70mai กลับมาอีกครั้งกับกล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง 70mai Dash Cam A200 ซึ่งรอบนี้เป็นกล้องระดับเริ่มต้น ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการติตตั้งกล้องบนรถยนต์เป็นตัวแรก ซึ่งการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เราจะมาทดสอบให้ดูกัน
70mai Dash Cam A200 มีอะไรเด็ด?
70mai Dash Cam A200 มากับเซนเซอร์ GC2093 มุมกว้าง 130 องศา มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD แบบ HDR (1920 x 1080P) และในรุ่นนี้ยังมีเซ็ทพร้อมกล้องหลังจำหน่ายแยก รองรับการเชื่อมต่อกล้องหลัง และอัดพร้อมกันแบบ Dual-Channel โดยตัวกล้องหลังจะใช้เซนเซอร์ GC2053 ที่สเปคใกล้ ๆ กัน ซึ่งราคาบวกเพิ่มจากเดิมไม่เยอะเท่าไหร่
ตัวกล้องในรุ่นนี้มาพร้อมกับจอแสดงผล IPS LCD 2 นิ้ว ขนาดกำลังดี รองรับ microSD สูงสุด 128GB มีเมนูภาษาไทยในตัวใช้งานง่าย ใช้ไฟในรถจากช่องจุดบุหรี่ (มี kit เสริมเพื่อต่อไฟตรงกับแบตเตอรี่ในรถยนต์) อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ให้ 500 mAh ในตัวด้วย
สำหรับฟีเจอร์เด็ด ๆ นั้น ในรุ่นนี้รองรับการอัดวิดีโอแบบ HDR ผ่านกล้องหน้าเสริมด้วยเทคโนโลยีอย่าง MaiColor Vivid+ เป็นอัลกอริทึมช่วยชดเชยสีสัน และความละเอียดในภาพจากที่โดนลดทอนจากกระจกรถ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น แต่สำหรับการบันทึกภาพกล้องหลังแบบ HDR ต้องซื้อกล้องหลังเป็นรุ่น RC12 เท่านั้นนะ กล้องหลังที่มากับเซ็ต A200-1 จะไม่รองรับ HDR
ส่วนตอนกลางคืน ตัวกล้องก็มีระบบ 70mai Night Owl Vision ที่ช่วยปรับแสงสะท้อน ลด Noise เพิ่มความคมชัดของภาพในขณะถ่ายในตอนกลางคืน ช่วยให้มองเห็นป้ายทะเบียน และป้ายบอกทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในที่แสงน้อย
นอกจากนี้ หากติดตั้งกล้องกับแบตเตอรี่รถยนต์โดยตรงผ่าน Hardwire Kit UP02 (ต้องซื้อแยก) ตัวกล้องจะมีการใช้งาน G Sensor เพื่อตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากการชนในขณะรถวิ่ง หรือรถจอดนิ่ง ๆ ซึ่งเมื่อตรวจจับได้ตัวกล้องก็จะอัดวิดีโอให้อัตโนมัติ โดยที่คลิปเหตุการณ์ต่าง ๆ จะแยกไฟล์ออกมาโดยเฉพาะ เพื่อสะดวกต่อการค้นหา
และเมื่อใช้ชุด Hardwire Kit UP02 แล้วยังมีอีก 1 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อย่าง Time-Lapse ถ่ายและบีบอัดวิดีโอในขณะจอดรถ จาก 30 นาที เป็น 1 นาที ทำให้เห็นเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวรถให้ดูแบบครบ ๆ และช่วยให้ย้อนกลับมาดูคลิปได้รวดเร็วขึ้น
70mai Dash Cam A200 รองรับการเชื่อมต่อกับแอป 70mai ทั้งบนระบบ iOS และ Android เพื่อดูภาพจากกล้องในตัวรถได้แบบ Real-Time รวมถึงเข้าชมวิดีโอต่าง ๆ ที่อัดไว้บนกล้อง ได้ชัดขึ้น และตั้งค่าตัวกล้องได้สะดวกกว่าการกดบนตัวกล้อง แต่เป็นการดูในระยะใกล้ๆ กับตัวกล้องนะ เพราะรุ่นนี้ไม่รองรับการดูภาพจากระยะไกล
70mai Dash Cam A200 มีอะไรมาให้ในกล่อง?
70mai Dash Cam A200 ที่เราได้มานั้นเป็นกล่องแบบ Set ซึ่งภายในจะมีอุปกรณ์มาให้แบบเสร็จสรรพ ทั้งตัวกล้องหน้า, กล้องหลัง, อุปกรณ์จ่ายไฟผ่านช่องจุดบุหรี่, อุปกรณ์หนีบกล้องไว้กับตัวรถ รวมถึงสายเชื่อมต่อต่าง ๆ มาให้ครบ ส่วน microSD Card ต้องเลือกซื้อเพิ่ม ซึ่งจะมีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 32GB – 128GB
ทดสอบใช้งานจริง 70mai Dash Cam A200
ความคมชัดและมุมกล้อง
70mai Dash Cam A200 ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ 130 องศา ซึ่งดูจากภาพแล้วสามารถถ่ายถนน 3 – 4 เลน ได้สบาย ๆ เลย
ส่วนคุณภาพของวิดีโอในสภาพแสงตอนกลางวันนั้น ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังก็สามารถเก็บภาพได้คมพอตัว ถึงแม้ว่าจะมาในความละเอียด Full HD 1080P แต่ก็มองเห็นป้ายทะเบียน และป้ายบอกทางได้ชัดเจน สามารถซูมดูระยะป้ายทะเบียนใกล้ ๆ ตัวรถได้ แม้ว่ารถจะมีการเคลื่อนตัว
การบันทึกช่วงเวลากลางคืน
สำหรับการบันทึกในตอนกลางคืนนั้น 70mai Dash Cam A200 ก็ถือว่าเก็บภาพได้ชัดกว่ารุ่นอื่น ๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าถนนที่ถ่ายมีแสงน้อยมาก ๆ ภาพที่ได้อาจจะมีความเป็นวุ้น ทำให้ดูทะเบียนคันหน้าได้ยากนิดหน่อย อาจต้องเลื่อนภาพดูช่วงจังหวะที่ภาพชัดๆ แล้วบันทึกเอาเอง
แต่ในขณะจอดรถ หรือตอนที่หยุดรถนิ่ง ๆ หรือเคลื่อนตัวช้าในที่แสงน้อย ภาพจะดูดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย ซึ่งก็พอทำให้เห็นป้ายทะเบียนได้ชัดเจน
HDR ทำงานดีไหม
เมื่อขับรถเข้าอุโมงค์ หรือเข้าอาคารจอดรถต่าง ๆ ที่มีแสงน้อย โหมด HDR ของทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง 70mai Dash Cam A200 ก็ถือว่าสามารถใช้การได้ดี ปรับแสงได้รวดเร็วภายในพริบตา ซึ่งเมื่อเทียบกับกล้องในกลุ่มราคาเดียวกันแล้วถือว่าทำได้ดีกว่ามาก ๆ
อัดวิดีโอด้วย 70mai Dash Cam A200 ใช้ความจุเท่าไหร่?
สำหรับการอัดวิดีโอด้วยกล้อง 70mai Dash Cam A200 ที่ความละเอียด 1080@25FPS แบบ HDR นั้น เมื่ออัดที่ 3 นาที จะใช้ความจุของเมมโมรี่การ์ดอยู่ที่ประมาณ 245 MB
ระบบรักษาความปลอดภัย
สำหรับใครที่มีชุด Hardwire Kit UP02 และติดตั้งตัวกล้องเข้ากับแบตเตอรี่โดยตรง ก็จะสามารถใช้งานฟีเจอร์ได้อีก 2 ฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น เมื่อมีการเฉี่ยวชน หรือมีคนมายุ่งกับตัวรถในขณะที่จอดนิ่ง ๆ ตัวกล้องก็จะเริ่มอัดวิดีโอแบบอัตโนมัติให้ทันที โดยใช้ G-Sensor ตรวจจับร่วมกับ AI ซึ่งจากที่ทดสอบก็ถือว่าใช้การได้ดีพอสมควร
แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็มีโอกาสที่ระบบไม่สามารถตรวจจับได้ หากตัวเราอยู่ในรถก็สามารถกดรูปธงบนตัวกล้องเพื่อถ่ายเองได้เลย ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่เราอัดไว้ในโหมดฉุกเฉินจะถูกเก็บแยกออกมาอีก 1 โฟลเดอร์ และมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกอัดทับแน่นอน
และฟีเจอร์อีกอย่างเมื่อติดตั้งชุด Hardwire Kit UP02 แล้วตัวกล้องก็จะมีความสามารถเพิ่มขึ้นมา คือ ฟีเจอร์ Time-Lapse Recording ที่จะคอยอัดวิดีโอตลอดเวลาที่เราจอดรถ พร้อมอัดวิดีโอความยาว 30 นาที ให้เหลือเพียงแค่ 1 นาที ทำให้ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ อัดต่อเนื่องได้นานขึ้น ซึ่งจากที่ได้ทดลองจอดนิ่ง ๆ ไว้ที่ประมาณ 1.30 ชั่วโมง พบว่าระบบย่อให้เหลือเพียงแค่ 3 นาที เท่านั้น
ระบบแบตเตอรี่
ด้านแบตเตอรี่ หากมีการเชื่อมต่อพลังงานจากช่องที่จุดบุหรี่ 70mai Dash Cam A200 จะมีฟีเจอร์ปิดกล้องอัตโนมัติเมื่อจอดไปสักระยะ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์หมด
ส่วนรุ่นไหนที่มีการติดตั้งเข้ากับแบตเตอรี่โดยตรงด้วยชุด Hardwire Kit UP02 จะมีฟีเจอร์ที่ป้องกันไฟตกจากแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเมื่อตัวกล้องตรวจจับได้ว่าแรงดันไฟฟ้าตก ตัวกล้องก็จะตัดการเชื่อมต่อจากแบตเตอรี่ทันที
การใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
70mai Dash Cam A200 ยังรองรับการเชื่อมต่อใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นทั้งบนมือถือ Android และ iOS ซึ่งภายในแอปสามารถดูภาพ Live Feed จากกล้องหน้า และกล้องหลังได้โดยตรง รวมถึงยังสามารถดูไฟล์วิดีโอที่กล้องบันทึกได้ทันที แถมยังสามารถตั้งค่าตัวกล้องได้สะดวกขึ้น สำหรับการเชื่อมต่อนั้นสามารถเพียงทำตามขั้นตอน ดังนี้
- ดาวน์โหลดแอป 70mai พร้อมลงทะเบียน และล็อกอินให้เรียบร้อย
- เปิดเมนูการเชื่อมต่อ Wi-Fi จากตัวกล้อง
- เปิดแอปบนมือถือ กดเมนูเพิ่มอุปกรณ์ เลือกกล้องติดรถยนต์
- เชื่อมต่อ Wi-Fi Hotspot จากกล้อง 70mai บนมือถือ พร้อมกรอกรหัส Wi-Fi ที่ระบุบนตัวกล้อง
สรุปภาพรวมการใช้งาน
จากที่ได้ทดสอบลองใช้งานระยะสั้น ๆ ต้องบอกว่าในงบพันต้น ๆ 70mai Dash Cam A200 ถือว่าใช้งานได้ดีพอสมควรในตอนกลางวัน เพราะตัวกล้องสามารถซูมรายละเอียดป้ายถนนหนทางต่าง ๆ ได้คมชัด มุมกล้อง 130 องศา สามารถเก็บภาพได้กว้างทั่วถึงทุกเลย ซึ่งเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกัน ถือว่าทำได้ดีกว่ามาก ๆ
ส่วนในตอนกลางคืนนั้น ในรุ่นนี้อาจจะยังไม่เหมาะสักเท่าไหร่ เพราะรายละเอียดอาจยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควรในตอนที่รถเคลื่อนไหว ทำให้ดูรายละเอียดอย่างป้ายทะเบียนได้ยาก ต้องหาจังหวะนั่งเก็บภาพช็อตที่ชัด ๆ เอง
แต่ถ้าใครขับรถตอนกลางคืนบ่อย ๆ อยากได้ภาพที่ชัดเจน ไม่ต้องแคปทีละช็อต ก็มีรุ่น A810 ที่ได้ทั้งเซนเซอร์ที่ดีกว่าอย่าง IMX678 แถมยังได้ภาพที่คมชัดระดับ 4K ซึ่งน่าจะตอบโจทย์มากกว่า ดังนั้นกล้องรุ่นนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ใช้รถตอนกลางวัน หรือใช้บันทึกภาพตอนรถจอดมากกว่า เพราะฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ให้มาเรียกว่าค่อนข้างครบครันกับการใช้งานแล้ว
ข้อดี
- มุมมองภาพกว้างกำลังดี ถ่ายถนนได้ชัดเจนถึง 3 เลน
- ภาพตอนกลางวันคมชัด ถ่ายเห็นป้ายชัดเจน เมื่อเทียบกับกล้องในราคาเดียวกัน
- รองรับความละเอียด Full HD ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
- กล้องหน้ารองรับ HDR
- โหมดการใช้งานครบครัน ทั้งโหมดตรวจจับการสั่นไหว และโหมด Time-Lapse Recording
- เชื่อมต่อตั้งค่า ดูกล้องผ่านมือถือได้
- ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับคนงบน้อย
จุดพิจารณา
- กล้องกลางคืนอาจจับป้ายทะเบียนได้เบลอเล็กน้อย รถต้องวิ่งไม่เร็ว หรือจอดนิ่ง ๆ ถึงจะถ่ายได้คมชัด
- การเชื่อมต่อกับแอปต้องอยู่ในวงสัญญาณ Hotspot ของตัวกล้องเท่านั้น
สเปค 70mai Dash Cam A200
70mai Dash Cam A200 | ||
สเปค และฟีเจอร์ | กล้องหน้า | กล้องหลัง RC11 (กล้องที่มากับชุด A200-1) |
ความละเอียด | Full HD 1920*1080 พิกเซล | |
HDR | รองรับ HDR@25FPS | – (หากต้องการ HDR ต้องซื้อกล้องรุ่น RC12 ต่างหาก) |
มุมมองภาพ | 130° | |
จอแสดงผล | IPS LCD ขนาด 2 นิ้ว | – |
เซนเซอร์ | GC2093 | GC2053 |
ค่ารูรับแสง | F2.0 | |
แบตเตอรี่ | 500mAh | |
MicroSD Slot | 16GB – 128GB | |
โหมด Parking Surveillance | รองรับ | |
โหมด Time-Lapse Recording | ||
รองรับการควบคุมผ่านแอป |
ช่องทางการสั่งซื้อ
70mai Dash Cam A200 วางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok Shop รวมถึงใน Facebook รวมถึงช่องทางออฟไลน์ 70mai Store & Service ที่รามอินทรา กม. 14 ในราคาเริ่มต้น 2,199 บาท โดยสินค้ามาพร้อมกับการรับประกันศูนย์ 1 ปี
- Shopee:https://bit.ly/3NivAYq
- Lazada :https://bit.ly/3t4r8pd
- Facebook :https://www.facebook.com/70mai.officialstore.thailand
- Tiktok shop :https://bit.ly/3T6NJMx
Comment