ช่วงนี้หลายค่ายใหญ่ๆ เริ่มเจาะตลาดสมาร์ทโฟน 2 ซิมกันมากขึ้นเรื่อยๆ และ HTC ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่จัดเอา HTC Desire V ออกมาบุกตลาดกับเค้าด้วย โดยจัดสเปคเป็นให้เป็น ICS ที่มาพร้อม CPU 1 GHz และหน้าจอใหญ่ 4 นิ้ว พร้อมกับ Sense UI 4.0 ที่มาพร้อมกับระบบเสียง beats audio กับราคาเปิดตัว 10,900 บาท

HTC Desire V ตอนนี้ออกวางจำหน่ายแล้วทั้ง 2 สีคือ ดำล้วน และ ขาวแดง หน้าจอมีขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด WVGA 800×480 บริเวณขอบจอเป็นโลหะ

 

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นพลาสติกขึ้นรูปเคลือบด้วยยาง ให้ผิวสัมผัสหนึบหนับ หยิบจับง่าย ไม่ลื่นไหลหลุดมือ และไม่มีเงาสะท้อนไม่มีคราบรอยนิ้วมือ

 

มีกล้องออโตโฟกัส ความละเอียด 5 ล้าน พร้อม LED แฟลชสำหรับถ่ายภาพในที่มืด สามารถบันทึก VDO ที่ึึความละเอียดสูงสุดที่ WVGA

 

ด้านบนมีปุ่มพาวเวอร์สำหรับ เปิด/ปิด เครื่อง และข้างๆกันคือช่องเสียบหูฟังและสมอลทอล์คขนาด 3.5 มม.

 

ทางด้านขวาเป็นปุ่ม volumne rokr สำหรับปรับเพิ่มลดเสียงเพลง หรือเสียงสนทนา

 

ส่วนด้านซ้ายมีช่องเสียบ micro USB เพื่อชาร์จแบตหรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

 

เมื่อเปิดฝาหลังออก จะพบช่องใส่ sim คู่ ที่ออกแบบมาได้แนวสุดๆ และช่องใส่ micro SD ตรงกลาง รองรับถึง 32 GB

 

เห็นไหม ช่องใส่ sim เท่ๆ ดูจากภาพในช่องแบตได้ว่าใส่อย่างไร SIM หลักคือช่องซ้ายรองรับ 3G ส่วน SIM รองจะรองรับแค่ EDGE เท่านั้น ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 1650 มิลลิแอมป์

 

ตอนนี้ผมใส่เข้าไปทั้ง 2 sim เพื่อที่จะทำการทดสอบสัญญาณ มีเสาโผล่มา 2 เสาเลย แต่ถ้าใส่ไป sim เดียวก็จะขึ้นเสาเดียว

 

ส่วนของ sim สามารถปรับตั้งค่าได้ และเลือกว่าจะใช้ data จาก sim ไหนก็ได้

 

นับว่าเป็น android 2 ซิมไม่กี่เครื่องที่มาพร้อม ICS  4.0.3

 

คราวนี้ลองมาดูกล้องถ่ายภาพกันบ้าง หน้าตาโปรแกรม Sense Camera แบบเดียวกับพวกรุ่นพี่ แต่ลูกเล่นน้อยกว่า

 

จากที่ไปทดลองถ่ายภาพแบบ indoor มา ภาพมันสีแอบจืดๆ และมืดๆ ไปหน่อย ยังไงเดี๋ยวจะหาโอกาสถ่ายภาพ outdoor กลางแจ้งมาให้ได้ชมกันเพิ่มนะครับ

สำหรับใครที่สนใจนะครับ HTC Desire V รองรับ 3G แค่ AIS และ TOT คือเฉพาะคลื่น 900/2100 เท่านั้น ใครที่ใช้ DTAC หรือ True H ก็จะใช้ 3G ไม่ได้ การใช้งาน 2 sim เป็นแบบ dual-standby คือสามารถเปิดรับสายได้ทั้ง 2 เบอร์ แต่เป็น single-active คือถ้ามีการใช้งานเบอร์นึง อีกเบอร์นึงจะไม่สามารถใช้งานได้ครับ

พรีวิวกันเป็นน้ำจิ้มแค่นี่ก่อน ไว้เจอกันอีกที กับ vdo review นะครับ