ว่ากันว่าปีนี้จะมี iPhone เปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันก็คือรุ่นจอ OLED 5.8 นิ้ว, รุ่นหน้าจอ IPS LCD ธรรมดาขนาด 6.1 นิ้ว, และรุ่นจอ OLED ใหญ่สุดที่ 6.5 นิ้ว ล่าสุดมีภาพเรนเดอร์รุ่น LCD 6.1 นิ้วกับรุ่น OLED 6.5 นิ้ว โดย My Smart Price ทำออกมาให้ดูกันทุกซอกทุกมุม
ถ้าหากภาพเรนเดอร์นี้เป็นของจริง iPhone รุ่นจอ 6.1 นิ้วนี้จะมีดีไซน์ด้านหน้าที่แทบไม่ต่างกับ iPhone X เลย ทั้งติ่งด้านบนหน้าจอ, ลักษณะของขอบจอในแต่ละด้าน, อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9, ขอบตัวเครื่องอลูมินัม, และฝาหลังที่เป็นกระจก แต่มีอยู่สองอย่างที่ต่างกันอย่างชัดเจนก็คือกล้องหลังของ iPhone รุ่นใหม่นี้ยังคงใช้เป็นกล้องเดี่ยวอยู่ และหน้าจอ IPS LCD ต่างกับ iPhone X ที่ใช้จอ OLED
เว็บไซต์ The Bell จากเกาหลีใต้รายงานว่า iPhone รุ่นนี้จะวางขายช้ากว่ารุ่นอื่นเป็นเวลาถึง 2 เดือนเนื่องจากเหตุผลทางเทคนิคและยังไม่สามารถผลิตออกมาในระดับ mass ได้ ส่วนอีก 2 รุ่นที่จะเป็นรุ่นทายาทของ iPhone X นั้นบริษัทสามารถผลิตออกมาขายได้ทันเวลาเพียงเพราะมันใช้จอ OLED ไม่ใช่ LCD
มาถึงคิวของรุ่นใหญ่สุดอย่างภาคต่อของ iPhone X (Plus?) มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งนอกจากขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นแล้วรูปลักษณ์ภายนอกแทบจะแยกกับ iPhone X เมื่อปีก่อนไม่ออกเลย โดยแหล่งข่าวรายงานว่ามันจะมีขนาดตัวเครื่อง 157.5 x 77.4 x 7.7mm หนาเท่ากันกับ iPhone X (143.6 x 70.9 x 7.7mm) เป๊ะแต่มีความกว้างและยาวกว่าจนเท่าๆกันกับ iPhone 8 Plus (158.4 x 78.1 x 7.5mm)
การจัดวางตำแหน่งเซ็นเซอร์ต่างๆของ iPhone X 6.5 นิ้วนี้เหมือนกับใน iPhone X ทุกประการตั้งแต่ติ่งหน้าจอ, ปุ่มข้างเครื่อง, พอร์ต Lightning, ลำโพง, ตลอดจนกล้องหลังคู่แนวตั้งที่มีแฟลช LED อยู่ตรงกลาง ยังไม่มีข้อมูลว่า Apple จะตั้งชื่อรุ่นว่าอะไรแต่จากสิ่งต่างๆที่เห็นแล้วมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ชื่อ iPhone X Plus หรืออะไรทำนองนั้น ลือกันว่าจะมาพร้อมหน้าจอความละเอียด 1,242 x 2,688 พิกเซล, ชิปประมวลผล Apple A12, และแบตเตอรีความจุไม่ต่ำกว่า 3,000mAh
แผงหน้าจอ LCD สำหรับ iPhone รุ่น 6.1 นิ้วที่จะเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดนี้ผลิตโดยโรงงาน LG กับ Japan Display (JDI) ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่าโรงงานทั้ง 2 แห่งไม่สามารถผลิตออกมาได้ทันตามความต้องการ รวมทั้งกำลังประสบปัญหามีแสง backlight รั่วออกมาบริเวณติ่งที่ยื่นออกมาในจอ ส่งผลให้จำต้องเลื่อนวันวางขายออกไปเป็นประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้แทน เมื่อใกล้วันเปิดตัวก็คงจะมีข้อมูลเพิ่มเติมหลุดออกมาให้อ่านกัน โปรดติดตามตอนต่อไป…
ที่มา: GSMArena, Phone Arena
ขายช้า เพราะคนอยากได้ จะได้สอยรุ่นที่ราคาขนาดซื้อมอไซค์แล้วมีทอนได้
ส่วนตัวคิดว่ายุค 4-5s สวยที่สุดนะ ขอบโลหะแบนๆ
มุกเดิมเปลี่ยนแค่ไส้ใน ดีไซด์เดิมคิดว่าจะขายได้มากกว่ารุ่นปีก่อนแค่ไหนกัน
งั้งั้นแอนดรอยก็ไปตามมุกเดิมๆเค้าเนาะไม่เข้าใจ
สงสัยนี่คือเหตุผลว่าทำไม แต่ละค่าย เข็นจอแหว่งออกมาตรึม…เพราะเจ้านี้ ยังใช้อยู่
ราคาคือสิ่งที่ทำให้ iPhone X ไม่ถึงฝัน แถมการเปลี่ยนเฝแกสเจอร์นั้นไม่ทำทีเดี่ยวทำให้คนยังไป iPhone 8 เพราะลูกค้าไอโฟน อนุรักษ์นิยม
แบร์นโรยอลบิตี้สูง จ้อเสียคือเปลี่ยนอะไรก็ลำบาก อีกสัก 3รุ่นถึงจะเอาแสกนนิ้วใต้จอมาใช้ มาน่ะมาแน่ แต่รอก่อน เพราะ ยอดจองแบบนี้ต้อง รีดีไซน์อีกรอบ งาน iPhone X พึ่งออกมาได้เจนเดี่ยว ลากขายไปอีก 2-3 รุ่นก่อน ค่อยเปลี่ยน นิสัย apple มีความทรนงตัวเองสูง
อย่าง Mac air แป๊กด้วยรูเดั่ยวรุ่นหลังๆใส่เยอะขึ้น ค่อยทำไป
ผมก็ลูกค้า iPhone X น๊ะ ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ตั้งแต่ iPhone ยังไม่เกิดเลยมีคำถามคือ
1.ลูกค้า iPhone อนุรักษ์นิยม อันนี้ใช้ข้อมูลจากส่วนไหนอ้างอิงว่าอนุรักษณ์นิยมมีผลสำรวจจาก ประชากรกี่คน , ช่วงอายุ , เพศ , อาชีพ ? งั้นผมก็ไม่ใช่พวกอนุรักษณ์นิยมเพราะผมไม่ใช้ iPhone 8
มึนกับตรรกะเล็กน้อยครับ
พิมพ์ไทยก็ตกอ่านก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูรีบพิมพ์รีบกดส่งเหมือนนึกขึ้นได้ว่าลืมปิดไฟเตาแก๊สที่บ้าน ไทยคำอังกฤษคำนี่เฉยๆนะ จะทับศัพท์ก็พิมพ์ brand royalty ก็ได้ เจอแบรนด์รอยัลบิตี้ไปอีก เวียนหัว เหมือนอยากโปรแต่แบบอืม
พิมพ์ไทยก็ตกอ่านก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูรีบพิมพ์รีบกดส่งเหมือนนึกขึ้นได้ว่าลืมปิดไฟเตาแก๊สที่บ้าน ไทยคำอังกฤษคำนี่เฉยๆนะ จะทับศัพท์ก็พิมพ์ brand royalty ก็ได้ เจอแบรนด์รอยัลบิตี้ไปอีก เวียนหัว เหมือนอยากโปรแต่แบบอืม
หวังว่า Samsung จะไม่ทำจอแหว่งเป็นบ้ากับพวกนี้นะ เอาตรงๆ มันรกตามากจอแหว่ง แต่ก็ตามคนชอบแหละ