AMD สร้างกระแสฮือฮาในงาน CES 2025 ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เอาใจทั้งสายเกมเมอร์และคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกมพกพา บอกเลยว่ารอบนี้ AMD จัดเต็มทั้งประสิทธิภาพและเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง Zen 5 ที่มาช่วยยกระดับการใช้งานให้แรงกว่าเดิม ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกระดับ เรียกได้ว่าใน Line-up ชิปจากทาง AMD ทั้งหมดในปีนี้ถูกอัปเกรดเป็น Zen 5 เกือบทั้งหมดแล้ว แต่ก็อาจจะมี Zen 4 อยู่บ้างในบางรุ่นที่ราคาไม่แพง
สิ่งที่ทำให้ฮือฮาในงานนี้ต้องยกให้ Ryzen AI MAX 300 ซีพียูที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานร่วมกับ AI โดยเฉพาะ แถมยังจัดกราฟิก iGPU มาให้ถึง 40 CU เรียกได้ว่าแรงพอจะชนกับการ์ดจอแยกได้สบาย ๆ อีกตัวที่น่าจับตามองคือ Ryzen Z2 Series ชิปใหม่สำหรับเครื่องเล่นเกมพกพาที่พร้อมวางจำหน่ายในปี 2025 และฝั่งเดสก์ท็อปก็ไม่น้อยหน้า กับ Ryzen 9 9950X3D ซีพียูระดับเรือธงที่มาพร้อม 3D V-Cache เพิ่มเฟรมเรตการเล่นเกมแบบจัดเต็ม และแกนประมวลผล 16 คอร์ที่รองรับทั้งงานหนักและเล่นเกมได้สบาย ๆ อีกด้วย
Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9900X3D ซีพียูเดกส์ท็อปที่เล่นเกมดีที่สุด
โดยเริ่มจากการเปิดตัว Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9900X3D ซีพียูตระกูลที่ขึ้นชื่อว่าเล่นเกมดีที่สุดจาก AMD รอบนี้อัปเกรดตีบวกเพิ่มพลังเป็นสถาปัตยกรรม Zen 5 แล้ว พร้อมเทคโนโลยี 3D V-Cache จัดเป็นรุ่นรุ่นใหญ่เพิ่มคอร์จากรุ่นที่เปิดไปแล้วก่อนหน้านี้อย่าง Ryzen 7 9800X3D
Model | Cores / Threads | Boost6 / Base Frequency | Cache | TDP |
Ryzen 9 9950X3D | 16C/32T | Up to 5.7 GHz | 144MB | 15-35W |
Ryzen 9 9900X3D | 12C/24T | Up to 5.5 GHz | 140MB | 15-30W |
ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าซีพียูทั้งสองรุ่นสามารถเล่นเกมได้แรงกว่า Intel Core Ultra 9 285K เฉลี่ย 20% และยังเหนือกว่า Ryzen 9 7950X3D เฉลี่ย 8% สำหรับการทำงานด้านครีเอเตอร์ Ryzen 9 9950X3D มีประสิทธิภาพสูงกว่า Ryzen 9 7950X3D 13% และเร็วกว่า Intel 285K 10% โดย AMD คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2025
Ryzen AI MAX 300 “Strix Halo” ชิปโน้ตบุ๊กพลัง AI แรงที่สุดในปี 2025
ในงาน CES 2025 AMD ยังเปิดตัว Ryzen AI MAX 300 หรือ “Strix Halo” ซึ่งเป็นซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊คระดับ Flagship รุ่นที่เขาร่ำลือว่าตัวนี้แรงจริงจัง ที่มีสถาปัตยกรรม Zen 5 4nm สูงสุด 16 คอร์ กราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 40 CU และรองรับ NPU (XDNA2) 50 TOPS โดยค่า TDP อยู่ในช่วง 45W ถึง 120W
Model | Cores / Threads | Boost / Base Frequency | Cache | Graphics | TDP | NPU TOPS |
Ryzen AI Max+ 395 | 16C/32T | Up to 5.1 GHz | 80MB | Radeon 8060S 40CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max 390 | 12C/24T | Up to 5.0 GHz | 76MB | Radeon 8050S 32CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max 385 | 8C/16T | Up to 5.0 GHz | 40MB | Radeon 8050S 32CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max 380 | 6C/12T | Up to 4.9 GHz | 22MB | Radeon 8040S 16CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max+ PRO 395 | 16C/32T | Up to 5.1 GHz | 80MB | Radeon 8060S 40CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max PRO 390 | 12C/24T | Up to 5.0 GHz | 76MB | Radeon 8050S 32CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max PRO 385 | 8C/16T | Up to 5.0 GHz | 40MB | Radeon 8050S 32CU | 45-120W | 50 |
Ryzen AI Max PRO 380 | 6C/12T | Up to 4.9 GHz | 22MB | Radeon 8040S 16CU | 45-120W | 50 |
จากผลการทดสอบของ AMD ซีพียูรุ่นนี้มีคะแนนการทดสอบด้านกราฟิกแรงกว่า Intel Core Ultra 9 288V เฉลี่ย 1.4 เท่า และแรงกว่า Apple M4 Pro ถึง 12–86% นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า GeForce RTX 4090 ถึง 2.2 เท่า และประหยัดพลังงานกว่า 87% ซึ่ง AMD วางแผนจำหน่ายในไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สองของปี 2025
Ryzen Z2 Series ชิปใหม่ของเครื่องเล่นเกมพกพาปี 2025
สำหรับเครื่องเล่นเกมพกพา AMD ได้เปิดตัว Ryzen Z2 Series ซึ่งประกอบด้วยสามรุ่นได้แก่ Ryzen Z2 Extreme, Ryzen Z2 และ Ryzen Z2 Go สเปกตามนี้
Model | Cores / Threads | Boost / Base Frequency | Cache | Graphics | TDP |
Ryzen Z2 Extreme | 8C/16T | Up to 5.0 GHz | 24MB | Radeon 890M 16 CU | 15-35W |
Ryzen Z2 | 8C/16T | Up to 5.1 GHz | 24MB | Radeon 780M 12 CU | 15-30W |
Ryzen Z2 Go | 4C/8T | Up to 4.3 GHz | 10MB | Radeon 680M 12 CU | 15-30W |
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลอย่างแบตเตอรี่ จะใช้งานได้ยาวนานขึ้นหรือไม่ ทาง AMD ยืนยันว่ามีการปรับปรุงให้ใช้งานได้นานขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่ามากขึ้นกี่นาที Ryzen Z2 Series จะวางขายภายในไตรมาส 1/2025 โดย Lenovo Legion Go S จะเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้ชิปรุ่น Ryzen Z2 Go ส่วน Steam Deck ทาง Valve ยืนยันว่าจะยังไม่มีรุ่นอัปเกรดในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่า ROG Ally ก็ไม่น่าพลาดที่จะลงตลาดด้วย คาดว่าช่วงกลางปี 2025 เราน่าจะเห็นความชัดเจนเพิ่มเติม
Ryzen 9000HX Series ซีพียูโน้ตบุ๊กที่เล่นเกมที่ดีสุดในปี 2025
AMD ยังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับโน้ตบุ๊คด้วยการเปิดตัว Ryzen 9000HX Series โค้ดเนม “Fire Range” ซึ่งมาพร้อมสถาปัตยกรรม Zen 5 โดยมีตัวเลือกสูงสุดถึง 16 คอร์ และยังมีรุ่น X3D ที่เพิ่มแคชขนาดใหญ่เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น รุ่นเด่นในซีรีส์นี้ได้แก่ Ryzen 9 9955HX3D ที่มี 16 คอร์ 32 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4 GHz และแคชรวม 144MB ซีรีส์นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงครึ่งแรกของปี 2025
Model | Cores / Threads | Boost / Base Frequency | Cache |
Ryzen 9 9955X3D | 16C/32T | Up to 5.4 GHz | 144MB |
Ryzen 9 9955X | 16C/32T | Up to 5.4 GHz | 80MB |
Ryzen 9 9855X | 12C/24T | Up to 5.2 GHz | 76MB |
Ryzen AI 300 และ Ryzen AI 200 Series ตัวเลือกใหม่สำหรับโน้ตบุ๊กระดับกลาง
ในส่วนของซีพียูโน้ตบุ๊คระดับกลาง AMD ได้เปิดตัว Ryzen AI 300 Series (Kraken Point) และ Ryzen AI 200 Series (Hawk Point Refresh) โดย Ryzen AI 300 Series ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 4nm และกราฟิก RDNA 3.5 พร้อมค่า TDP 15–54W
Model | Cores / Threads | Boost / Base Frequency | Cache | Graphics | TDP | NPU TOPS |
Ryzen AI 7 350 | 8C/16T | Up to 5.0 / 2.0 GHz | 24MB | Radeon 860M | 15-54W | 50 |
Ryzen AI 5 340 | 6C/12T | Up to 4.8 / 2.0 GHz | 22MB | Radeon 840M | 15-54W | 50 |
Ryzen AI 7 PRO 350 | 8C/16T | Up to 5.0 / 2.0 GHz | 24MB | Radeon 860M | 15-54W | 50 |
Ryzen AI 5 PRO 340 | 6C/12T | Up to 4.8 / 2.0 GHz | 22MB | Radeon 840M | 15-54W | 50 |
ในขณะที่ Ryzen AI 200 Series ใช้ Zen 4 และกราฟิก RDNA 3 พร้อมค่า TDP ในช่วงเดียวกัน ซีพียูเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์ AI อย่าง Microsoft Copilot+ และตอบโจทย์ตลาดโน้ตบุ๊คราคาเริ่มต้นถึงระดับกลาง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สองของปี 2025
Model | Cores / Threads | Boost / Base Frequency | Cache | Graphics | TDP | NPU TOPS |
Ryzen 9 270 | 8C/16T | Up to 5.2 / 4.0 GHz | 24MB | Radeon 780M | 35-54W | 16 |
Ryzen 7 260 | 8C/16T | Up to 5.1 / 3.8 GHz | 24MB | Radeon 780M | 35-54W | 16 |
Ryzen 7 250 | 8C/16T | Up to 5.1 / 3.3 GHz | 24MB | Radeon 780M | 15-30W | 16 |
Ryzen 5 240 | 6C/12T | Up to 5.0 / 4.3 GHz | 22MB | Radeon 760M | 35-54W | 16 |
Ryzen 5 230 | 6C/12T | Up to 4.9 / 3.5 GHz | 22MB | Radeon 760M | 15-30W | 16 |
Ryzen 5 220 | 6C/12T | Up to 4.9 / 3.2 GHz | 22MB | Radeon 740M | 15-30W | N/A |
Ryzen 3 210 | 4C/8T | Up to 4.7 / 3.0 GHz | 12MB | Radeon 740M | 15-30W | N/A |
Ryzen 7 PRO 250 | 8C/16T | Up to 5.1 / 3.3 GHz | 24 MB | Radeon 780M | 15-30W | 16 |
Ryzen 5 PRO 230 | 6C/12T | Up to 4.9 / 3.5 GHz | 22 MB | Radeon 760M | 15-30W | 16 |
Ryzen 5 PRO 220 | 6C/12T | Up to 4.9 / 3.2 GHz | 22 MB | Radeon 740M | 15-30W | N/A |
Ryzen 3 PRO 210 | 4C/8T | Up to 4.7 / 3 GHz | 12 MB | Radeon 740M | 15-30W | N/A |
Radeon RX 9070 XT และ RX 9070 การ์ดจอรุ่นใหม่พลัง RDNA 4
AMD เปิดตัวการ์ดจอ Radeon RX 9070 XT และ RX 9070 ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ภายในงาน CES 2025 โดยเป็นการ์ดจอรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ เช่น หน่วยประมวลผล AI รุ่นที่สอง หน่วยประมวลผล Ray Tracing รุ่นที่สาม และ Radiance Display Engine รุ่นที่สอง
จุดเด่นสำคัญของ RDNA 4 คือการใช้ AI ในการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านกราฟิกและการประมวลผล โดยเฉพาะในเทคโนโลยี FidelityFX Super Resolution 4 (FSR 4) ซึ่งเป็นระบบอัพสเกลภาพด้วย AI ที่มุ่งเน้นการใช้งานบนความละเอียด 4K โดยผสานรวมกับ Frame Generation และ Anti-Lag 2 เพื่อให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
FSR 4 ใช้ประโยชน์จากหน่วยประมวลผล AI รุ่นที่สามของ RDNA 4 และจะรองรับเฉพาะการ์ดจอในซีรีส์ Radeon RX 9070 เท่านั้น โดยต้องใช้ร่วมกับเกมที่รองรับ FSR 3.1 อยู่ก่อนแล้ว เช่น Call of Duty: Black Ops 6 ซึ่งเป็นเกมแรกที่ได้รับการยืนยันว่าจะรองรับเทคโนโลยีนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าทำไม AMD จึงจำกัด FSR 4 ไว้เฉพาะในซีรีส์ 9070 หรือว่าการ์ดรุ่นต่ำกว่าหรือไม่ แต่การประกาศครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับคู่แข่งอย่าง NVIDIA ซึ่งเปิดตัว DLSS 4 ในงาน RTX 50 Showcase ในช่วงเวลาเดียวกัน
AMD ยังปรับชื่อรุ่นการ์ดจอใหม่ให้สอดคล้องกับคู่แข่ง โดยใช้ชื่อ Radeon RX 9000 สำหรับ RDNA 4 และชื่อ Radeon 8000 สำหรับ RDNA 3.5 ที่เน้นกลุ่มโน้ตบุ๊ก การ์ดจอ RX 9070 XT และ RX 9070 ได้รับการออกแบบมาเพื่อชนกับการ์ดจอระดับกลางในซีรีส์ RTX 40 และ RTX 50 อย่าง RTX 5070 หรือ RTX 4070 โดยมีผู้ผลิตอย่าง ASUS, Sapphire, XFX, ASRock, GIGABYTE และ PowerColor คาดว่าการ์ดจอทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2025
AMD ได้เปิดตัวชิปใหม่ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ตั้งแต่เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก ไปจนถึงเครื่องเล่นเกมพกพา ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแน่นอน สิ่งที่น่าสนใจคงเป็นตัว Ryzen AI MAX 300 ที่ดันค่า TDP สูงระดับ 120W หรือพอ ๆ กับซีพียูบนเดกส์ท็อปที่ต้องใช้ชุดระบายความร้อนด้วยน้ำเลยนะ ทำให้ประสิทธิภาพความแรงที่ได้น่าจะกระหึ่มอย่างแน่นอน แต่คาดว่าราคาเครื่องที่ใช้ชิปรุ่นนี้จะสูงตามไปด้วย โดยทั้งหมดนี้เตรียมเริ่มวางจำหน่ายในปี 2025 แน่นอน
Comment