Apple ออกมาเผยฟีเจอร์บางส่วนที่จะมากับ iOS 18 และ iPadOS 18 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน WWDC 2024 โดยฟีเจอร์ที่เผยว่าในวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถใช้งาน iPad และ iPhone ได้สะดวกขึ้น โดยฟีเจอร์ไฮไลต์ในรอบนี้คือ ระบบ Eye Tracking ที่สามารถใช้กล้องหน้าตรวจจับการเคลื่อนไหวของตา เพื่อควบคุมจอโดยที่ไม่ต้องใช้นิ้วมือสัมผัสเลย

5 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมากับ iOS 18

Eye Tracking ควบคุมจอ iPad และ iPhone ด้วยตา ไม่ต้องสัมผัส

Eye Tracking เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ทำมาเพื่อผู้พิการทางด้านร่างกาย โดยจะใช้งาน AI ร่วมกับกล้องหน้าของ iPad และ iPhone เพื่อตรวจจับตาของเรา และสามารถใช้ตาจ้องมองไปที่วัตถุ หรือไอคอนต่าง ๆ บนจอเพื่อควบคุมสั่งการ กดเข้าแอป ปัดหน้าจอแทนการใช้นิ้วมือกดไปที่จอตรง ๆ ได้

Apple ได้ระบุว่าฟีเจอร์ Eye Tracking จะรองรับการใช้งานกับทุก ๆ แอป ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ช่วย แต่ก่อนใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจะต้องมีการ Calibration ปรับเทียบสายตาให้เข้ากับการใช้งานผ่านซอฟต์แวร์โดยใช้เวลาสั้น ๆ ก่อน ซึ่งการประมวลผลของ AI ทุกอย่างที่ใช้ระบบนี้จะเกิดขึ้นแบบ On-Device ประมวลผลผ่านชิปในตัวเครื่องโดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต

Music Haptics iPhone สั่นตามจังหวะเพลง

Music Haptics เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้พิการทางการได้ยิน หรือฟังเสียงลำบากสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การฟังเพลงได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีการใช้มอเตอร์ Taptic Engine บน iPhone เพื่อสั่นตามจังหวะเพลง โดยในช่วงแรกฟีเจอร์นี้จะรองรับเฉพาะบน Apple Music ก่อนเท่านั้น ซึ่งนักพัฒนาสามารถนำชุด API ไปปรับใช้ฟีเจอร์ในแอปของตัวเองได้ด้วย

Vocal Shortcuts สั่งการฟีเจอร์ลัดได้ด้วยเสียง

ผู้ใช้งาน iPad หรือ iPhone สามารถตั้งค่าให้ระบบเปิดใช้ฟีเจอร์ Shortcuts ต่าง ๆ บนเครื่องได้ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง โดยระบบจะสามารถจดจำเสียงผู้ใช้งานได้ผ่านการพูดคำสั่งต่าง ๆ 3 ครั้ง และสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านการพูด หรือออกเสียง ตัวระบบก็มีฟีเจอร์ Listen for Atypical Speech ที่สามารถจดจำ และเข้าใจลักษณะการพูด รวมถึงรูปแบบการพูดของผู้ใช้งานได้

Vehicle Motion Cues ช่วยลดอาการเวียนหัวในขณะใช้งานบนรถยนต์

หากใครที่เมารถง่าย โดยสารรถยนต์แล้วใช้โทรศัพท์นาน ๆ ไม่ได้ iOS 18 ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Vehicle Motion Cues ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ระบบก็จะมีแอนิเมชันลายจุดปรากฏอยู่บนขอบจอ เคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางที่รถเคลื่อนตัว เพื่อช่วยลดปัญหาความขัดแย้งทางประสาทสัมผัส ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการเมารถ หรือ Motion Sickness นั่นเอง

Apple CarPlay สั่งการด้วยเสียงได้แล้ว

Apple CarPlay บน iOS 18 จะรองรับการสั่งการด้วยเสียง และมีระบบ Color Filters ที่ช่วยให้ผู้มีอาการตาบอดสีสามารถใช้งานจอ Infortainment ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบ Sound Recognition จดจำเสียงต่าง ๆ ในขณะขับรถ เพื่อแจ้งเตือนผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน สมมติว่าถ้าระบบได้ยินเสียงแตร หรือเสียงไซเรนขอทาง ระบบก็จะขึ้นแจ้งเตือนให้บนหน้าจอได้ทันที

ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 18 และ iPadOS 18

  • VoiceOver จะมาพร้อมเสียงใหม่ๆ และสามารถปรับ Voice Rotor ตัวหมุนเสียงได้ยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงสามารปรับระดับเสียงของการพูดได้ตามต้องการ
  • Magnifier หรือโหมดแว่นขาย สามารถเปิดโหมดสำหรับอ่านโดยเฉพาะอย่าง Reader Mode สามารถดึงตัวหนังสือจากภาพออกมาให้อ่านง่าย ปรับสีปรับขนาดเองได้ตามต้องการ
  • Braille Screen Input ระบบป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ มีการปรับปรุงให้ควบคุมและแก้ไขข้อความได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รองรับภาษาญี่ปุ่น และรองรับการใช้ Dot Pad ในการป้อนอักษรเบรลล์แบบหลายบรรทัดด้วย
  • Hover Typing แสดงตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นเมื่อพิมพ์ในช่องข้อความ สามารถตั้งค่าให้แสดงผลฟอนต์และสีตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้

เบื้องต้นฟีเจอร์เหล่านี้คาดว่าจะถูกเพิ่มเข้ามาในระบบ iOS 18 และ iPadOS 18 ที่จะเปิดตัวในงาน WWDC 2024 วันที่ 10 มิถุนายน 2024 ซึ่งในงานน่าจะมีการโชว์ฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้แน่นอน

ที่มา: Apple