ลือ AMD เตรียมเปิดศักราชใหม่ให้วงการการ์ดจอด้วยสถาปัตยกรรม RDNA 5 หรืออาจเปลี่ยนชื่อเป็น UDNA ซึ่งคาดว่าจะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ทั้งในด้านโครงสร้างภายในและกลยุทธ์การตลาด โดยรอบนี้ดูเหมือน AMD จะยังไม่ลงสนามชนตรงกับรุ่นท็อปของ NVIDIA อย่างซีรีส์ 90-class แต่จะยังคงเน้นกลุ่มตลาดระดับกลางถึงระดับสูงที่ให้ความคุ้มค่าในราคาเข้าถึงง่าย เหมือนแนวทางของ RX 9000 ซีรีส์ก่อนหน้าอย่าง RX 9070 และ RX 9070 XT ที่ได้รับเสียงตอบรับดีจากทั้งราคาและประสิทธิภาพที่ลงตัว
ข้อมูลที่หลุดออกมาระบุว่า RDNA 5 จะใช้ชิปตระกูล Navi 5X ซึ่งอยู่ในสถาปัตยกรรม GFX13 และคาดว่าจะผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร (N3E) ของ TSMC ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญหลังจากที่ RDNA 4 ยังคงใช้กระบวนการ 4 นาโนเมตร โดยแผนการผลิตคาดว่าจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2026 รุ่นท็อปของ RDNA 5 จะมาพร้อมจำนวน Compute Units มากกว่า Navi 48 ของ RX 9070 ถึง 50% และใช้บัสหน่วยความจำกว้างขึ้นเป็น 384 บิต พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ที่มีความจุเกิน 16GB ขึ้นไป ซึ่งหมายความว่า AMD น่าจะหยุด “กั๊ก VRAM” เหมือนในรุ่นก่อน ๆ แล้วหันมาใส่เต็มให้คุ้มค่ากว่าเดิม

อีกจุดที่น่าสนใจคือข่าวลือว่า AMD จะเปลี่ยนจากการออกแบบชิปแบบ monolithic ไปใช้โครงสร้างแบบ chiplet ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นในการผลิต และต้นทุนต่อหน่วย โดยในแต่ละ Compute Unit จะมีจำนวนคอร์เพิ่มเป็น 128 คอร์ ซึ่งมากกว่า RDNA 4 ถึงสองเท่า ทำให้ RDNA 5 ถูกคาดหมายว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่สำคัญของฝั่งแดง
ในรุ่นกลางของ RDNA 5 คาดว่าจะมาพร้อมสเปกระดับ 40 CU และ 24 CU หรือประมาณ 5,120 และ 3,072 คอร์ตามลำดับ ใช้บัสหน่วยความจำ 256 บิต ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 12 CU กับบัส 128 บิต ถึงแม้ตัวเลขดูไม่หวือหวาแต่ด้วยกระบวนการผลิตที่เล็กลงและหน่วยความจำ GDDR7 ก็เพียงพอจะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างเห็นได้ชัด โดยภาพรวมแล้ว AMD ยังคงมุ่งตลาดระดับกลางถึงสูง และยังไม่มีแผนทำรุ่นล่างสุดในตอนนี้

นอกจากสเปกแล้ว RDNA 5 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง Radiance Cores สำหรับการประมวลผล Ray Tracing ให้เร็วและแม่นยำขึ้น, Neural Arrays ที่ทำหน้าที่เหมือนหน่วยประมวลผล AI ภายใน GPU เพื่อช่วยในการเรนเดอร์ภาพด้วยเทคนิค neural rendering และ Universal Compression ซึ่งช่วยบีบอัดข้อมูลภายใน GPU เพื่อลดการใช้แบนด์วิธและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม เทคโนโลยีเหล่านี้น่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพกราฟิกและประสบการณ์เกมมิ่งไปอีกขั้น โดยเฉพาะเกมที่ใช้เทคนิคแสงเงาและ AI เข้ามาช่วย

ด้านราคายังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่ารุ่นท็อปของ RDNA 5 จะมีราคาอยู่ราว 1,000 ถึง 1,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 37,000 ถึง 55,000 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงเดียวกับ RX 7900 XTX ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ AMD คาดว่าจะเปิดตัว RDNA 5 อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2026 และอาจมีการโชว์ข้อมูลบางส่วนในงานใหญ่ระดับโลกอย่าง CES หรือ Computex 2026
หากข่าวลือทั้งหมดนี้เป็นจริง RDNA 5 จะกลายเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญที่สุดของ AMD ในรอบหลายปี ไม่เพียงแต่ในแง่ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีใหม่ แต่ยังรวมถึงแนวทางกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นความคุ้มค่าและสมดุลมากกว่าเดิม ซึ่งอาจทำให้ตลาดการ์ดจอกลับมาคึกคักอีกครั้งในปีหน้าแน่นอน
ที่มา : wccftech

Comment