ในงาน MWC 2023 นอกจากจะมีการเปิดตัวมือถือของเหล่าแบรนด์ระดับยักษ์ใหญ่แล้ว AMG Mobile ผู้ผลิตมือถือสายถึกทนสำหรับใช้ในสภาพอากาศสุดโหด ก็ได้ร่วมแจมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง AGM G2 Guardian ที่มาพร้อมกับระบบกล้องที่สามารถจับความร้อนได้ในระยะ 500 เมตรเป็นรุ่นแรกของโลก! นอกจากนี้ยังมีสเปคอีกหลายส่วนที่น่าสนใจด้วย

AGM G2 Guardian Durabilities

AGM G2 Guardian มาพร้อมตัวเครื่องในดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อทุกสถาวะสุดโหด ได้รับการรับรองทั้งมาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP68 และ IP69K ที่สามารถป้องกันได้ทั้งฝุ่น เศษปูนซีเมนต์ รวมถึงเศษผงเคมีต่าง ๆ ที่ให้ในวงการอุตสาหกรรม อีกทั้งยังทนต่อแรงดันน้ำระดับสูงพิเศษ สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 ได้ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังได้รับการรับรองมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H ทนต่อแรงกระแทกพื้นคอนกรีตระดับรุนแรงที่ความสูง 1.5 เมตร สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ไปจนถึง 60°C 

AGM G2 Guardian Screen

ในรุ่นนี้มาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 6.58 นิ้ว บนความละเอียด Full HD+ รองรับรีเฟรชเรทลื่นไหล 120Hz มาพร้อมกระจกหน้าจอกันกระแทก Corning Gorilla Glass (ไม่ระบุเวอร์ชัน) ตัวเครื่องรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่อง ด้านบนยังมาพร้อมกับไฟฉายส่องสว่าง 100 Lumens ด้วย

AGM G2 Guardian Performance

นอกจากตัวเครื่องจะถึกทนแบบสุด ๆ แล้ว ด้านประสิทธิภาพก็ไม่ถือว่าขี้เหร่ เพราะในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล 5G Qualcomm QCM6490 ซึ่งเป็นชิปที่มักจะใช้ในอุปกรณ์ IT ระดับอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับความแรงที่มากกว่า Dimensity 1100 เล็กน้อย ประกบคู่มากับ ROM UFS 2.2 ความจุ 256GB และมี RAM ให้เลือก 2 ขนาด 8GB / 12GB มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุไซส์ยักษ์ 7,000 mAh รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 18W และรองรับการชาร์จไร้สาย 10W ด้วย

AGM G2 Guardian Thermal CameraThermal Camera 2

ทีเด็ดในรุ่นนี้คือระบบกล้อง 4 ตัว ที่เหมาะกับทั้งการล่าสัตว์, ภารกิจค้นหาและช่วยเหลือชีวิตคน หรือแม้กระทั่งการเอาตัวรอดในป่า โดยเซนเซอร์ประกอบไปด้วยกล้องตรวจจับความร้อนที่ตรวจจับอุณหภูมิในร่างกายสิ่งมีชีวิตได้ไกลถึง 500 เมตร และตรวจจับความร้อนในยานพาหนะได้ในระยะ 1 กิโลเมตร, กล้อง Night Vision 20MP, กล้องเซนเซอร์หลัก 108MP และกล้อง Macro 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดที่ 32MP

Camera Specs

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับลำโพงที่เสียงดังสูงสุดถึง 108 เดซิเบลที่ดังพอ ๆ กับเสียงไซต์ก่อสร้างเลยทีเดียว ซึ่งลำโพงที่ว่านี้จะถูกนำมาใช้ในระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน AGM SOS ที่จะส่งเสียงดัง และใช้ไฟฉายในเครื่องเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกทั้งยังมี GPS แบบ Dual-Frequency ที่สามารถจับตำแหน่งได้อย่างแม่นยำด้วย

Speaker

สเปค AGM G2 Guardian

  • จอภาพ :  6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 120Hz ไม่ระบุชนิดพาเนล
  • ชิป : Qualcomm QCM6490
  • หน่วยความจำ UFS 2.2 :  8GB + 256GB / 12GB + 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้อง Night Vision 20MP
    – กล้อง Macro 2MP
    – กล้องตรวจจับความร้อน ความละเอียด 256×192
  • กล้องหน้า : 32MP
  • เครือข่าย : 2G GSM, 3G WCDMA, 4G LTE FDD, 4G LTE TDD, 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 6E 802.11a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – GPS Dual Frequency  GLONASS, Compass navigation system
    – NFC
  • พอร์ต : USB Type-C Waterproof 3.0, แจ็กหูฟัง 3.5 มม.
  • ระบบเสียง: ลำโพงเดี่ยว ดังสูงสุด 108 เดซิเบล
  • เซนเซอร์ : Light Sensor, Distance sensor, Gravity Acceleration Sensor, Geomagnetic sensor, Fingerprint, Gyro
  • แบตเตอรี่ : 7,000 mAh ชาร์จผ่านสาย 18W ชาร์จไร้สาย 10W
  • ความทนทาน :
    ทนอุณหภูมิ -20°C~60°C
    – ทนกระแทก MIL-STD-810H
    – กันน้ำและฝุ่น IP68, IP69X
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass
  • ระบบปฏิบัติการ : Pure Android 12
  • ขนาด : 177.5 x 85.3 x 25.3 มม.
  • น้ำหนัก : 405 กรัม

ราคา และการวางจำหน่าย

AGM G2 Guardian เปิดให้สั่งจอง Pre-Sale ผ่านเวบไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ได้ทั่วโลก และตัวเครื่องจะถูกจัดส่งภายในวันที่ 22 มีนาคม 2023 โดยราคารุ่น Unlocked ใช้งานได้ทั่วโลกมีราคาดังนี้

  • 8GB + 256GB ราคา 929 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32,329 บาท)
  • 12GB + 256GB 1,029 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 35,809 บาท)

เมื่อลองเข้าไปดูในเวบไซต์ปรากฏว่าตัวเครื่องรุ่นนี้จัดส่งมาถึงไทยด้วย (ไม่ชัวร์ 100% หากสนใจต้องลองสอบถามข้อมูลจากต้นทางอีกที) ทั้งนี้ราคาที่ปรากฏบนหน้าเวบไซต์ยังไม่ได้รวมภาษีนำเข้า และยังไม่ได้รวมค่าจัดส่งเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งจัดส่งแบบฟรีแต่ต้องรอประมาณ 25 – 30 วัน และมีบริการส่งด่วน 5 – 14 วันผ่าน FedEx ซึ่งจะมีค่าจัดส่งเพิ่มเติมประมาณ 40 เหรียญ (ประมาณ 1,400 บาท) ใครสนใจเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าเวบไซต์ของ AMG Mobile ได้เลยนะ

 

ที่มา: AGM MOBILE, NoteBookCheck