หลังจากที่ได้ “คืนความสุข” โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ “ค่านิยม 12 ประการ” กันไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายๆคนน่าจะได้ทราบถึงราคาค่าจัดทำสติ๊กเกอร์โครงการนี้ที่สูงถึง 7 ล้านบาท มาวันนี้มีคนไปร้องเรียนทาง ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ให้ตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้ว่าแพงเกินจริงหรือไม่ โดยปัจจุบันได้มีการเรียกขอข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ และกำลังจะตัดสินว่าคำร้องมีมูลหรือไม่เร็วๆนี้
อย่างไรก็ดี ได้เคยมีการประเมินรายจ่ายกันคร่าวๆจากหลายส่วนว่าราคาเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งแพคเกจของทาง LINE ในการจัดทำ Premium Account และ Sponsor Sticker ดังที่ใช้นี้ งบประมาณที่ใช้ไปก็ไม่ได้ต่างจากมาตรฐานเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดีรอติดตามการแถลงผลการสอบอย่างเป็นทางการอีกทีครับ
สำหรับคนที่ลืมไปแล้วว่าสติ๊กเกอร์ค่านิยม 12 ประการเป็นอย่างไร เรามีมาเตือนความจำให้ครับ ^^
ที่มา >> SpringNews
งานช้างละครับท่าน
อย่าปล่อยไว้นานเดี๋ยวน้ำท่วมหายหมด
เรื่องค่าจ้างทำ เหมือนว่าคุยกันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าทำจริงๆก็ประมาณนี้แหละ ผมว่าประเด็นคือ ทำไปแล้วเนี้ย มันได้ผลยังไงบ้าง คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมั๊ย ยอดโหลดยอดใช้งานเท่าไหร่
อยากรู้ครับ ว่าถ้าเป็นคนธรรมติ๊กเกอร์ไลน์ขึ้นมาสักชุด ต้องใช้เงินเท่าไรครับ
เป็นคำถามที่อ่านแล้วงง
เดาว่า… จะถามว่า คนธรรมดาจะทำสติ๊กเกอร์ไลน์ต้องใช้เงินเท่าไร
คนธรรมดา ไม่ต้องใช้เงินซักบาทก็ทำสติ๊กเกอร์ได้ แต่จะได้เป็นสติ๊กแบบต้องเสียเงินซื้อ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลย https://creator.line.me/th/
ขอบคุณครับ พิมพ์ผิด 🙂
เคยถามเพื่อนอยู่นะ เค้าว่าบริษัทเค้าทำถูกว่านี้เยอะอยู่
อาจจะอยู่ที่การเจรจาก็ได้มั้ง
บางคนคงจะด่าว่า ทำฟรียังได้เสียเงินจ้างทำ ทำไม
ทำฟรีได้นะ แต่ยากตรงที่ทำไงให้สติกเกอร์แจกฟรีได้
ลองไปคุยกะไลน์ดูเขาจะเก็บเงินคุณเท่าไหร่เหอเหอ
ค่าจ้างทำมันอยู่ที่คนจ้าง กับคนทำ ตกลงกัน
แพงถูกก็อยู่ที่ใจคิด
แต่มันอยู่สถานการณ์อยู่ในภาวะไหน
ถ้าอยู่ฝ่ายทุนนิยม ก็บอกโกง
ถ้าอยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็บอกเหมาะสม
555
ตอบแบบที่เคยรู้สึกได้ ทำงานดิวกับรัฐ คือ ไม่รู้เหมือนกันไหม เช่นทำเวปให้นัฐสักที่ มันต้องมีส่วนแบ่งหักหัวคิวครับ แล้วเข้าบริษัทที่รับจ้างจิงอาจจะไม่มาก หรือสมเหตุผล เช่น บอก งานนี้ 7 ล้าน ใช่จ่าย 7
แต่เข้าบริษัทแค่ 2 ไรงี้ ส่วนอื่น 2 คนในกินซอง 3 สมุตินะครับ เลยออกมา 7 เหอๆ
เรื่องพวกนี้ สมควรถูกจัดการได้แล้วล่ะนะ
ถ้าจะว่ากันจริงๆ ก็น่าจะโดนสอบทุกกระทรวงนะที่ทำ Sticker
เพราะก่อนหน้าก็มีหลายๆ กระทรวงที่ทำ Sticker ออกมา
แล้วก็ไม่รู้เพื่ออะไร คำที่ใช้ก็เป็นคำวัยรุ่น
ที่ไม่ได้สื่อถึงภาพลักณ์องค์กรอะไรเลย
งบประชาสัมพันธ์ที่แต่ละกระทรวงได้รับ และทำโฆษณาออกมา
บางทีก็สงสัยอยู่ว่าทำแล้วได้อะไร ทำไมถึงทำ กระทรวงได้ผลดีอะไรบ้าง
ส่งเสริมการขายก็ไม่ใช่ สร้างเสริมภาพลักษณ์องค์กรก็ไม่น่าใช่
เช่น กระทรวงพลังงาน โฆษณาในโรงหนังเมเจอร์
ปีนึงก็หลายสิบล้านบาท แล้วได้อะไร
ก็แค่สงสัย และก็แปลกใจที่คนเราก็หาเรื่องมาดราม่าได้ทุกวัน
จาก 100 % คนเขียนโครงการและคนอื่น ๆ ในทีม 20 % คนอนุมัติโครงการ 20 % นายหน้าว่าจ้าง 10 % บริษัททำสติ๊กเกอร์ 50 %