแฟนๆ Pokemon ตามออกมาทีหลังด้วย
รุ่นพิเศษ Zacian and Zamazenta
Nintendo Switch Lite จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2019 เป็นต้นไป ในราคา 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 6,100 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : Nintendo
อันเดิมจุดเด่นรอบด้านอยู่แล้ว…แตกไลน์เอาใจลูกค้าอีกกลุ่มซะงั้น
ราคาตัวแรกก็ล่วงลงมาแถวๆ 9xxx แล้วคุ้มกว่านาจา ถ้าเทียบกับลูกเล่นที่มี
เสียอย่างเดียวเกมส์พี่แกแพง ไม่เคยลดไม่มีโปรฯ
แตกไลน์เพื่อเพิ่มลูกค้า ในขณะที่ของเดิมก็ผลิตขายอยู่ ไม่ดีตรงไหนครับ? เพราะลูกค้ามีความชอบไม่เหมือนกัน กลุ่มคนที่คิดว่าจะถือเล่นไปตลอด เล่นเกมคนเดียวมันก็มี (แต่มันก็ยังออนไลน์หรือแลนเล่นหลายคนได้อยู่ดี) ราคาเบากว่าหลายพันแบบนี้มันก็ทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นนะ
"ร่วง" ไม่ใช่ "ล่วง"
เกมแพงอันนี้จริง โดยเฉพาะเกมของพี่แกเอง ผ่านมากี่ปียังราคาเต็มตลอด มีช่วงนึงลด ผมนี่กดมาเกือบทุกเกมเลยมั้ง
โดยส่วนตัว ผมก็ว่ารุ่นปกติคุ้มกว่า และถ้าคิดแบบนี้ ก็แปลว่าเราไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของเค้านั่นเอง
แน่ใจนะว่า "ราคาเบากว่าหลายพัน"
555
เล่นไม่ได้ทุกเกม ความละเอียดจอ 600กว่าp เข้าไทยราคา+เพิ่ม ถูกกว่าแถวๆ 2-3 พัน
เพิ่มเงินเหอะเหลือดีกว่าขาด
เบากว่าหลายพัน ถึงจะ 2 – 3 พัน มันก็หลายพันมั้ย
.
จะหน้าจอเท่าไหร่ ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เพราะเค้าทำมาเพื่อพกพาไปเล่นที่ไหนก็ได้ แล้วกลุ่มคนที่เค้าต้องการแบบนั้น จอเล็กแค่นั้น 600p ก็น่าจะได้อยู่นะ บางเกมที่ภาพเทพๆ ยังโดนลดเหลือ 540p ด้วยซ้ำ
.
เหลือดีกว่าขาดน่ะถูก ผมเองก็เลือกตัวธรรมดาไม่สนใจรุ่น Lite อยู่แล้ว แต่ผมมองว่าตัว Lite มันก็มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเช่นกัน คือผมไม่ได้เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลอะครับ ผมมองว่าเค้าทำมาเพิ่มฐานลูกค้า อารมณ์ประมาณเกมบอยแอดวานซ์ 2019 อะไรแบบนี้ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้
.
สุดท้าย ใครใคร่ซื้อก็ซื้อครับ แม้ผมไม่ซื้อแต่ผมก็มองว่าทำออกมาก็ดีแล้วนะ
อย่างน้อย ใครเพิ่งซื้อรุ่นปกติมาก็ยังไม่เสียใจ เพราะรุ่นล่าง ไม่ตอบโจทย์ผู้เล่นบางกลุ่ม ส่วนกลุ่มที่ถูกใจ ก็อาจยอมซื้ออีกเครื่องก็ได้ เอาไว้เล่นแบบพกพา แล้วไปโอนเซฟกันทีหลัง
สำหรับผม รอตัวโปรดีกว่า คิดว่ามาแน่ คาดหวังเรื่องสเป็กที่แรงขึ้น จอใหญ่กว่าเดิมหน่อย แบ็ตอึดขึ้น คือจัดเต็มเรื่องการเล่นแบบดีๆ ไปเลย ราคาว่ากันอีกที อย่างน้อยเกมที่กินเครื่องโหดๆ ในตอนนี้ เล่นแล้วเฟรมร่วง กระตุก หน่วง ภาพเบลอ (เนื่องจากโดน dynamic resolution ปรับลดลงมา) จะเล่นได้ลื่นไหล ภาพคมและสวยขึ้น ไม่ต้องเทียบชัน PS4, PC, XBOX หรอก แต่ขอให้ดีกว่าปัจจุบันนี้ประมาณหนึ่งก็พอ
ปู่นินออกมารองรับอนาคตอย่างสวยงาม เครื่องเล็กพกสะดวก
ราคาถูก เอาไว้รับการ streaming เกมส์ในอนาคตอันใกล้
จุดแข็งของ nintendo คือเกมส์ exclusive ไม่ว่าจะมีกี่ค่าย
ทำ streaming แข่งกัน ปู่นินก็ยังอยู่รอดด้วยจุดแข็งอยู่ดี
ลืมนึกไปเลยคับว่า ปู่แกอาจจะเอาออกมาเน้นคนเล่นออนไลน์ใน eco-system ของปู่แกเอง
มีสองแบบก็เป้นทางเลือกใหม่ๆดีครับ แต่ส่วนตัวถ้าเลือกได้ ก็เลือกแบบเสียบทีวีดีกว่า
เพิ่มทางเลือกแหะ 🙂 🙂