สำนักงานตำรวจแห่งชาติอัปเดตสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ปี 2565 – 31 กรกฎาคม ปี 2567 พบยอดแจ้งความสะสมมากถึง 612,603 เรื่อง โดยใน 14 ประเภทคดีออนไลน์พบว่าการหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ, การหลอกให้โอนเงินเพื่อสมัครงาน และ การหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์เป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้ยังแจกฟรี AIS Secure Net นาน 1 ปี เอาไว้เป็นตัวช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ได้อีกแรงนึง

ส่องสถิติ 14 คดีออนไลน์ที่คนไทยโดนหลอกมากสุดปี 2565 – 2567

  1. หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการไม่เป็นขบวนการ 296,042 คดี
  2. หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ 82,162 คดี
  3. หลอกให้กู้เงิน 63,878 คดี
  4. หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 45,787 คดี
  5. ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call center) 42,404 คดี
  6. หลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 25,344 คดี
  7. หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลฯ 22,342 คดี
  8. หลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบฯ 15,344 คดี
  9. หลอกลวงเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัล 3,525 คดี
  10. กระทำต่อระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ 2,306 คดี
  11. หลอกรักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) 4,568 คดี
  12. หลอกให้ลงทุนความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน 3,749 คดี
  13. หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการเป็นขบวนการ 2,966 คดี
  14. เข้ารหัสข้อมูลคอมพิวเตอร์ของคนอื่น (Ransomware) 547 คดี

แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะว่ายังมีคดีออนไลน์อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากนี้อีก 19,760 คดี และจากสถิติรวมคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ปี 2565 – 31 กรกฎาคม ปี 2567 มีการแจ้งความทั้งหมด 612,603 เรื่อง สร้างมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 69,186,829,589 บาท โดยแจ้งความผ่านแต่ละช่องทาง ดังนี้

  • แจ้งความทาง ThaiPoliceOnline.go.th จำนวน 324,166 เรื่อง
  • แจ้งความแบบ Walk In จำนวน 134,185 เรื่อง
  • แจ้งความทางสายด่วน AOC 1441 จำนวน 154,252 เรื่อง

ที่น่าสนใจคือเป็นเรื่องของการอายัดบัญชี ซึ่งก็มีส่วนนึงที่สามารถอายัดได้ทัน โดยแจกแจกข้อมูลได้ ดังนี้

  • จำนวนบัญชีที่ขออายัด 463,399 บัญชี
  • ยอดเงิน 39,754,813,148 บาท
  • อายัดได้ทัน 7,428,020,982 บาท นับเป็น 10.74% ของจำนวนเงินทั้งหมด

6 อันดับประเทศที่มีอาชญากรรมออนไลน์ ปี 2566

  1. อินเดีย
  2. ไนจีเรีย
  3. ซาอุดิอาระเบีย
  4. สหรัฐฯ
  5. ออสเตรเลีย
  6. ไทย

เคสตัวอย่างการหลอกลวงที่เกิดขึ้นในไทย

จริง ๆ ปัจจุบันนี้ คือ แทบจะมีข่าวการหลอกลวงออกมาให้เห็นเกือบทุกวัน เพื่อเป็นการเตือนภัยประชาชนให้ระมัดระวังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นไปจนถึงวัยชราก็ควรที่จะรู้เท่าทันเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งก็มีตัวอย่างการหลอกลวงที่เคยเกิดขึ้นในไทยมาให้ดู ดังนี้

  • เคสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมตัวเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาหาเหยื่อ (ส่วนมากใช้เป็นเทคโนโลยี Deep Fake)
  • เคสหลอกติดตั้งแอป ทำสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท
  • เคสหลอกเก็บเงินปลายทาง แต่ส่งพัสดุไม่ตรงปกมาให้
  • เคสแฮกบัตรเครดิต เพื่อไปเติมเกมออนไลน์
  • เคสจัดฉาก หารายได้เสริม ให้โอนเงินให้ร้านค้า เพื่อแลกเงินคืนในจำนวนที่มากกว่า (อารมณ์เหมือนได้ดอกเบี้ย)

AIS พร้อมแจกฟรี Secure Net นาน 1 ปี

นอกจากนี้ AIS ยังได้มีส่วนร่วมในการปกป้องประชาชนให้รอดพ้นจากภัยออนไลน์ด้วยการแจก Secure Net นาน 1 ปี โดยลูกค้าสามารถดรับได้ที่

  • กด *689*6# และกดโทรออก

และเพิ่มทากเลือกให้ลูกค้าด้วยการเพิ่มออพชัน Secure Net+ Protected by MSIG 0จะป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ได้แก่ ไวรัส, มัลแวร์, เว็บไซต์ปลอม เป็นต้น ซึ่งเมื่อซื้อแพ็กเกจนี้จะได้รับฟรี ประกันภัน Personal Cyber จาก MSIG (มูลค่า 39 บาท/เดือน) ที่จะคุ้มครองพวกการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว, โจรกรรมเงิน ตลอดจนการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท โดยลูกค้าสามารถดรับได้ที่

  • กด *689*10# และกดโทรออก

สายด่วนภัยออนไลน์

หากใครที่เจอเหตุด่วนสามารถติดต่อสายด่วน AOC 1441 ซึ่งจะคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โดยลักษณะการแจ้งก็มีทั้ง

  • แจ้งระงับ/อายัดบัญชีคนร้าย
  • ติดตามสถานะการแก้ไขปัญหาได้ทุกขั้นตอน
  • เร่งติดตามคืนเงินให้ผู้เสียหาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพการจับกุมและดำเนินคดี