หลังจากการเปิดตัวของ Sony Xperia 1 จากโซนี่ผ่านไป ก็สร้างความฮือฮาได้พอสมควร ทั้งหน้าจอสัดส่วนแปลกใหม่สำหรับวงการมือถือ ความละเอียดหน้าจอระดับ 4K ฟีเจอร์ด้านจอที่โฆษณาว่าเป็นเกรดเดียวกับวงการภาพยนต์ การปรับเปลี่ยนมาใช้กล้อง 3 ตัวตามสมัยนิยม และฟีเจอร์กล้องที่หยิบยืมมาจากผลิตภัณฑ์กล้องของโซนี่เอง ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คนจำนวนมากไม่คาดคิดว่าจะเกิดพร้อมกันรวดเดียวกับ Xperia ตัวล่าสุดตัวนี้ สำหรับบทความนี้ผมจะพาทุกท่ามาเจาะประเด็นว่า แต่ละฟีเจอร์และจุดน่าสังเกตของ Xperia 1 นั้นมีอะไรบ้าง และตรงไหนที่มีประเด็นให้น่าติดตามเมื่อเครื่องเริ่มวางจำหน่ายจริง
1. คุณภาพจอ
หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นฟีเจอร์หลักของ Xperia 1 ที่ทางโซนี่ได้เน้นย้ำก็คือเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่พัฒนาขึ้นไปอีก สำหรับสเปคหน้าจอของ Xperia 1 นั้นรองรับการแสดงผลสีย่าน ITU-R BT.2020 และแสดงผลย่าน DCI-P3 ได้ครบถ้วนที่ 100% ซึ่งถ้าพูดแค่นี้ก็อาจจะนึกภาพยาก แต่ถ้าดูข้อมูลตามที่โซนี่ระบุไว้คือ หน้าจอของ Xperia 1 นั้นจะเหมาะกับคนที่ต้องการรับชมสิ่งที่ผู้สร้างหนังต้องการนำเสนอ แต่ดูเหมือนว่าพูดอย่างเดียวกลัวจะไม่เชื่อ ภายในงาน MWC 2019 ที่ผ่านมาทางโซนี่ก็เลยจัดโชว์เคสวาง Xperia 1 เทียบกับทีวี BRAVIA OLED ของตัวเองโชว์ในงานให้ดูเลยว่าสีมันแสดงผลออกมาเหมือนกันเด๊ะ
ถ้าใครเคยได้ยินว่าโซนี่เคยทำจอแผง OLED มานานมากแล้วก็น่าจะรู้จักกับจอ Master Monitor ที่เป็นจอของโซนี่ที่ขายให้วงการถ่ายทำหนังใช้ เป็นจอสำหรับแสดงผลดูกันในกองถ่าย และนั่นเอง โซนี่ก็ยกจอนี้มาวางเทียบกับ Xperia 1 ที่เปิดการแสดงผลแบบ Creator mode ภายในงานด้วย เทียบกับไปจะๆ เลยว่าได้การแสดงผลสีออกมาเหมือนกัน ถือว่าเป็นการเปรียบเทียบที่ต้องกล้าและมั่นใจเอามากๆ เลยทีเดียว และก็น่าจะใช้อ้างอิงได้ว่า หน้าจอของ Xperia 1 นั้นอยู่ในเกรดสำหรับชมภาพยนต์จริงๆ
2. ความละเอียดหน้าจอ 4K 21:9
Xperia 1 มาพร้อมความละเอียดหน้าจะระดับ 4K คือคำโฆษณาที่ดูอลังการ แว้บแรกที่เราได้ยินกันก็จะถึง 4K แบบทีวี หรือแบบ Xperia XZ2 Premium ที่มีความละเอียดคือ 3840 x 2160 หรือ 8,294,400 พิกเซล แต่ว่านั่นคือความละเอียด 4K ที่อัตราส่วน 16:9 ครับ สิ่งที่หน้าจอ Xperia 1 เป็นคือมีความละเอียดอยู่ที่ 3840 x 1644 หรือ 6,312,960 พิกเซลเท่านั้น เทียบกันแล้วมีจำนวนพิกเซลต่างกันเยอะพอควรเลย แต่ด้วยการที่เป็นตราส่วน 21:9 จริงๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ความละเอียดนี้ก็นับเป็น 4K รูปแบบนึงเหมือนกัน
สิ่งที่ชวนให้สังเกตต่อมาก็คือ ถ้าเราลองไปเทียบกับหน้าจอ QHD+ ของเรือธงในยุคนี้ที่อัตราส่วนทะลุ 16:9 ไปกันหมดแล้ว ผมหยิบ Galaxy S10 มายกตัวอย่างแล้วกันครับ ตัวของ Galaxy S10 มีความละเอียดอยู่ที่ 3040 x 1440 หรือ 4,377,600 พิกเซล ก็จะเห็นว่ามันก็ไล่ๆ ขึ้นมาแล้ว แม้จะยังไม่ใกล้กับ 6.3 ล้านพิกเซลของ Xperia 1 แต่เรือธงส่วนใหญ่ก็มีขนาดพิกเซลให้ขึ้นตามขนาดหน้าจอ ผมเลยจะชวนสังเกตว่าจอของ Xperia 1 นั้นน่าจะกินไฟมากกว่าคู่แข่งแน่ แต่อาจจะไม่ได้มากอย่างที่หลายๆ คนคิดกันตอนแรก
เกร็ด: Xperia 1 สามารถใช้คำสั่งผ่าน Google Assistant เรียกแอปคู่ที่ต้องการให้แบ่งจอใช้กันขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องไปนั่งจิ้มเอง
3. แบตเตอรี่เทียบกับความละเอียดจอ
พูดถึงขนาดจอแล้วก็ขอแยกเรื่องแบตเตอรี่มาเป็นอีกประเด็น ผมตั้งประเด็นเกี่ยวกับแบตเตอรี่ไว้ทั้งหมด 3 ประเด็น คือ
- เทียบการใช้แบตกับกรณีของ Xperia XZ2 Premium
Xperia XZ2 Premium คือรุ่นที่มีจอ 4K 16:9 นั่นก็คือความละเอียดจอระดับ 8,294,400 พิกเซล มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3540 mAh แต่ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ตลอดวัน เพราะใช้วิธีการแสดงผล UI Interface ของ Android แบบ upscale แทนการประมวลผลตามความละเอียดจริง แล้วค่อยแสดงผลเต็มความละเอียดเมื่อเล่นคอนเทนท์ ถ้าหาก Xperia 1 ใช้หลักนี้ ก็น่าจะทำให้ประหยัดแบตได้ - เทคโนโลยีแผงจอ OLED ก็มีผลกระทบ
Xperia XZ3 เป็นมือถือของโซนี่ตัวแรกที่ใช้แผงจอ OLED และมีความละเอียดที่ QHD+ (2880 x 1440) ซึ่งหลังจากโดนจับไปทดสอบก็มีบางเจ้าพบว่าแบตไม่ทนเท่าไรนัก ใช้หมดวันคือแบตเกือบหมด ก็น่าสนใจสำหรับ Xperia 1 นั้นจะมีอัตราการใช้พลังงานของจอดีกว่า Xperia XZ3 หรือไม่มากน้อยแค่ไหน - เทียบกับคู่แข่งอย่าง Galaxy S10
Galaxy S10 มาพร้อมกับแบตขนาด 3300 mAh ส่วน Xperia 1 มาด้วยแบต 3330 mAh จัดว่าใกล้เคียงมาก ถ้าเทียบแบบตรงๆ แบบมองว่าระบบของทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้แบตใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่ความละเอียดหน้าจอ Xperia 1 ก็น่าจะกินไฟและแบตหมดเร็วกว่า Galaxy S10
จาก 3 ประเด็นข้างต้น ทำให้น่าติดตามครับว่าเมื่อ Xperia 1 ถูกนำมาใช้งานจริงแล้ว จะไปในสมมติฐานว่ากินไฟหรือไม่ หรือจะมีไม้ตายลูกเล่นทางซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้กินไฟได้น้อยลง (แบบข้อ 1.)
4. กล้องใหม่ ผลงานความร่วมมือจากทีมกล้อง Alpha
จากบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ Trusted Review ได้ระบุว่าการพัฒนา Xperia 1 นั้นได้ดึงทีมกล้องของโซนี่เข้ามาร่วมกันเป็นครั้งแรก ประกอบกันหลังการปรับโครงสร้างปีก่อนได้ทำให้ฝ่ายมือถือของโซนี่ได้หัวหน้าใหม่ที่มาจากแผนกกล้องและภาพถ่ายคือ Kimio Maki และได้ตัดสินใจหยุดพัฒนามือถือที่อาจจะกลายมาเป็น Xperia XZ4 แล้วเสนอไอเดียด้านของฝั่งกล้องอย่างเช่น การร่วมมือกับ CineAlta ที่โซนี่ทำงานร่วมกันมานาน มาทำเป็นฟีเจอร์รวมไว้ใน Xperia 1 ด้วย
มีฟีเจอร์ฝั่งวิดีโอแล้ว ฝั่งภาพนิ่งก็ยังได้ยืมความสามารถของกล้อง Alpha อย่างการโฟกัสตาหรือ Eye AF มาให้อีกด้วย และแม้จะยังไม่เต็มรูปแบบเหมือนกล้องใหญ่ที่สามารถเลือกตาของคนในภาพที่มีหลายคนได้ หรือการจับตาของสัตว์ แต่ Xperia 1 ก็สามารถโฟกัสตาคนได้แม่นยำและทำได้หลายคนพร้อมกันในหนึ่งภาพ และฟีเจอร์นี้จะส่งผลให้การถ่ายภาพ Portrait นั้นโดดเด่นขึ้นด้วย ผนวกกับคามสามารถถ่ายเร็ว 10 fps AF/AE ที่ทำให้การถ่าย Burst จับโฟกัสได้แม่นขึ้นกว่าเก่าและหลากหลายสภาพแสงมากขึ้น
และท้ายสุด สิ่งที่เปลี่ยนไปและไม่พูดไม่ได้ก็คือการประมวลผลภาพใหม่ ทางโซนี่ระบุว่าแต่เดิมนั้น Xperia ใช้วิธีการเก็บภาพแบบบีบอัดเป็น JPG แล้วจึงจัดการนอยส์ (Noise Reduction) แล้วจึงได้ภาพท้ายสุดออกมา แต่สำหรับใน Xperia 1 โซนี่ได้บอกว่าปรับเปลี่ยนเป็นการเก็บภาพ RAW แทน นำมาประมวลผลลบนอยส์ออก แล้วจึงเซฟออกมาเป็น JPG ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพที่ได้จาก Xpeira 1 ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าอย่างมาก รวมถึงดีกว่า Xperia XZ2 Premium อย่างเห็นได้ชัด (อันนี้ผู้เขียนก็สงสัยว่า ไม่ใช่ว่าแบรนด์อื่นเค้าทำแบบนี้กันหมดแล้วหรอ หรือว่ายังไง) และการที่เอา RAW มาประมวลผล นั่นก็คือตัวเครื่องรองรับการถ่ายแบบ RAW แล้ว แต่เห็นว่าต้องหาแอปเจ้าอื่นมาถ่ายเอาครับ
จากบทสัมภาษณ์ยังมีประเด็นที่โซนี่ยอมรับว่าเดิมทีมีประเด็นของการแข่งขันระหว่างแต่ละแผนกภายในบริษัทด้วย แต่ ณ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว และมีความเห็นตรงกันว่า การมอบประสบการณ์เฉกเช่นการใช้กล้องมาอยู่บนมือถือนั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรมอบให้กับผู้ใช้งาน
5. ขนาดเครื่องเทียบกับแบรนด์อื่น
เครื่องโคตรสูง! เป็นคำอุทานแรกๆ ที่ได้ยินตั้งแต่ภาพเรนเดอร์หน้าจอ 21:9 หลุดออกมา จนกระทั่งวันงานเปิดตัวก็ยังได้ยินกันอยู่ ประเด็นนี้ค่อนข้างขึ้นกับตัวบุคลลมากครับ เพราะจากคำกล่าวของสื่อหลายๆ เจ้าก็ให้ความเห็นไม่ตรงกัน บางเจ้าบอกว่าสูง ใช้ยาก แต่บางเจ้าก็บอกว่าจับเครื่องจริงแล้วจับเข้ามือกว่าที่คาดไว้ และแลกกับประสบการณ์ตอนใช้แบ่งหน้าจอ กับตอนวางแนวนอนแล้วถือว่าคุ้มค่า ทีนี้เราลองมาดูตัวเลขของสัดส่วนเครื่องกันดีกว่าครับ ผมจะหยิบ Galaxy S10+ กับ Huawei Mate 20 Pro มาประกอบการเปรียบเทียบด้วย
Xperia 1
- สูง 167 ม.ม.
- กว้าง 72 ม.ม.
- หนา 8.2 ม.ม.
Galaxy S10+
- สูง 157.6
- กว้าง 74.1
- หนา 7.8
Mate 20 Pro
- สูง 157.8
- กว้าง 72.3
- หนา 8.6
จะเห็นว่าในด้านกว้างกับความหนานั้น Xperia 1 จะหนีจากแบรนด์อื่นไม่มากนัก แต่ความสูงหรือความยาวนั้นจะห่างออกมาร่วม 10 ม.ม. หรือ 1 เซนติเมตรได้ ทีนี้ก็ขึ้นกับว่า 1 เซนติเมตรของแต่ละคนนั้นจะเป็นปัญหาต่อกันถือมือถือหรือไม่นั่นเองครับ
แต่อีกประเด็นที่อาจจะถูกหลายคนวิจารณ์ก็คือสัดส่วนขนาดนี้แล้ว แต่แบตกลับน้อย (ฮา) อันนี้ก็คงต้องว่ากันไปตามการใช้งานจริงว่าจะเวิร์คหรือไม่
สรุป
เท่าที่สังเกตหลายๆ มุมของ Xperia 1 ที่ถูกรีแบรนด์ตัวเองกลับมาอีกรอบนั้นก็จะเห็นว่าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อัดสเปคและฟีเจอร์มาได้แน่น และค่อนข้างเป็นก้าวใหญ่ของฝั่งมือถือของโซนี่ ที่เหมือนจะวิ่งตามหลังคู่แข่งอยู่นาน ซึ่งนี่อาจจะเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ 3 ปีของโซนี่ที่ประกาศออกมาเมื่อนกลางปีที่แล้ว และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ถ้ายังสามารถพัฒนาด้วยอัตราเร็วขนาดนี้ได้ต่อเนื่อง ผมว่าความสนใจของ Xperia จะกลับมาได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าการเจาะกลุ่มลูกค้าอาจจะต้องเปลี่ยนไป รวมถึงการโฆษณาและการทำการตลาดก็น่าจะต้องปรับเปลี่ยนใหม่ด้วย ถึงจะกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดได้ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ให้คนจดจำกัน
สำหรับในไทยนั้นก็ยังคงไม่มีข่าวคราวอัพเดตจากโซนี่ไทยสำหรับสินค้ากลุ่มมือถือแต่อย่างใดครับ เพราะฉะนั้นใครที่สนใจรอคอย Xperia 1 ตัวนี้ ก็คงต้องหาเครื่องหิ้วมาเล่นแทน ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายก็ยังไม่ชัดเจนนัก รู้แค่จะเริ่มวางขายประมาณปลายฤดูใบไม้ผลิ ก็น่าจะเป็นช่วงกลางๆ ปีนี้ครับ
อ้างอิง: Sony, Winfuture (1, 2), Gsmarena (1, 2, 3), Trusted Review, ePrice (1, 2)
หลังจาก Z ultra แล้วยังไม่มีมือถือตัวไหนประทับใจเลย
รอดูตัวจริงเลยสำหรับ Xperia 1 มีแววว่าจะได้กลับไปเป็นสาวกอารยธรรม
ตอน XZ1P ออก ผมโดนมากเลยนะ แต่ตอนนั้น Z2 ยังลื้นไหลอยู่เลย พอ Z2 ออกอาการ SONY THAI ก็ปิดฝ่ายมือถือ ตอนนี้ก็หวังว่าหลังจาก Galaxy A9 แล้ว เครื่องต่อไป น่าจะพอดีกับ SONY THAI พ่มือถือกลับมานะ
Xperia 1 เครื่องนี้ก็โดนนะเนี่ย
นี่แหละ Sony ในความคิดผม ต้องแบนๆเรียบๆ เอกลักษณ์มาแต่ไหนแต่ไร หลังเต่าไม่เอานะ
เอาจริงเสียที รอบนี้ เอาใจช่วยยย
กลัวจะมาตกม้าตายตอนตั้งราคา
ปัญหาคือ เปิดตัวเดือน 2 ขายอย่างเร็วเดือน 5
อัดสเปคแล้วก็ไล่แผนกซอฟแวร์ออกไปด้วยนะถ้าไม่คิดจะพัฒนา ui ของตัวเองสักแต่จะเอา pure มาเปลียน theme ถ้าแค่จะอัพสเปคมาขายก็ได้แค่แข่งกับ nokia ไปละกัน
เพิ่งรู้ว่าต้องมี UI เป็นของตัวเองถึงจะขายออก ตัดภาพไปที่ HTC ที่มี Sense UI 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ไม่น่ามาพ่นน้ำลายนะคะถ้าไม่มีความรู้
ขอถามคำถามหนึ่งค่ะ Pixel เป็นเพียวแอนดรอยไหมคะ
สนใจเหมือนกัน
เห็นเซลที่ powerbuy บอกว่า panel จอ OLED ของ Sony
ซื้อมาจาก LG ซึ่ง LG ก็เอาเทคโนโลยีปีที่แล้วมาขายให้ Sony
ส่วนจอ OLED ของตัวเองก็ใช้เทคโนโลยีปัจจุบัน
ทำให้จอทีวี OLED ของ Sony สู้ LG ไม่ได้
เซลมั่วมากๆค่ะ Panel จอ OLED เป็น Technologyของ SONY เองค่ะ แต่จ้าง LG ผลิตให้ในบางส่วนเพราะฉนั้น Technology คนละตัวกันค่ะ เพราะภาพจอ TV ของ SONY ตอนนี้ก็คืออันดับ 1 และที่สำคัญมันไม่ได้วัดกันแค่จอค่ะ มีทั้งชิพประมวลผลภาพ การปรับจูนค่าสีต่างๆนาๆ อันนี้แหละค่ะที่ทำให้ SONY เป็นที่ 1 ตลอดมา
อันนั้นเป็น กลยุทธ การขาย หรือเรียกว่าเผา ในวงการพนักงานขายครับ
ถ้าเอาคำนี้ไปพูดกับพนักงาน sony เค้าก็จะบอกว่า ซิป ที่ LG ใช้อยู่ เป็นเทคโนโลยีปีที่แล้วของ SONYครับ ส่วนของหน้าจอ sony ไม่ทำโรงงาน มีเทคโนโลยีอยู่ แต่จ้าง LG ผลิต
แล้วถ้าเทียบ ภาพต่อภาพ (จอ+ซิป) ผมว่า sony ภาพดีกว่า LG ครับ
ยังมี compact อยู่มั้ยนี่
ทุกวันนี้เน้นกันยาวๆ ใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้แล้ว
ถึงเวลาแล้วค่ะที่ภาพถ่ายจาก Xperia 1 จะมาเขย่าวงการภาพถ่าย
ชอบ ครับปรับกลับมาเข้าที่ละไม่ต้องกระดองเต่า อยากให้ทำตัวที่จอกว้างกว่านี้อีกซักนิด รู้สึกว่าจอมันผอมไปนิดเวลาเล่นเกมดูหนังจะได้เต็มตาขึ้นอีก เหมือนตัวนี้จะลดความกว้างจอลงรึเปล่าวครับเทียบกับ xz premium