AIS รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ในปี 2565 ทำรายได้รวม 46,234 ล้านบาทรายได้มีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 41 เปอร์เซ็น เมื่อเทียบกับปีก่อนถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาจะดูซบเซาอยู่บ้างเพราะเกิดการชะลอตัว แต่ในฝั่งธุรกิจเน็ตบ้านผู้ใช้บริการแตะ 2.1 ล้านราย ยังคงทำให้ AIS ก้าวขึ้นเป็นผู้นำร่องให้บริการเครือข่ายได้ดีที่สุดในตอนนี้ และพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Cognitive Tech-Co อย่างเต็มตัว
ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนทำให้เกิดการชะลอตัวในหลายด้าน แต่ทาง AIS ก็ออกมาเปิดเผยรายได้ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2565 รวมแล้วทำรายได้อยู่ที่ 46,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และในฝั่งของผู้ในเน็ตบ้าน AIS Fibre ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง ฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ 2.1 ล้านราย ทำให้เรามั่นใจได้ว่า AIS กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเครือข่ายอย่างเต็มตัวในบ้านเรา
ในช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าภาวะฝืดเคืองทางเศรษฐกิจเหล่านี้จะเข้ามามีผลกระทบก็ตามแต่ในประเทศไทยยังคงมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังคงมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมทั่วประเทศการให้บริการของ 5G มีความครอบคลุมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 85%
ของพื้นที่ประชากร ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบ 30,000 ล้านบาท รองรับความต้องการของคนในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอทั้งการใช้งานทั่วไป และแง่ธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของประเทศให้มีความมั่นคง ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ CognitiveTech-Co มากยิ่งขึ้นค่ะ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “ในไตรมาสที่ผ่านมาเราเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างทั้งภาวะต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เราต้องเพิ่มการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หรือแม้แต่สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวภาคธุรกิจ และอารมณ์ของผู้บริโภคก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ในจุดที่จะเป็นแรงขับเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรายังเห็นสัญญาณบวกจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของประเทศที่วันนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับกิจกรรมต่างๆ ภายในประเทศเริ่มกลับมาคึกคักภาครัฐ ภาคธุรกิจเริ่มกลับมาจัดงานอีเว้นต่างๆ ก็น่าจะเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวกลับมาได้”
รายได้สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 มาจากอะไรบ้าง
รายได้รวมอยู่ที่ 46,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% กับไตรมาสก่อน โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) ในไตรมาสนี้ที่ 22,091 ล้านบาทลดลง -3.5% จากปีก่อน และ -1.2% เทียบกับไตรมาสก่อน โดยอัตรา EBITDA Margin ยังคงแข็งแกร่งที่ 48% ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 6,032 ล้านบาท ลดลง -5.4%
เทียบกับปีก่อนและ -4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจดังนี้
- ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้านจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 157,300 หมายเลขส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือรวมที่ 45.7 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 33.3 ล้านเลขหมายและระบบรายเดือน 12.4 ล้านเลขหมาย ทางด้านการให้บริการ 5G AIS
มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้นแล้วมากกว่า 5.5 ล้านราย เพิ่มขึ้นกว่า 41% สามารถให้บริกาiครอบคลุมแล้วกว่า 85% ของพื้นที่ประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 1 - ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS Fibre สามารถจัดสรรการใช้งานให้สอดรับกับพฤติกรรมหลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ AIS Fibre เติบโต 16%
เทียบกับปีก่อน และ 2.2% ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนมีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 114,500 ราย ทำให้มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.1 ล้านรายในตอนนี้ - ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีการเติบโต 17% เทียบกับปีก่อน มีความมุ่นมั่นในการสนับสนุนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้พร้อมทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ผ่านโซลูชันเครื่องมือดิจิทัลที่ตอบโจทย์ ทั้ง AIS 5G NEXTGen Platform , การรุกตลาดบริการ Cloud Security , AIS Cloud X ระบบนิเวศคลาวด์อัจฉริยะที่เป็นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก, มาร์เก็ตเพลสซอฟต์แวร์ AIS Biz App Mart
ด้วยการนำเสนอโซลูชันและเครื่องมือทางธุรกิจที่ดีที่สุดจากไมโครซอฟท์
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจไทยจะไม่ได้ดีขึ้นมากเท่าไหร่ รวมไปถึงการชอการซื้อในหลาย ๆ ด้าน แต่รายได้ในไตรมาส 3 ของ AIS ยังคงทำผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจค่ะ และทาง AIS พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน Cognitive Tech-Co ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรต่อไป ให้เติบโตขึ้นอีกในอนาคตเพื่อให้รองรับต่อความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์
Comment