10 จอยเกมน่าใช้ รุ่นไหนดี อัปเดต 2024 เล่นบนพีซี ใช้กับโทรศัพท์ได้ เริ่มต้นหลักร้อย ฟังก์ชันครบ เกมเมอร์ต้องมี

ตามปกติแล้วการเล่นเกมบนพีซีเรามักจะใช้เมาส์กับคีย์บอร์ดเป็นหลักอยู่แล้ว แต่สำหรับเกมบางประเภท เช่น เกมแข่งรถ เกมเตะบอล หรือเกมแอคชั่น การเล่นผ่านตัวจอยคอนโทรลเลอร์ก็เป็นอะไรที่ได้อรรถรสกว่ามาก ๆ เพราะเราสามารถควบคุมได้ละเอียดแม่นยำมากขึ้นกว่าการใช้คีย์บอร์ด แถมปุ่มกดต่าง ๆ ยังอยู่ใกล้มือกดง่าย และปัจจุบันนี้จอยเกมราคาก็ไม่แพงมากแล้ว เพียงหลักร้อยบาทก็ซื้อมาติดโต๊ะไว้ได้ แต่หลายคนอาจจะเลือกไม่ถูกว่ารุ่นไหนดี วันนี้ทีมงานคัดมาให้แล้ว 10 รุ่น คิดว่าน่าจะถูกใจเพื่อน ๆ กันอย่างแน่นอน

ก่อนจะซื้อจอยเกมต้องรู้อะไรบ้าง?

• Layout ของจอย หลัก ๆ แล้วมีทั้งหมด 3 แบบ
  • แบบ PlayStation ที่ปุ่มอนาล็อกทั้งสองอันจะวางอยู่ใกล้กัน
  • แบบ Xbox ที่ปุ่มอนาล็อกจะวางอยู่ห่างกัน
  • แบบ Nintendo Switch ที่ปุ่ม A, B, X,Y จะวางสลับตำแหน่งกับ Xbox
• Input API ของจอยเกมเป็นแบบไหน หลัก ๆ แล้วมี 2 แบบ
  • D-Input (Direct Input) สำหรับใช้กับเกมเก่า ๆ
  • X-Input (Xbox Input) มาตรฐานที่เกมใหม่ ๆ เลือกใช้
• เกมส่วนมากบน Steam รองรับคอนโทรลเลอร์ Xbox เป็นพื้นฐาน
  • ถ้าเกมไหนรองรับจะมีข้อความขึ้นว่า Partial Controller Support
• แบบมีสาย กับแบบไร้สาย ตามความสะดวกในการใช้งาน
  • แบบมีสายมีข้อดีคือ ได้ความเสถียรไม่มี ดีเลย์ แต่ก็แลกมากับสายยาวเกะกะ
  • แบบไร้สายมีข้อดีคือ ใช้งานสะดวกคล่องตัว แต่ก็แลกมากับสัญญาณอาจจะดีเลย์บ้าง และต้องชาร์จแบตเปลี่ยนถ่าน
• แบตในตัว หรือใช้ถ่าน เรื่องนี้เฉพาะจอยแบบไร้สายเท่านั้น
  • มีแบตในตัว ข้อดีคือเสียบชาร์จได้เลย ไม่ต้องหาถ่านให้วุ่นวาย ข้อเสียคือเวลาแบตเสื่อมเปลี่ยนยากกว่า และถ้าเล่นอยู่แล้วแบตหมดต้องรอชาร์จ
  • ใส่ถ่าน ข้อดีคือไม่ต้องรอชาร์จ เปลี่ยนถ่านแล้วเล่นได้ต่อเลย หมดปัญหาแบตเสื่อมเพราะเปลี่ยนใหม่ได้ตลอด ข้อเสียคือถ้าถ่านหมดแล้วไม่มีถ่านสำรองจะใช้งานไม่ได้ และถ้าใช้ถ่านธรรมดา จะสิ้นเปลืองเป็นขยะของโลก
• ไร้สายแบบไหน
  • Wireless 2.4 เป็นคลื่นที่ออกแบบมาให้เฉพาะใช้กับอุปกรณ์ตัวนั้นเท่านั้น ต้องใช้คู่กับ USB Reciver ข้อดีคือสัญญาณเสถียร โดนรบกวนได้ยากกว่า มีค่า Polling Rate ที่สูงกว่า ข้อเสียคือต้องใช้กับตัวรับสัญญาณที่มีมาให้เท่านั้น ถ้าทำหายจะใช้ไม่ได้ และเปลืองช่อง USB สำหรับคนที่ใช้โน้ตบุ๊ก
  • Bluetooth คลื่นความถี่สามัญที่อุปกรณ์ไร้สายใช้งานกันเยอะ ข้อดีคือ ใช้ง่าย ใคร ๆ ก็มี เช่น มือถือ โน้ตบุ๊ก ส่วนใหญ่มีหมดอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ตัวรับสัญญาณให้วุ่นวาย ข้อเสียคือ ด้วยความที่ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นนี้มีมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้อาจโดนรบกวนได้ง่ายกว่า และอัตราการส่งข้อมูลที่น้อยกว่าทำให้ค่า Polling Rate สูงสุดน้อยกว่า

10 จอยเกมน่าใช้ ราคาดีฟีเจอร์แน่น

• EGA TYPE J2 ราคา 590
• Logitech F310 ราคา 690
• 8Bitdo Ultimate C 81HC ราคา 790
• GameSir Nova Lite ราคา 990
• HyperX Clutch Gladiate RGB ราคา 1190
• MSI FORCE GC30 V2 ราคา 1199
• Cooler Master Storm Controller v1 ราคา 1390
• Flydigi Direwolf 2 ราคา 1599
• Xbox Wireless Controller ราคา 2290
• Sony DualSense ราคา 2390

1. EGA TYPE J2

• Layout : Xbox
• Battery : เล่นได้ 8 ชม.
• Connectivity : Wireless USB 2.4 GHz, USB-C
• Platform : Windows, PS3, Nintendo Switch
• ราคา : 590 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

หากใครที่กำลังหาจอยเกมราคาเริ่มต้นคุณภาพดีอยู่ จอยรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากราคาจะประหยัดมาก ๆ แล้ว ยังมาพร้อมกับดีไซน์สวยไฟ RGB รอบตัวเครื่อง ดูล้ำอนาคต Cyberpunk สุด ๆ

ด้านปุ่มกดก็มีมาให้ครบตามมาตรฐานจอย Xbox แถมมีปุ่มพิเศษอย่าง Turbo และ Clear มาให้ด้วย เอาไว้เร่งความเร็วเวลากดปุ่มสำหรับใครที่ต้องเล่นเกมที่ต้องกดปุ่มรัว ๆ และจอยตัวนี้ก็มีมอเตอร์สั่นมาให้ด้วย ช่วยให้เล่นเกมได้อรรถรสเพิ่มขึ้นแน่นอน

โดยจอยรุ่นนี้รองรับ Input หลายแบบด้วยทั้งแบบมาตรฐาน X-Input สำหรับเล่นเกมใหม่ ๆ แบบจอย Xbox และแบบ Direct-Input สำหรับเล่นเกมเก่า ๆ ด้วย

ด้านการเชื่อมต่อจอยตัวนี้สามารถใช้แบบไร้สายผ่านตัว USB Reciver ได้ เหมือนจอยที่ราคาสูงกว่านี้ด้วย ใครอยากได้จอยไร้สายรุ่นนี้ก็น่าสนใจ ส่วนข้อสังเกตสำหรับใครที่ไม่ได้ชอบไฟ RGB อาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เพราะรุ่นนี้ให้มาแบบล้น ๆ

2. Logitech F310

• Layout : PlayStation
• Battery : ไม่มี
• Connectivity : USB-A
• Platform : Windows, ChromeOS, ANDROID TV
• ราคา : 690 บาท
• ประกัน : 3 ปี
• ตามไปตำ : Link

จอยรุ่นถัดไปนี่บอกเลยว่าอยู่คู่วงการพีซีมาอย่างเนิ่นนานอย่าง Logitech F310 แต่ยังคงเป็นจอยคุณภาพดีที่เกมเมอร์ไว้ใจ มีมาตรฐาน มาพร้อมกับ Layout สุดคลาสสิกแบบเดียวกับจอย PlayStation เหมาะสำหรับคนที่ถนัด Layout แบบนี้มากกว่าแบบ Xbox

ขนาดเล็กกะทัดรัด จับถนัดมือแบบฉบับจอยเครื่อง PlayStation ตัวจอยรองรับการปรับโหมด Input ทั้งแบบมาตรฐาน X-Input สำหรับเล่นเกมใหม่ ๆ แบบจอย Xbox และแบบ Direct-Input สำหรับเล่นเกมเก่า ๆ ด้วย

ส่วนข้อสังเกตรุ่นนี้จะมีเยอะหน่อย เพราะด้วยความที่ออกมานานมากแล้ว เลยอาจจะสู้รุ่นน้องที่ออกมาใหม่กว่าไม่ได้ เช่น ไม่มีระบบสั่น ยังคงเป็นจอยแบบมีสายอยู่ และตัวปุ่ม LT RT ค่อนข้างแข็ง ต้องใช้แรงกดเยอะ ทำให้คนที่เล่นเกมแนวแข่งรถเวลาเล่นไปนาน ๆ อาจจะเมื่อยได้

3. 8Bitdo Ultimate C 81HC

• Layout : Xbox
• Battery : 480mAh เล่นได้ 25 ชม.
• Connectivity : Wireless USB 2.4 GHz, USB-C
• Platform : Windows, Android, Raspberry Pi, SteamOS
• ราคา : 790 บาท
• ประกัน : 7 วัน
• ตามไปตำ : Link

สำหรับใครที่เล่น Nintendo Switch หรือเป็นสายเกมคอนโซลน่าจะเคยได้ยินจอยจากแบรนด์นี้มาบ้างกับ 8Bitdo ผู้ผลิตจอยทางเลือกบน Switch เป็นหลัก แต่ก็มีจอยที่วางปุ่มแบบ Xbox สำหรับใช้กับพีซีออกมาด้วย

บอกเลยว่าถูกใจสายคลีนชอบอะไรที่มินิมอล เพราะจอยรุ่นนี้ดีไซน์ออกมาได้เรียบมาก แถมสีที่มีให้เลือกยังหวานสุด ๆ ไปเลยด้วย แต่ก็ยังให้ปุ่มกดมาครบตามมาตรฐานเหมือนเดิม ปุ่มกดเงียบ สีสันสวยงามดี แถมรุ่นนี้ใช้งานแบบไร้สายได้ด้วยผ่าน USB Reciver บอกเลยว่าใครที่กำลังหาจอยไร้สายราคาไม่แพงรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

สำหรับโหมดการทำงานมีทั้งหมด 2 แบบ คือ X-Input และ D-Input เอาไว้เล่นเกมเก่า เกมใหม่ได้หมด และมีระบบสั่นด้วยช่วยให้เล่นเกมได้อารมณ์เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนข้อสังเกตคงเป็นเรื่องของดีไซน์ที่มินิมอล ไม่ได้มีความฉูดฉาดมากนัก แต่เรื่องแบบนี้ถ้าใครชอบก็ชอบเลยขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ

4. GameSir Nova Lite

• Layout : Xbox
• Battery : 600mAh
• Connectivity : Wireless USB 2.4 GHz, Bluetooth, USB-C
• Platform : Windows, Android, iOS, SteamOS, Switch
• ราคา : 990 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

ถัดมาอีกรุ่นบอกเลยว่าก็คุ้มไม่แพ้กันเพราะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ได้ปุ่มอนาล็อกแบบ Hall Effect เวลาใช้ไปนาน ๆ แล้วจอยจะไม่มีอาการดริฟต์ หรือจอยขยับเองเป็นผี เพราะระบบกลไกภายในใช้เป็นสนามแม่เหล็ก แทนกลไก Mechanial แบบเดิม

ส่วนดีไซน์อาจจะไม่หวือหวามากนัก เรียบ ๆ ดูดมินิมอลแบบเท่ ๆ ปุ่มก็มีมาให้ครบตามมาตรฐาน มีระบบสั่นด้วย รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งผ่านตัว USB Reciver และผ่าน Bluetooth ทำให้จอยรุ่นนี้สามารถใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ รวมไปถึง Nintendo Switch ก็ใช้ได้เช่นกัน ตัวจอยมีฟังก์ชันการสลับปุ่มให้เป็น Layout แบบ Switch

จุดเด่นอีกอย่างคือมีฟังก์ชันมาให้ใช้เยอะมาก ๆ เช่น การตั้งค่า Dead Zone ปรับความแรงการสั่น เปลี่ยนโหมดการทำงานของปุ่ม และ ฯลฯ บอกเลยว่าเป็นจอยที่ครบมากในราคาที่ต่ำกว่า 1 พันบาท

5. HyperX Clutch Gladiate RGB

• Layout : Xbox
• Battery : ไม่มี
• Connectivity : USB-C
• Platform : Windows, ChromeOS
• ราคา : 1190 บาท
• ประกัน : 2 ปี
• ตามไปตำ : Link

จอยรุ่นถัดไปบอกเลยว่าถูกใจสาย RGB แน่นอนเพราะรุ่นนี้ไฟ RGB มาแบบเล้น ๆ จับคู่กับบอดี้ตัวเครื่องแบบใสเห็นแผงวงจรภายใน ดีไซน์บอกเลยว่าล้ำสุด ๆ ตอนเล่นเกมนี้บอกเลยว่ามันจ้าซะเหลือเกิน เป็นจอยที่มีไฟ RGB สวยที่สุดรุ่นหนึ่งเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็เข้าไปปิดไฟได้ในโปรแกรม HyperX NGENUITY ได้นะ

จอยแบรนด์ HyperX ได้รับลิขสิทธิ์การผลิตจาก Xbox มาโดยตรง ดีไซน์มิติตัวเครื่อง และปุ่มกดนี้บอกเลยว่าเหมือนกันอย่างกับแกะ การันตีว่าใช้ได้กับเครื่อง Xbox หรือพีซี Windows ได้แน่นอน

แม้ว่าจะไม่มีระบบไร้สาย แต่จอยรุ่นนี้ก็สามารถถอดสาย USB-C ออกได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ นอกจากนี้ยังมีปุ่มมาโครด้านหลังจอย และช่อง 3.5 ให้ใช้งานด้วย

ข้อสังเกตคงเป็นเรื่องของวัสดุที่เป็นแบบใสทำให้ผิววัสดุมีความมันวาว ลื่นหลุดมือง่ายกว่าจอยรุ่นอื่น ในที่เหงื่อออกมือง่ายอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายเวลาเล่นเกมบนจอยนี้นาน ๆ

6. MSI FORCE GC30 V2

• Layout : Xbox
• Battery : 600 mAh เล่นได้ 8 ชม.
• Connectivity : Wireless USB 2.4 GHz, Micro USB
• Platform : Windows, Android
• ราคา : 1199 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

หากพูดถึงแบรนด์ MSI เชื่อว่าผู้เล่นสายพีซี น่าจะรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแน่นอน โดยนอกจากผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊กแล้ว ยังมีเกมมิ่งเกียร์แบรนด์ตัวเองอีกด้วย ซึ่งจอยตัวนี้เป็นหนึ่งในนั้น สินค้าที่ทำออกมามีคุณภาพใช้งานได้ตามมาตรฐานแน่นอน

ดีไซน์ภาพรวมจะคล้ายกับจอย Xbox 360 มีปุ่มมาให้ครบถ้วน บอดี้สีขาวสวยเรียบง่าย จุดที่ทำให้รุ่งนี้พิเศษกว่ารุ่นอื่นคือตรงปุ่ม D-Pad หรือปุ่มลูกศร สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ตามความถนัดของแต่ละคน

ตัวปุ่มออกแบบมาให้ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยกดได้มากถึง 2 ล้านครั้ง การเชื่อมต่อมีทั้งแบบไร้สาย และแบบเสียบสาย ส่วนแบตเตอรี่ในจอยก็จุพอจะเล่นเกมได้นานสุดถึง 8 ชม. เป็นจอยเกมไร้สายคุณภาพดีราคาเป็นมิตรกระเป๋าเงินที่น่าซื้อมาใช้ ส่วนข้อสังเกตคงมีเรื่องเดียวที่พอร์ตยังใช้เป็น Micro USB อยู่

7. Cooler Master Storm Controller v1

• Layout : Xbox
• Battery : 1000mAh เล่นได้ 40 ชม.
• Connectivity : Bluetooth, USB-C
• Platform : Windows, Android, iOS
• ราคา : 1390 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

จอยคอนโทรลเลอร์น้องใหม่จากแบรนด์เจ้าพ่ออุปกรณ์แต่งคอม และเกมมิ่งเกียร์ Cooler Master โดยจอยรุ่นนี้มีดีไซน์ที่ทำออกมาคล้ายกับจอย Xbox รุ่นใหม่ ๆ ทำให้เราไม่ต้องปรับตัวเยอะก็สามารถใช้งานได้คล่อง ตัดกับสีสันที่ค่อนข้างโดเด่นอย่างสีดำ-ม่วง ช่วยให้จอยดูเด่นขึ้นมาเยอะเลย

เชื่อมต่อได้หลายแพลตฟอร์มทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ทั้งพีซี มือถือ และเครื่องเล่นเกม แถมมีปุ่มสลับอุปกรณ์ได้ง่ายมาบนตัวจอยด้วยเลย ฟังก์ชันเยอะ ปรับแต่งได้ละเอียดตามแพลตฟอร์มที่นำไปใช้งาน และระบบสั่นที่สามารถปรับความหนักเบาได้

แบตอึดใช้งานได้ 40 ชม. ให้แบตมาใหญ่ถึง 100 mAh ทำให้เราไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ บอกเลยว่าใครที่กำลังหาจอยเล่นเกมที่ใช้ได้หลาย ๆ เครื่องทั้ง พีซี และมือถือ บอกเลยว่าจอยรุ่นนี้คุ้มค่าน่าโดนมาก ๆ

8. Flydigi Direwolf 2

• Layout : Xbox
• Battery : 800mAh เล่นได้ 20 ชม.
• Connectivity : Wireless USB 2.4 GHz, Bluetooth, USB-C
• Platform : Windows, Android, iOS, SteamOS, Switch
• ราคา : 1599 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

ใครที่กำลังหาจอยเล่นเกมตัวจบที่ได้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในราคาที่ไม่แพงอยู่บอกเลยว่าต้องดูรุ่นนี้ เพราะได้ปุ่มอนาล็อกแบบ Hall Effect ที่เมื่อเวลาใช้ไปนาน ๆ แล้วจอยจะไม่มีอาการดริฟต์ หรือจอยขยับเองเป็นผี เพราะระบบกลไกภายในใช้เป็นสนามแม่เหล็ก แทนกลไก Mechanial แบบเดิม

ส่วนดีไซน์อาจจะไม่หวือหวามากนัก เรียบ ๆ แต่ก็ถอดแบบมาจากรุ่นที่แพงกว่าของค่ายอย่าง Apex4 เลย เพียงแต่จะตัดฟังก์ชันที่เกินความจำเป็นในการใช้งานพื้นฐานออก รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย และไร้สายทั้งผ่านตัว USB Reciver และผ่าน Bluetooth

ทำให้สามารถใช้ได้หลายอุปกรณ์มาก ๆ ทั้งพีซี โทรศัพท์ รวมไปถึง Nintendo Switch ก็ใช้ได้เช่นกัน แถมมีโปรแกรมมาให้ใช้งานตั้งค่าแบบละเอียดด้วย หรือใครจะไม่ใช้โปรแกรมจะตั้งค่ามาโครบนตัวจอยเลยก็ทำได้

นอกจากนี้ยังมี Gyroscope สำหรับเล่นเกมที่ต้องขยับจอยมาให้ด้วย บอกเลยว่าเป็นจอยที่ให้ฟังก์ชันมาเยอะมากในราคาประมาณ 1,500 บาท แถมนำไปใช้เล่นเครื่องไหนก็ได้ด้วย

9. Xbox Wireless Controller

• Layout : Xbox
• Battery : ไม่มี ต้องซื้อแยก หรือใส่ถ่าน AA 2 ก้อน เล่นได้ 40 ชม.
• Connectivity : Bluetooth, USB-C
• Platform : Windows, Android, iOS
• ราคา : 2290 บาท
• ประกัน : 6 เดือน
• ตามไปตำ : Link

หากจะพูดถึงจอยเล่นเกมที่ดีที่สุดในฝั่ง Windows แล้ว ยังไงก็ต้องเป็น Xbox Wireless Controller หรือจอยของ Xbox นั่นเอง เพราะด้วยงานประกอบ คุณภาพวัสดุ และฮาร์ดแวร์ภายในล้วนเป็นแบบเดียวกับเครื่อง Xbox ที่สำคัญคือ Microsoft เป็นผู้ออกแบบและพัฒนา เลยทำให้จอยตัวนี้ทำงานร่วมกับ Windows ได้อย่างไร้ที่ติ

เรียกได้ว่าเป็นจอยรุ่นมาตรฐานของการเล่นเกมบนพีซีเลย ทำให้ผู้พัฒนาเกมหลาย ๆ เจ้าใช้จอยตัวนี้เป็นตัวอ้างอิงในการสร้างเกมอะไรหลาย ๆ อย่างในเกมที่ผู้พัฒนาอยากให้ผู้เล่นรู้สึก จอยตัวนี้ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ตรงกับความตั้งใจของผู้พัฒนามากที่สุดก็ว่าได้

ดีไซน์ภายนอกเป็นจอยที่มีขนาดใหญ่แล้วมีส่วนเว้าส่วนโค้งค่อนข้างนอย เมื่อเทียบกับจอย PlayStation ตัวปุ่มให้มาครบตามมาตรฐาน ไม่มีปุ่มพิเศษ และที่พิเศษของรุ่นล่าสุดนี้อย่างการเปลี่ยนดีไซน์ปุ่ม D-Pad ใหม่ให้เป็นแบบวงกลมช่วยให้กดได้ง่ายมากขึ้น มีให้เลือกหลัก ๆ ทั้งหมด 5 สี แต่ก็มีสีพิเศษออกมาทุกปีรวม ๆ แล้วร้อยกว่าแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของเพื่อน ๆ เลย

สิ่งที่ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบที่สุดของจอยรุ่นนี้คือระบบการสั่นที่ทำออกมาได้ดี และละเอียดมาก ๆ ถ้าเล่นกับเกมที่พัฒนาโดยสตูดิโอสังกัด Microsoft เช่น Forza Horizon 5 เวลาเร่ง เบรก หรือขับรถไปบนพื้นผิวที่ต่างกัน ตัวจอยจะสั่นต่างกันด้วย มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้จากจอยรุ่นไหนเลย

ตัวจอยมาพร้อมกับระบบไร้สาย แต่ต้องใส่ถ่าน AA 2 ก้อน ที่ช่องด้านหลัง หรือจะใส่แบตที่ชาร์จได้ของรุ่นนี้แทนก็ได้ แต่ทั้งต้องซื้อแยกเองทั้งหมดนะ ไม่ได้รวมมาในชุด และบอกเลยว่าถ้าใช้จอยตัวนี้เล่นเกมบ่อยค่อนข้างกินแบตมาก ๆ เปลี่ยนถ่านอย่างบ่อย เลยแนะนำว่าควรใช้เป็นถ่านชาร์จชุด 4 ก้อน พร้อมเครื่องชาร์จ เพราะเวลาถ่านหมดก็จะได้มีเปลี่ยนอย่างทันท่วงที ซึ่งก็ต้องซื้อแยกอีก หรือถ้าใครตัดปัญหาใช้แบบต่อสายแทนก็ได้เหมือนกัน

10. Sony DualSense

• Layout : PlayStation
• Battery : 1560 mAh
• Connectivity : Bluetooth, USB-C
• Platform : Windows, Android, iOS, macOS, PlayStation 5
• ราคา : 2390 บาท
• ประกัน : 1 ปี
• ตามไปตำ : Link

สุดท้ายสำหรับใครที่มีเครื่องเล่นเกมอย่าง PlayStation 5 อยู่ บอกเลยว่าจอยที่มีอยู่ก็สามารถนำมาใช้กับพีซีของเราได้ผ่านสาย USB-C หรือแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ก็ได้เช่นกัน เรียได้ว่า Plug & Play ก็ใช้งานได้ทันที

แต่ฟังก์ชันที่ใช้งานได้ก็จะไม่ได้ต่างอะไรจากจอยธรรมดา ๆ เลย พวกฟีเจอร์พิเศษที่ใช้ได้กับเครื่อง PlayStation 5 เช่น ลำโพงที่ตัวจอย ทัชแพด หรือระบบสั่นจะใช้งานไม่ได้ เหมือนตอนที่ใช้กับเครื่องเกม

ส่วนถ้าพูดถึงความเป็นจอยเกมรุ่นหนึ่งก็ทำออกมาได้ดีมาก ปุ่มให้มาครบ งานประกอบแน่น ปุ่มกดมีแม่นยำสูง และระบบการสั่นที่ให้ความรู้สึกที่ดี และแพงมากไม่แพ้จอยรุ่นอื่นเลย ส่วนสีที่มีให้เลือกก็หลากหลายตามความชอบของเพื่อน ๆ เลย หรือใครจะเลือกเป็นลายพิเศษที่ทำร่วมกับเกมก็ได้เหมือนกัน

นอกจากจำนำมาต่อใช้งานกับพีซีแล้ว ยังสามารถนำไปใช้เล่นเกมบนโทรศัพท์ระบบ iOS และ Android ได้ด้วย เพราะจอยรุ่นนี้มีระบบ Bluetooth และมีแบตเตอรี่ Built-in มาให้ในตัวไม่ต้องซื้อเพิ่ม แต่สุดท้ายแล้วถ้าใครถนัดจอย Layout แบบ PlayStation มากกว่าแบบ Xbox ยังไงรุ่นที่ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นจอยต้นตำรับจาก Sony อยู่ดีนะ

สรุปเลือกรุ่นไหนดี?

จะเห็นได้ว่าจอยเกมที่เรานำมาฝากกันส่วนใหญ่นั้นเป็น Layout แบบ Xbox เพราะเป็นรูปแบบที่เหมาะกับการเล่นเกมบนพีซีมากที่สุด ส่วนฟังก์ชันก็แล้วแต่เพื่อน ๆ จะไปเลือกกันได้เลย เพราะจอยเกมบางตัวสามารถใช้ได้หลายเครื่อง เรียกได้ว่ามีตัวเดียวครบจบเล่นได้หมด ไม่ได้จำกัดแค่พีซีเท่านั้น

ส่วนถ้าถามว่าจอยรุ่นไหนดีเริ่มต้นงบน้อยที่สุด EGA ก็น่าสนใจ ส่วนถ้าใครอยากได้ฟังก์ชันเพิ่มขึ้นในงบที่ต่ำกว่า 1 พันบาททาง GameSir ก็เป็นตัวเลือกที่โอเคมากเลย แต่ถ้าใครมีงบเยอะหน่อย และอยากได้จอยคุณภาพที่ใกล้เคียงกับต้นตำรับจอย Xbox แต่ก็อยากได้ฟังก์ชันเยอะ ๆ ไว้เล่นกับเครื่องอื่นด้วย Flydigi คือคำตอบ

แต่สำหรับใครที่จะนำมาเล่นเกมที่พัฒนาโดย Microsoft เป็นหลักยังไงก็ต้องจอย Xbox ถึงจะดีที่สุด เพราะตัวเกมสามารถเรียกใช้งานศักยภาพของจอยได้สูงสุด ช่วยทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมอัปเกรดไปอีกขั้น แต่สำหรับใครที่เล่นเกมทั่วไป จากค่ายอื่น ๆ จอยธรรมดาภาพรวมก็อาจจะไม่ได้ต่างกันมากนัก